ในโอกาสพิเศษที่ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต กรุงมิลาน ประเทศอิตาลีของกลุ่มเซ็นทรัล ครบรอบ 100 ปี กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับ สภานครมิลาน และพระราชวังปาลาซโซ รีอาเล (Palazzo Reale) จัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ ผ่านนิทรรศการประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ในธีม “Stories of Innovation” ที่แสดงประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่างๆ ของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต (la Rinascente) และย่านลา รีนาเชนเต ดิสทริค (la Rinascente District) พร้อมจัดกาลาดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ต้อนรับแขกผู้มาร่วมงาน ณ พระราชวังปาลาซโซ รีอาเล
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2460 หรือเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว กาบริเอเล ดันนุนซิโอ (Gabriele d’Annunzio) และเซเนอเตอร์ บอร์เลตติ (Senatore Borletti) สองนักธุรกิจอิตาเลียนวิสัยทัศน์ไกลได้เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าบอกโกนี ห้างโบราณใจกลางนครมิลาน ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2408 พร้อมปรับโฉมและเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ดูทันสมัยเป็น “ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต” ที่มีความหมายว่า Rebirth
(รีเบิร์ธ) การกำเนิดใหม่และการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ อันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญแห่งความเจริญ นวัตกรรม ศูนย์กลางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของเมืองมิลาน พร้อมช่วยยกระดับย่านลา รีนาเชนเต ดิสทริค ให้กลายเป็นแหล่งรวมความศิวิไลซ์สุดคลาสสิคของนครมิลาน และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับสากล
ย่านลา รีนาเชนเต ดิสทริค ถือเป็นย่านเก่าแก่สำคัญย่านหนึ่งของกรุงมิลาน เปรียบเสมือนจิตวิญญาณและตัวแทนความสง่างามของชาวเมือง ประกอบด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่งที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม แฟชั่น และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศอิตาลี ได้แก่ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต, มหาวิหารดูโอโม, ศูนย์การค้าแกลเลอเรีย วิตตอริโอ เอ็มมานูเอเลที่ 2, โรงละครสกาลา และพระราชวังปาลาซโซ รีอาเล ซึ่งเป็นสถานที่หลักในการจัดนิทรรศการและงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ในครั้งนี้
นิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาในแง่มุมต่างๆ ของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต และย่านลา รีนาเชนเต ดิสทริค ทั้งในเรื่องแฟชั่น ดีไซน์ สังคม ศิลปวัฒนธรรม และนวัตกรรมล้ำสมัย อาทิ
-
ห้องที่ 1 “ไทม์ไลน์” (Timeline) จัดแสดงประวัติความเป็นมาของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2408 ที่เป็นเพียงร้านเสื้อผ้า พัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้าในปีพ.ศ. 2460 และประสบความสำเร็จเรื่อยมาจนมีอายุครบร้อยปีในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังจัดแสดงวิวัฒนาการของเมืองมิลาน ที่ก้าวข้ามความเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ สู่เมืองแห่งความทันสมัยระดับสากล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน GDP ของประเทศอิตาลีให้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และยังเป็นผู้จุดประกายเทรนด์ใหม่ๆให้กับโลกยุคสากลอีกด้วย
-
ห้องที่ 2 “โลกใหม่” (The New World) จัดแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงกันระหว่างศิลปะ และพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต มีบทบาทสำคัญในด้านการนำศิลปะมาใช้ในเชิงพาณิชย์ ทั้งรูปแบบการจัดเรียงสินค้า ออกแบบสินค้า และการโฆษณาให้น่าสนใจ กระตุ้นให้ผู้คนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น โดยเน้นจัดแสดงในรูปแบบโมเดล และศิลปะแบบป็อปอาร์ต (Pop art) สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทุกคนที่เข้าชม นอกจากนี้ยังมีส่วนที่จัดแสดงเพื่ออุทิศให้แก่มาร์เซลโล ดูโดวิช (Marcello Dudovich) ศิลปินผู้ล่วงลับที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะภายในห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย หรือโปสเตอร์โฆษณา ทำให้ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต เป็นที่รู้จักในฐานะห้างชั้นนำด้านศิลปะ ซึ่งชิ้นงานต่างๆของดูโดวิชจะถูกนำมาปัดฝุ่นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในนิทรรศการครั้งนี้ด้วย
-
ห้องที่ 3 “ยุคปัจจุบัน” (Present Tense) จัดแสดงให้เห็นการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ที่เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และแฝงตัวไปกับชีวิตประจำวันของผู้คน ทำให้ห้างสรรพสินค้าและลูกค้ามีความสัมพันธ์กันแนบแน่นยิ่งขึ้น โดยวิธีนำเสนอจะใช้ดิจิตอล แพลทฟอร์ม และโซเชียล มีเดียเป็นหลัก เน้นให้ผู้เข้าชมมีประสบการณ์ร่วมผ่านดวงตาของตนเองอย่างสมจริง โดยปราศจากการสัมผัสสิ่งของดังเช่นห้องอื่นๆ เป็นการสื่อถึงอีกหนึ่งจุดเด่นของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ในด้านนวัตกรรมอันทันสมัย และการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างลงตัว
นอกจากนิทรรศการ 3 ห้องที่กล่าวมา ยังมีนิทรรศการห้องอื่นๆที่จัดเต็มทั้งรูปภาพ สิ่งของ และมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์เต็มอรรถรส และความประทับใจสูงสุด โดยนิทรรศการจะจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึง 24 กันยายน 2560 และมีค่าเข้าชมอยู่ที่ท่านละ 8 ยูโร พิเศษสำหรับผู้ถือบัตร ลา รีนาเชนเต การ์ด สามารถเข้าชมได้ในราคาเพียง 4 ยูโรเท่านั้น
อิปโปลิโต เปซเตลลินี ลาปาเรลลี (Ippolito Pestellini Laparelli) ดีไซน์เนอร์ชื่อดังแห่ง โอเอ็มเอ/เอเอ็มโอ (OMA/AMO) บริษัทผู้รับผิดชอบการออกแบบนิทรรศการครั้งนี้ เผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการรังสรรค์นิทรรศการเฉลิมฉลองลา รีนาเชนเต มิลาน ครบรอบ 100 ปี โดยนิทรรศการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบุคคลหลายฝ่าย ทั้งซานดรินา บานเดรา (Sandrina Bandera) ผู้เชี่ยวชาญด้านพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย, มาเรีย คาเนลลา (Maria Canella) ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมยุโรป ที่ช่วยคัดเลือกงานศิลปะ (curated) และให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ทำให้การจัดนิทรรศการครั้งนี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ และสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้เข้าชม ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซที่ตนรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง
ภายในงานมีแขกวีไอพีเข้าชมนิทรรศการมากมาย อาทิ ฟรานเชสโก ซาเวริโอ นิซิโอ (H.E. Mr. Francesco Saverio Nisio) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย, อิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิติมศักดิ์หอการค้าไทย และประธานกลุ่มมิตรผล, อัลฟอนโซ โดลเช่ (Alfonso Dolce) ซีอีโอแห่งโดลเช่ แอนด์ แกบานา (Dolce & Gabbana) และโรซานา ออแลนดิ (Rossana Orlandi) ดีไซน์เนอร์ผู้ทรงอิทธิพลของโลก โดยมีคณะผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัล และผู้บริหารห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ให้การต้อนรับ พร้อมรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในเอ็กซ์คลูซีฟ กาลาดินเนอร์ ณ ห้องอาหารสุดหรูในพระราชวังปาลาซโซ รีอาเล ที่ปรุงโดย คาร์โล แครกโค (Carlo Cracco) เชฟระดับมิชเชอลิน สตาร์ รังสรรค์อาหารเลิศรสต้อนรับแขกทุกท่าน สร้างความสุขและความอิ่มอกอิ่มใจให้กับแขกทุกท่านที่ได้ลิ้มลอง
ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า “ในฐานะผู้บริหาร รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกคนมาตลอดร้อยปี และต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนช่วยให้นิทรรศการเฉลิมฉลองครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างสวยงาม ในฐานะคนไทย รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้เห็นห้างสรรพสินค้าของคนไทยก้าวไกลระดับสากล และมีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของโลก จึงอยากจะขอเชิญชวนคนไทยที่มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนประเทศอิตาลี แวะมาชมห้างสรรพสินค้าของเราที่มีรางวัลระดับโลกการันตี พร้อมเปี่ยมล้นด้วยความเป็นไทย ทั้งด้านการบริการด้วยรอยยิ้มแบบไทย รวมถึงเทศกาลสินค้าและอาหารไทยที่แวะเวียนมาจัดแสดงและจัดจำหน่าย เพื่อโปรโมตแบรนด์ไทยภายในห้างสรรพสินค้าอยู่เสมอ โดยล่าสุดมีการจัดตั้งร้านอาหารไทยภัทรา ในแคมเปญ Taste of Thailand บริเวณชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต มิลาน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2560 เพื่อเผยแพร่อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักสากล และสร้างความรู้สึกใกล้ชิดประเทศไทยในบรรยากาศยุโรป สุดท้ายนี้อยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคนมาเยี่ยมชมนิทรรศการฉลองครบรอบร้อยปีของห้างลา รีนาเชนเต มิลาน ที่เราตั้งใจจัดทำขึ้น เพื่อจะได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาอันล้ำค่าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ และภาคภูมิใจในความเป็นไทยไปพร้อมๆกัน”
ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต เป็นห้างสรรพสินค้าของคนไทย ภายใต้การบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งได้เข้าซื้อกิจการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ด้วยงบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 260 ล้านยูโร ถือเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้ากลุ่มลักชูรี่ของกลุ่มเซ็นทรัลที่ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัล ภูเก็ต, อิลลุม, คาเดเว, โอเบอร์โพลลิงเกอร์, อัลสแตร์เฮาส์ และ ลา รีนาเชนเต ซึ่งล้วนได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมายจากหลากหลายสำนัก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต มิลาน สาขาแฟลกชิปสโตร์ ที่ตั้งตระหง่านข้างมหาวิหารดูโอโม ได้รับการขนานนามให้เป็น 1 ใน 13 ห้างสรรพสินค้าของโลกที่ทุกคนควรต้องไปเยือน โดย UK Business Insider เว็บไซต์ที่ทรงอิทธิพลด้านข่าวสารระดับโลกจากอังกฤษ และล่าสุดได้รับรางวัล “ห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดในโลก” จาก Global Department Store Summit (GDSS) สมาคมที่มีความสำคัญสูงสุดของเหล่าบรรดาธุรกิจห้างสรรพสินค้าทั่วโลก นับเป็นรางวัลทรงเกียรติสูงสุดของธุรกิจห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต มีทั้งหมด 11 สาขาในเมืองสำคัญใหญ่ๆ ทั่วประเทศของอิตาลี ได้แก่ มิลาน (Milan) มอนซา (Monza) แพดัว (Padova) ตูริน (Torino) เจนัว (Genova) ฟลอเรนซ์ (Firenze) กาลยารี (Caglari) ปาแลร์โม (Palermo) คาตาเนีย (Catania) และ กรุงโรม (Rome) 2 สาขา พร้อมเตรียมเปิดตัวสาขาใหม่อีกหนึ่งแห่งที่โรม ซึ่งจะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงของอิตาลี ตั้งอยู่ที่มุมถนน Via del Tritone ระหว่าง บันไดสเปน และ น้ำพุเทรวี สถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของกรุงโรม โดยตั้งเป้าให้สาขาที่ 12 นี้เป็นห้างสรรพสินค้าอันทันสมัยและครบวงจรที่สุดในอิตาลี และมีกำหนดพร้อมเปิดทำการในเดือนกันยายนปีนี้ นอกจากนี้ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนไทย สามารถใช้บัตรเดอะวันการ์ดในการสะสมแต้ม และแลกแต้มในการช้อปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเตทุกสาขาได้อีกด้วย
กลุ่มเซ็นทรัลภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งห้างหรูสุดคลาสสิคของยุโรป ลา รีนาเชนเต มิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งการครบรอบหนึ่งศตวรรษในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลมีพลังที่จะขับเคลื่อนห้างสรรพสินค้าและธุรกิจอื่นๆในเครือให้ประสบความสำเร็จยาวนานดังเช่นห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกในเวทีโลก พร้อมที่จะสร้างความตื่นเต้นและประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการค้าปลีกโลกได้ติดตามกันต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด