ห้างเซ็นทรัลครบ 70 ปี ได้เวลาปรับใหญ่ รับโจทย์ พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน เพิ่มแฟชั่น-ร้านอาหาร เติมไลฟ์สไตล์ เน้นสร้างประสบการณ์เข้าห้าง เชื่อมต่อทุกช่องทางเป็น Omni channel ขยายต่างประเทศ ดันรายได้เพิ่ม 10%
เปิดให้บริการมายาวนานถึง 70 ปี ได้เวลาที่ “ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล” ต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่เพื่อให้ทันต่อยุคสมัย รับกับพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ในปีนี้จึงมีปรับและขยับขยายครั้งใหญ่ โดยทุ่มงบ 350 ล้านบาท หวังให้ห้างเซ็นทรัลเป็นบ้านหลังที่สองของลูกค้า
เริ่มจากการรีแบรนด์ ปรับโลโก้ทันสมัย เป็นตัวพิมพ์ จากเดิมที่เป็นตัวเขียนสื่อถึงความหนักแน่นขึ้นโลโก้จะเข้าไปอยู่บนถุงใหม่ทั้งหมด
พร้อมกับการใช้งบลงทุน 1,300 ล้านบาท ปรับโฉมห้างครั้งใหญ่ เช่น สาขาบางนา สาขาปิ่นเกล้า สาขาพระราม 3 จะเสร็จในเดือนธันวาคม และมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่งคือ ห้างเซ็นทรัลนครราชสีมา เปิดเดือนพฤศจิกายนนี้ และห้างเซ็นทรัลภูเก็ต เปิดในปี 2561
ถ้าพูดถึงภาพรวมของกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.ห้างในประเทศ มีห้างเซ็นทรัล เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เซน โรบินสัน Mark&Spencer และซูเปอร์สปอร์ต 2.ห้างในยุโรป ได้แก่ ลา รีนาเซนเต, อิลลุม, อัลสแตร์เฮาส์, คาเดเว และโอเบอร์โพลลิงเกอร์ 3.ห้างในเอเชีย ได้แก่ ห้างเซ็นทรัลในอินโดนีเซีย 4.ธุรกิจร่วมทุน ได้แก่ มูจิ และโคโมโนยา
จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของกลุ่มเซ็นทรัลก็คือ การเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าในยุโรปตั้งแต่ปี 2554 เริ่มต้นที่ลา รีนาเชนเตที่มิลาน ในปีปี 2556 ได้ซื้อกิจการ “อิลลุม (IIIum)” ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่สุดในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก จากนั้นปี 2558 ลงทุนซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าในประเทศเยอรมนี 3 แห่ง ได้แก่ ห้างคาเดเว (KaDeWe) ห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์ (Oberpollinger) และห้างอัลสแตร์เฮ้าส์ (Alsterhaus) เป็นการบุกตลาดยุโรปอย่างเต็มสูบ
เพิ่มพอร์ตรายได้ต่างประเทศ
กลุ่มเซ็นทรัลจึงได้สร้าง Central Luxury Collection วางจุดยืนเป็นห้างระดับหรูหรา เน้นในที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ในประเทศไทย ได้รวมเซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่เข้าไปด้วย รวมถึงเซ็นทรัลภูเก็ตที่จะเปิดให้บริการปี 2561 เพื่อเป็นการวางภาพลักษณ์พรีมี่ยม จับกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมขึ้น รวมถึงกลุ่นักท่องเที่ยว ซึ่งเติบโตสูง
โดยหลังจากที่มีห้างสรรพสินค้าสุดหรูในยุโรปมาเติมพอร์ต จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลเองก็มีการเติบโตที่สูงขึ้น ในช่วงแรกปี 2551-2553 มีการเติบโตเฉลี่ย 6% แต่หลังจากปี 2554 มีการเติบโตถึง 30% มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% รายได้ในประเทศ 80% จนถึงช่วงปี 2559 ที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลมีรายได้จากต่างประเทศขึ้นเป็น 40% รายได้ในประเทศ 60%
ยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัลได้มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้เป้นปีที่ 70 เป็นปีสำคัญ การปรับตัวก็มีหลายอย่างตั้งแต่สินค้าจะมีสินค้าใหม่ๆ คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ โลโก้ใหม่ทันสมัยขึ้น การแต่งห้างรูปแบบใหม่ เน้นไลฟ์สไตล์คนเมืองเพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการตลาดใช้ดิจิทัลมากขึ้น ตอนนี้แค่ขายของอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องให้ลูกค้าเข้ามาใช้ชีวิต ให้เป้นบ้านหลังที่สองของเขา”
เพิ่มแฟชั่น-ร้านอาหาร เติมไลฟ์สไตล์
การที่เซ็นทรัลออกไปบุกตลาดยุโรปมากขึ้น เพราะด้วยสถานการณ์ในประเทศมีการเติบโตไม่ค่อยสู้ดีมากนัก เพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีกำลังซื้อ แต่สำหรับในประเทศได้มีการปรับตัว ปรับโฉมอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้
ยุวดี บอกว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก คนใช้เงินไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีมานี้ การเดินห้างก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการซื้อของอย่างเดียว เพราะเขาอาจจะไปช้อปปิ้งที่ต่างประเทศแล้ว ต้องเติมไลฟ์สไตล์อื่นๆ เข้าไปจะเน้นร้านอาหารเป็นหลัก หรือไลฟ์สตล์อื่นๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้ชีวิตในห้าง หรือมีการเพิ่มกิจกรรมอีเวนต์ที่จะดึงดูดผู้บริโภคได้
ความท้าทายที่สุดในตอนนี้ก็คือ ลูกค้ามีทางเลือกมากมาย ต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเซ็นทรัลให้มากที่สุด เลือกใช้บริการเครือข่ายของเซ็นทรัลให้มากที่สุด จำเป็นต้องเพิ่มสินค้า บริการ และไลฟ์สไตล์ให้ตอบโจทย์
เชื่อมต่อทุกช่องทางเป็น Omni channel
กลยุทธ์การเข้าสู่ Omni Channel ของเซ็นทรัลได้พูดถึงมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่แค่ช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์อย่างเดียว แต่ต้องผนึกทุกช่องทางเข้าด้วยกัน Omni Channel ของเซ็นทรัลจะประกอบไปด้วยโซเชียลมีเดียที่ไว้ใช้สื่อสารกับลูกค้า และมีแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นของเซ็นทรัล ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ที่ได้มีการปรับโฉมเช่นกัน เพื่อให้ตรงกับความต้องการลูกค้ามากขึ้น โดยที่จะมีการสื่อสาร 2 ทาง มีการแจ้งโปรโมชั่น ข่าวสาร พูดคุยได้ แจ้งแบบส่วนบุคคลเป็น Personalization ไม่ใช่แจ้งโปรโมชั่นแบบรวมๆ
รวมถึงแพลตฟอร์มช้อปออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.central.co.th ซึ่งเซ็นทรัลต้องการปั้นให้เป็นอีกหนึ่งสาขาของเซ็นทรัลเลย
โดยล่าสุดเซ็นทรัลได้เปิดตัวเว็บไซต์ AuxVillesDuMonde.com (AVDM) และแอปพลิเคชั่น ที่สามารถหาข้อมูลท่องเที่ยวของเมืองที่มีสาขาตั้งอยู่ในยุปโรป ติดต่อคนแนะนำการท่องเที่ยวได้ หรือติดต่อจองร้านอาหารโรงแรมก็ได้ บริการนี้จะเป็นบริการข้ามแดนที่เซ็นทรัลมีแผนผนึกเครือข่ายทั่วโลก ให้สามารถช้อปปิ้งแบบข้ามพรมแดนได้
ในปีนี้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลตั้งเป้ารายได้รวม 130,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% แบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 60% และรายได้ต่างประเทศ 40%