“เหนือความคาดหมาย” คือคำนิยามของกระแสตอบรับจากการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของยามาฮ่าในงานมอเตอร์โชว์ 2017 ที่ผ่านมา ที่นอกจากจะฉีกกฎการดีไซน์แบบเดิมๆ กระจุยกระจายแล้ว ยามาฮ่า QBIX นี้ ยังเป็นต้นแบบของการควบรวมมอเตอร์ไซค์แบบออโตเมติกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นยุคดิจิตอล กลายเป็น Digitalmatic ครั้งแรกในโลกที่ตอบสนองความต้องการของชาว Gadgetster ได้แบบเต็มสิบคะแนน!
จากความตั้งใจเดิมของทางยามาฮ่าที่ต้องการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่เพื่อสร้างสีสันในงานมอเตอร์โชว์ โดยวางแผนที่จะเปิดขายพร้อมทำการตลาดช่วงสิ้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป แต่ปรากฏว่าหลังจากที่มีลูกค้าเดินเข้ามาสอบถามราคา และต้องการจับจองเป็นเจ้าของกันอย่างคับคั่ง จึงต้องปรับแผนเพื่อให้ทันกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่แบบทันท่วงที
“ตอนแรกเราแค่จะเผยโฉม วางแผนเปิดขายจริงช่วงสิ้นเดือนเมษายน แต่ตอนนี้มันหยุดไม่อยู่จริงๆ ต้องปล่อยจอง ต้องบอกราคา งงมาก โดยเฉพาะ feedback ในโลกออนไลน์นั้นมาแรงมากจริงๆ จนทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นต้องขอดู Communication Plan ทั้งหมด ให้เราไปพรีเซนต์ให้ดูที่ญี่ปุ่น เพราะไม่รู้เกิดอะไรขึ้น คำว่า QBIX จึงเต็ม Timeline ไปหมด กลายเป็นคำที่คนเสิร์ชหาเยอะที่สุด” คุณเพ็ญศรี สนขาว ผู้จัดการส่วนวางแผนสื่อ และส่งเสริมการตลาดของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เล่าถึงกระแสการตอบรับที่เหนือความคาดหมายจากการเปิดตัวยามาฮ่า QBIX ในครั้งนี้
“ก่อนจะมาเป็น QBIX นั้นทางเราก็ได้มีการทำวิจัยทางการตลาด เพื่อสำรวจทิศทางความต้องการของคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ เมื่อไลฟ์สไตล์ของกลุ่มวัยรุ่นมีโลกดิจิตอลเป็นหัวใจหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราจึงวาง positioning ของจักรยานยนต์ออโตเมติครุ่นนี้ ให้เป็นเหมือน Gadget ตัวหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตของคนรุ่นใหม่ และยังบ่งบอกตัวตนของผู้ขับขี่ด้วยดีไซน์ที่จัดว่าเป็น Trendsetter อันล้ำสมัยได้อีกด้วย”
เมื่อเราโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ที่ผูกติดตัวตนไว้กับโลกดิจิตอล รูปแบบการสื่อสารทางการตลาดของ Yamaha QBIX จึงต้องฉีกออกไปจากรูปแบบเดิมๆ ที่เราเคยทำมา โดยใช้แนวทางแบบ Digital Lead เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย มีทั้งการจัดทำซีรีส์แบบ VR 360, MV เพลง, ผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วตามด้วย Traditional Media อย่าง TVC หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Yamaha ในการเป็น Trendsetter ของวัยรุ่นยุคนี้ โดยมีการใช้พรีเซ็นเตอร์ 6 คนมาเป็นตัวแทนถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของคน Gen ใหม่ที่แตกต่างกัน ในรูปแบบของวิดีโอ 360 องศา
แบมแบม เป็นตัวแทนของคนหลงใหลเสียงเพลง, เจเจ เป็นผู้ชายแฟชั่นนิสต้า, กัปตัน เป็นสปอร์ตแมน ชื่นชอบเกม กีฬา, อัด เป็นเด็กผู้ชายที่ชอบถ่ายภาพ อัพ instagram, เบสท์ เป็นดีเจ กล้าแสดงออก พูดเก่ง, น้องมายด์ เป็นผู้หญิงที่มั่นใจ เป็น net idol มีคน follow เยอะ
ซึ่ง VR 360 องศานี้ก็ถือเป็นครั้งแรกของ พี่ย้ง–ทรงยศ จากค่ายนาดาว ที่มากำกับการแสดงในแบบ 360 ด้วย เป็นการทำงานร่วมกันที่สนุกสนานของทั้งผู้กำกับและ 6 นักแสดงที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คที่ดีในการทำงานเพราะในขณะทำการถ่ายทำตัวพี่ย้งไม่สามารถดูจอมอนิเตอร์ได้ในแบบปกติต้องให้นักแสดงแต่ละคนบอกเองว่าที่เล่นมาเมื่อกี้นั้นพอใจกับผลงานของตัวเองแล้วหรือยัง ถ้ามีคนใดคนหนึ่งยังคิดว่าตัวเองเล่นได้ไม่เต็มที่ ยังดีได้กว่านี้ก็จะเริ่มถ่ายใหม่แล้วค่อยมาตัดต่ออีกทีหลังจากที่ถ่ายเสร็จแล้ว
นอกจากตัว VR 360 ทางเราก็ได้ร่วมมือกับค่าย YG ของเกาหลีที่มีศิลปินดังๆ มากมายอย่าง BIGBANG และ 2NE1 เพื่อทำมิวสิกวิดีโอเพลง “Make it Right” โปรโมตตัว QBIX นี่ก็ถือเป็นครั้งแรกของทางค่าย YG เหมือนกันที่มีการทำ MV ให้กับคนนอกค่ายอีกด้วย
“เมื่อกลับมามองภาพรวมของตลาดมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันนั้น กลุ่มใหญ่ก็ยังคงเป็นรถแบบมีเกียร์ (Moped) ที่เน้นตอบโจทย์ด้านประโยชน์การใช้งาน กลุ่มรองลงมาก็คือออโตเมติกที่ยอดการเติบโตจะขึ้นอยู่กับความน่าสนใจของการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ส่วนแนวสปอร์ตก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยมียามาฮ่า R-Series และ M-SLAZ เป็นพระเอกหลัก”
กลุ่มเป้าหมายของออโตเมติก QBIX ที่จับกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น เป็นกลุ่มเดียวกันกับ Fino และ Filano เมื่อก่อน แต่ในตอนนี้ยามาฮ่า Fino นั้นเติบโตขึ้นกลายเป็นจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม Mass ไปแล้ว ใครๆ ก็ขี่ได้ ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น การเปิดตัว QBIX ในครั้งนี้จึงเป็นการเกิดใหม่ของดิจิตอลเมติกเพื่อตอบสนองความต้องการคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
การเปิดตัวยามาฮ่า QBIX ออกสู่สายตาชาวโลกในครั้งนี้ฉีกกฎเดิมๆ ที่วงการสองล้อบ้านเราเคยมีมาในหลายด้าน อย่างแรกเลยคือการฉีกรูปแบบดีไซน์จากหัวจรดท้าย อย่างที่สองคือการวางตำแหน่งเป็น Digitalmatic รุ่นแรกในเมืองไทยเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ อย่างที่สามคือรูปแบบการทำการตลาดแบบ Digital Lead ที่ร่วมงานกับค่ายเพลงเกาหลี YG และพี่ย้ง–ทรงยศ ในการสร้างรูปแบบคอนเทนต์ที่ยังไม่เคยมีรถจักรยานยนต์ค่ายไหนในประเทศเคยทำมาก่อน เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกที่น่าจับตาของยามาฮ่า ในการก้าวสู่การเป็น Trendsetter ที่คนรุ่นใหม่ต้องยกให้เป็นผู้นำด้านการพัฒนามอเตอร์ไซค์ที่ตอบโจทย์โดนใจคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง