ภาพยนตร์โฆษณาสะเทือนอารมณ์ซาบซึ้งน้ำตาซึม ได้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของ “ไทยประกันชีวิต” ที่ใครได้เห็นก็จดจำได้ในทันที โฆษณาเหล่านี้ไม่ใช่แค่ได้รับการพูดถึงในประเทศไทยเท่านั้น หลายๆ ชิ้นได้รับการแชร์และส่งต่อจนกลายเป็นกระแส Talk of The Town ของผู้คนทั่วโลก ซึ่ง Philip Kotler บิดาแห่งการการตลาดยุคใหม่ได้นิยามโฆษณาในแบบไทยประกันชีวิตไว้ว่าเป็น SADVERTISING ที่สื่อสารอารมณ์ลึกซึ้งเข้าถึงจิตใจคนดูได้อย่างดีเยี่ยม
โดย Case Study ที่ Philip Kotler ได้พูดถึงในหนังสือ Marketing for Competitiveness : Asia to the World in the Age of Digital Consumers ด้วยการยกตัวอย่างภาพยนตร์โฆษณา Unsung Hero ของไทยประกันชีวิต ที่ได้รับการแชร์สูงสุดเป็นอันดับ 9 ของโลก เมื่อปี 2015 กับยอดวิวในปัจจุบันเกือบ 30 ล้านวิว ว่าเป็นตัวอย่างของการสร้างคอนเทนต์ในการผู้บริโภคในยุค Consumer Centric ที่ผู้บริโภคมีอำนาจในการเลือกเปิดรับสื่อ ด้วยการดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ด้วยตัวเอง
ซึ่งกระแสของ Unsung Hero นี้ นอกจากจะเรียกน้ำตาของคนที่ได้ชมคลิปแล้ว คลิปดังกล่าวยังจุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนออกมาทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นแก่สังคมรอบข้างอีกด้วย จากความคิดเห็นของชาวต่างชาติ โฆษณาของไทยประกันชีวิตนั้นควรค่าแก่การแชร์ให้ผู้อื่นได้ดู น้อยคนที่จะกดปุ่ม Search ใน Youtube เพื่อดูโฆษณา แต่กับไทยประกันชีวิต ถือเป็นข้อยกเว้น
โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด “โอกาส Opportunity” ถือเป็นอีกหนึ่งโฆษณา ที่สร้างสถิติใหม่ให้กับไทยประกันชีวิต ด้วยความนิยมสูงสุด เพียงครึ่งวันที่เผยแพร่โฆษณาทางโซเชียลมีเดียและ Youtube มีผู้ชมกว่า 5 ล้าน และภายใน 7 วันมีผู้ชมกว่า 20 ล้านวิว และถือเป็นโฆษณาที่จุดประกายให้คนพูดถึงโอกาส ในมิติต่างๆ ในวงกว้าง
โดย Core Value ที่ทางไทยประกันชีวิตสื่อสารผ่านหนังโฆษณาทุกเรื่องกว่า 15 ปีที่ผ่านมาก็คือ “คุณค่าของชีวิต” หรือ “Value of Life” ด้วยธุรกิจประกันชีวิตนั้นมุ่งส่งเสริมให้คนมีมุมมองต่อชีวิตที่ละเอียดลึกซึ้ง มองเห็นคุณค่าของความรัก คุณค่าของการดูแลกันและกันให้ดีที่สุด TVC ทุกๆ เรื่องจึงมีเหตุการณ์ให้เราย้อนมามองตัวเอง และฉุกคิดถึงผู้คนรอบข้าง
15 ปีของคอนเทนต์ SADVERTISING จากไทยประกันชีวิต
● พ.ศ. 2546 ภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด “คุณค่าของชีวิต หรือ Value of Life” เรื่องแรกได้เผยแพร่สู่สาธารณะชน “Peace of Mind” ทิ้งโจทย์ให้ผู้ชมได้ขบคิดว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร และคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตอยู่ที่ไหน
● พ.ศ.2547 โฆษณาเรื่อง “Everlasting Love” หรือ “ปู่ชิว” ถ่ายทอดคุณค่าของชีวิตและความรักผ่านชายผู้รักษาคำสัญญาและดูแลคนรัก ตลอดไป…โฆษณานี้ดังในชั่วข้ามคืน และยังอมตะอยู่ถึงปัจจุบัน
● พ.ศ.2548 “My Son” สะท้อนชีวิตของครอบครัวไทย ผ่านความไม่ลงรอยของลูกชายวัยรุ่นและพ่อ โดยสะท้อนให้เห็นคุณค่าของชีวิตในวันที่มี กัน และกัน…อย่ารอให้สายเกินไป
● พ.ศ.2549 “My Girl” เล่าเรื่องราวความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกอย่างไม่เสื่อมคลาย รวมถึงการให้อภัยในความผิดที่อาจเกิดขึ้น… หากเราเห็นคุณค่าของชีวิต และความรักซึ่งกันและกัน
● พ.ศ.2550 “Marry Me” ก่อนจะมีกระแสซีรีส์เกาหลีและโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) จะเป็นที่รู้จักของคนไทย โฆษณาที่เล่าความรักระหว่าง “แสงดาว” และ “ศรัทธา” ช่วยทำให้คนตระหนักถึงชีวิตและความรักชัดเจนขึ้น และตอนท้ายของโฆษณายังเชิญชวนให้คนบริจาค Stem Cell โฆษณาเรื่องนี้เป็นโฆษณาเรื่องแรกๆ ของประเทศ ที่ถูกชาวเน็ตนำไปทำใหม่ในเวอร์ชั่นของตัวเองจนเป็นปรากฏการณ์ ที่ดังที่สุดคงเป็นการนำไปล้อเลียนโดย “รายการสาระแน”
