หมดยุคแกรมมี่-อาร์เอส ได้เวลาค่ายเพลงบ้านนอก?

จากยุคที่ชื่อสร้างชื่อด้วยการซื้อพื้นที่สื่อเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งหน้าจอทีวีตลอดจนหน้าปัดวิทยุ และจากยุคที่วัดความสำเร็จกันด้วย “ยอดขาย” ประเภท ล้านตลับ ล้านแผ่น ณ วันนี้บรรยากาศที่ว่าแทบจะไม่มีอีกแล้วในวงการเพลงบ้านเรา…

การเข้ามามีบทบาทของสื่อโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ อินสตาแกรม ฯ เหล่านี้้ล้วนส่งผลให้นักร้อง-นักดนตรี ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการทำงานในระบบ “ค่ายเพลง” เหมือนในอดีตที่ต้องมีแผนกนั้น ฝ่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายดูแลภาพลักษณ์ศิลปิน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่คอยวิ่งติดต่อหาสื่อ ฝ่ายขาย ฯ มาคอยสนับสนุนอีกต่อไป

ภาพที่เห็นได้ชัดในเวลาต่อมาก็คือข่าวคราวการปรับลดขนาดองค์กรของสองค่ายเพลงใหญ่ อย่างแกรมมี่ฯ และอาร์เอสฯ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ค่ายใหญ่ต้องปรับตัวกันจ้าละหวั่น ในส่วนของคนทำเพลงอิสระตลอดจนค่ายเพลงเล็กๆ เองต่างก็ทยอยแจ้งเกิดเป็นที่รู้จักในวงกว้างกันอย่างมากมายโดยมีฐานจากโซเชียลเป็นที่ตั้งทั้งนั้น

“โอ พารา”

ไม่ว่าจะเป็นเพลง “มหาลัยวัวชน” ของ “วงพัทลุง” กับยอดวิวเกือบ 200 ล้านวิว ที่ทำให้เรารู้จักกับ “พาราฮัท มิวสิค” ค่ายเพลงใน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ที่ก่อตั้งโดย “ทิวากร แก้วบุญส่ง” หรือ “โอ พารา” นักร้องเพื่อชีวิตเจ้าของผลงานเพลง “เฟสบุ๊คบุกสวนยาง, ยางผลัดใบ” ฯลฯ ที่แทบจะไม่ใครเคยได้ยินหรือไม่รู้จักมาก่อน

“พอวงพัทลุงได้รับความนิยมก็มีน้องๆ ในท้องถิ่นประมาณ 70 ชีวิตเข้ามาร่วมงานกัน ผมเองก็มีความสุขกับการสานฝันให้เด็กๆ ในท้องถิ่น อย่างที่บอกเป้าหมายของผมไม่ได้เริ่มมาจากระบบธุรกิจ…ก็มีค่ายเพลงใหญ่มาทาบทามให้ไปร่วมงานด้วยนะครับ ผมก็บอกไปว่าผมพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ ที่สำคัญผมทิ้งกระท่อมเล็กๆ แต่เป็นความหวังยิ่งใหญ่ของเด็กๆ ในหมู่บ้าน เด็กๆ ในท้องถิ่นปักษ์ใต้ไปไม่ได้”

“เทพ มอร์แกน”

อีกหนึ่งค่ายเพลงจากแดนสะตอ TMG Record ค่ายนี้ต้องถือว่าแจ้งเกิดจากช่องทางยูทูบอย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นจากศิลปิน “วงกลม” เจ้าของเพลง อ้อร้อได้ถ้วย, หมาเหมือนเดิม ฯ ก่อนเป็นที่รู้จักในวงกว้างกับเพลง “เสร็จแล้ว” ของ วง “L.ก.ฮ ” ที่ตอนนี้มียอดวิวสูงกว่า 227 ล้านวิวไปแล้ว

โดยปัจจุบันค่าย TMG Record ในความดูแลของ “น้าเทพ” หนึ่งในสมาชิกวง “มอร์แกน” สังกัดค่ายอาร์สยามถือว่าไม่เล็กสักเท่าไหร่แล้ว เพราะมีศิลปินในสังกัดว่า 20 ศิลปิน และเพิ่งจะได้รับรางวัล รางวัล Gold Button จากงาน Youtube Summit 2017 โดยมียอดผู้ติดตามช่อง TMG Record Channel กว่าล้านคนเลยทีเดียว

“ลำไย-ประจักษ์ ไหทองคำ”

ขึ้นไปทางฟากอีกสานกันบ้างกับค่ายเพลง “ไหทองคำเรคคอร์ด” ที่มีศิลปินลูกทุ่งหมอลำสาวชื่อดัง “ลำไย ไหทองคำ” (สุพรรณษา เวชกามา) เป็นตัวชู โดยค่ายเพลงค่ายนี้มีอดีตนักร้อง-ดีเจ “ประจักษ์ชัย คนไคแหน่” (ประจักษ์ เนาวรัตน์) ที่เปลี่ยนนามสกุลมาเป็น “อ.ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นผู้บริหารและจัดการ

“สามารถ ทองขาว”

ตีคู่ความแรงสูสีๆ กับ “ลำไย ไหทองคำ” ในเวลานี้คงจะไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องหนุ่มจากชุมแพ อย่าง “แซ็ค ชุมแพ” หรือ “เบิ้ล ปทุมราช” เจ้าของ (เกือบ) 270 ล้านวิวในยูทูยจากเพลง “คำแพง” ในสังกัด “ต้นไม้มิวสิค” ที่มี “เอ๊ะ สายชล แผ่นผา” อดีตหัวหน้าวงทอแสง ค่ายท๊อปไลน์ฯ ดูแล โดยค่ายนี้เป็นค่ายย่อยของ “บิ๊กเลิฟ มิวสิค” ของ “ตั้ม สามารถ ทองขาว” อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังจากค่าย PGM ที่ทำให้เพลง “ศาลาพักใจ” ของวง “สแตมป์” ดังกระหึ่มกระทั่งเป็นที่มาของคำว่า “ลูกทุ่งเพื่อชีวิต” เมื่อครั้งทำค่าย DKS Music เมื่อสิบปีที่แล้ว

นอกจากภาษาที่ดูจริงใจ+แนวเพลงที่ค่อนข้างจะเป็นที่โดนใจคนฟังในวงกว้างโดยเฉพาะตลาดที่เป็นภูธร ต่างจังหวัด เป็นเสียส่วนใหญ่แล้ว กระแสความนิยมจากโลกโซเชียลเองยังมีส่วนทำให้ตัวเพลงและศิลปินเหล่านี้ดูมีระดับขึ้นมา ชนิดที่ต่อให้มาร้องมาเล่นในผับเธคหรูใจกลางกรุงเองดูไม่เคอะเขินแต่อย่างใดอีกต่างหาก

ที่สำคัญ ในขณะที่ค่ายใหญ่ต่างเก็บลิขสิทธิ์จากผลงานของศิลปินในสังกัดอย่างเคร่งครัดชนิดที่หลายคนมองว่าบ้าเลือด ค่ายเพลงเล็กส่วนใหญ่กลับไม่มีปัญหากับเรื่องตรงนี้ เพราะเชื่อว่าการที่ร้านอาหาร ตลอดจนนักร้อง-วงดนตรีรับจ้างทั้งหลายนำเพลงของศิลปินไปเล่นไปโชว์นั้นมันแสดงให้เห็นว่าเพลงและตัวของศิลปินในวังกัดตัวเองนั้นได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใดนั่นเอง

เพราะถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบันรายได้หลักของศิลปินนั้นไม่ได้อยู่ที่ยอดขายแผ่นซีดีแล้ว แต่อยู่ที่การโชว์ตัว การเล่นคอนเสิร์ต หรือว่าการแสดงในผับ ในร้านอาหารเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นถ้าสามารถสร้างชื่อให้ตนเองเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากโลกโซเชียลแล้ว โอกาสที่งานจะวิ่งชนมีสูงอย่างแน่นอน

“ช่วงนี้หน้าฝนปกตินักร้องจะงานน้อย แต่ลำไยยังมี 3-4 งานต่อวัน ฝนไม่ใช่อุปสรรคเราเล่นในผับ ในร้านบางทีมีงานถึงเช้า ต้องไปงานร้องต่ออีกนอนในรถนั่นแหละครับ รายการทีวีก็อัดไปแล้ว 30-40 รายการ ติดต่อมาอีกเยอะ ก็ทยอยๆกันไป…” ผู้บริหารค่ายไหทองคำเรคคอร์ดเผยถึงคิวงานของศิลปินชื่อดังในสังกัดตัวเอง

“ตอนนี้เรื่องลิขสิทธิ์ถามกันมาเยอะว่าจะเก็บค่าร้องไหม ตามร้านหรือที่นักร้องนำไปร้อง หวั่นกลัวจะโดนเราไปไล่จับ เราไม่เก็บครับ ร้องได้เลยไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยง วงหมอลำ วงลูกทุ่ง ในผับก็ไม่เก็บครับ เหมือนนักร้องดังๆ ที่เขาก็ไม่เก็บ ก็มีการคิดว่าถ้าเก็บยิบย่อยจริงๆ คงได้เดือนละหลายร้อยล้านแน่ๆ”

อย่างไรก็ตาม คงจะต้องจับตาดูกันต่อไปว่าในอนาคตแล้วค่ายเพลงเหล่านี้จะยังคงอยู่ยั้งยืนยงต่อไปหรือไม่ หรือเป็นเพียงกระแสที่เข้ามาประเดี๋ยวประด๋าว ซึ่งปัจจัยตรงนี้นอกจากคุณภาพของงานและกระแสในของตัวศิลปินเองแล้ว เรื่องของการบริหารจัดงานแบบมืออาชีพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

ที่มา : https://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000055274