● พ.ศ.2551 “Melody of Life” ได้ขยายมิติคุณค่าของชีวิตกว้างกว่าในมุมของครอบครัว แต่เป็นคนในสังคม โดยได้แรงบันดาลใจจากเรื่องของ “แม่ติ๋ว” สุธาสินี น้อยอินทร์ ผู้ก่อตั้งบ้านโฮมฮัก ผู้ใช้ชีวิตของตัวเองทำให้คนอื่นได้มีชีวิตที่มีค่า…
โฆษณาเรื่องนี้ ถูกขนานนามว่าเป็น Viral Video อันดันต้นๆ ของไทย…ที่นอกจากทำให้สื่อและสังคมแชร์และพูดถึงโฆษณากันล้นหลาม (ขัดกับความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ช้ามากในยุคนั้น) และโฆษณานี้ปลุกกระแสความช่วยเหลือหลั่งไหล ไปสู่แม่ติ๋วและเด็กๆ ในบ้านโฮมฮักจนถึงปัจจุบัน
● พ.ศ.2553 “Que Sera Sera” โฆษณาเพลงที่ไม่มีบทพูดใดใดเลยก็เป็นปรากฏการณ์ในชั่วข้ามคืน เพราะเป็นเพลงที่คุ้นหูทุกคน แต่กลับทำให้ ผู้ชมเข้าใจความหมายของคุณค่าชีวิตได้จนน้ำตาซึม เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตที่ทุกคนกลับมาร้องได้อีกครั้ง โฆษณาเรื่องนี้เกิดเป็นกระทู้ใน Pantip.com อย่างกว้างขวาง ถือเป็น Earned Media ทางโลกดิจิตอล ที่มาแรงก่อนเทรนด์ดิจิตอลในประเทศ
● พ.ศ. 2554 เป็นตำนานอีกบทหนึ่งของโฆษณาไทยที่ดังไปไกลทั่ว “Silence of Love” หรือ “พ่อใบ้” เล่าถึงลูกสาวที่เกลียดพ่อของตัวเองและท้ายที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าเธออาจจะไม่ได้มีพ่อที่สมบูรณ์แบบที่สุดแต่มีพ่อที่รักเธอมากที่สุด
โฆษณาเรื่องนี้สร้างความนิยม “โฆษณาล้านวิว” ชิ้นแรกของประเทศไทย… ในขณะนั้นที่ Youtube เริ่มได้แพร่หลาย ไทยประกันชีวิต สร้าง Youtube ของตัวเองขึ้น และปล่อยโฆษณาเวอร์ชั่นเต็ม ความยาว 3 นาทีให้ได้ชมก่อนการ OnAir จริงทางโทรทัศน์… และผลก็เป็นอย่างที่ปรากฏโฆษณานี้ “สร้างยอดวิวได้กว่า 1 ล้าน ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์” และได้รับความสนใจไปทั่วโลก…
● พ.ศ. 2555 “Forget Me Not” สะท้อนคุณค่าของชีวิตและความรัก ผ่านชายผู้ที่ดูแลคนรักตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้ แม้ว่าฝ่ายหญิงจะลืมไปแล้วก็ตาม โฆษณาชิ้นนี้โรแมนติคจนสาวๆ อิจฉา และทำให้เพลง “ฟลอร์เฟื่องฟ้า” ของสุนทราภรณ์กลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้ง
● พ.ศ. 2557 “Unsung Hero” นำเสนอเรื่องราวของชายธรรมดาคนหนึ่งที่เชื่อในความดี และเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเองที่สามารถทำเพื่อคนอื่น และเปลี่ยนแปลงสังคมให้น่าอยู่ขึ้นได้
โฆษณาเรื่องนี้เป็นกระแสทั้งตอนที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ในไทย…และเป็นกระแสอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ถึงขนาด Ashton Kutcher ดาราฮอลีวู้ดและผู้มีชื่อเสียงรวมทั้งสำนักข่าวต่างประเทศแชร์หนังและกล่าวชม ขณะนี้โฆษณามียอดวิวขณะนี้ที่เกือบทะลุ30 ล้าน
● พ.ศ. 2559-2560 “โอกาส Opportunity” โฆษณาตัวใหม่ล่าสุดที่เผยแพร่ตั้งแต่ปลายปี 2559 และยังมีเวอร์ชั่นใหม่เมื่อกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่อเรื่องเล่าถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ชีวิตมีแต่เรื่องเลวร้าย และในวันที่เธอแย่หมดหวังที่สุดในชีวิต เธอกลับพบว่าการมีชิวิตอยู่คือโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้เธอได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิต และทำชีวิตตัวเองมีคุณค่า
โฆษณาไทยประกันชีวิต จึงถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของประเทศไทยที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุด ยากที่ใครจะลอกเลียนแบบ เพราะเป็นแบรนด์ที่มั่นคงในการสื่อสารใน Core Value เดียว “คุณค่าของชีวิต หรือ Value of Life” มาต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี