ชีวิต ควรอยู่กับปัจจุบัน สิ่งที่ผ่านมาแล้วเป็นอดีต เราควรพึงระลึกไว้ว่าปัจจุบันควรทำความดีทันที อย่าคิดเสียว่าพรุ่งนี้ค่อยทำ อาทิตย์หน้าค่อยทำ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นอนาคต เรามิอาจทราบได้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น หากคิดจะทำความดีแล้วควรกระทำเลย ไม่จำเป็นต้องรอ ธรรมบรรยาย หัวข้อ “ชีวิตดีได้ ไม่ต้องรอ” โดยคุณกฤษณะ บุญยะชัย จากสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ ผ่านเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น ณ อาคารซีพี ทาวเวอร์ให้ประชาชนกว่า 300 คน ได้คิดตามและนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
การทำความดี ทำได้โดยง่าย ไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าตักบาตร หรือไปบริจาคโลงศพ สิ่งแรกที่เราทำได้โดยง่ายคือการให้ ให้รอยยิ้ม ให้อภัย ให้ความรักแก่กันและกัน สิ่งเหล่านี้ก็เป็นบุญเช่นกัน อีกทั้งควรมีสติ สติคือการพึงระลึกรู้ เข้าใจว่าทุกสิ่งเป็นธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป สถานะของเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างไม่จิรังยั่งยืน ฉะนั้นชีวิตต้องดำเนินอยู่บนความไม่ประมาท ทำแต่สิ่งที่ดี มีสติ สมาธิ แล้วจะเกิดปัญญา ทุกสิ่งที่เรากระทำจึงจะมีประสิทธิภาพ และประสบผลสำเร็จ
เมื่อเกิดปัญหา เราอาจจะกลุ้มใจ และคิดว่าทำไมต้องเกิดปัญหา ทำไมปัญหาถึงเยอะ แต่แท้จริงแล้วปัญหากับงานเป็นของคู่กัน ปัญหาคือธรรมะ ในงานธรรมะคือธรรมชาติ พึงคิดเสียว่าเป็นธรรมชาติของชีวิตที่จะต้องเกิดปัญหา ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบเสียหมดทุกอย่าง เรามีหน้าที่แก้ปัญหา เรามีโอกาสสร้างคุณงามความดีแก่ตนเองและองค์กร เพียงแต่เราต้องแก้ปัญหานั้นให้หายไป จึงจะเกิดสุข กุญแจแห่งความสุข ควรอยู่ที่เรา อย่าขึ้นอยู่กับคนอื่น เพราะหากเราคิดว่า ทำไมคนนั้นถึงไม่ทำเช่นนี้ ทำไมสิ่งนั้นไม่เป็นดั่งใจ เกิดคำถามที่ทำให้จิตใจเราเกิดทุกข์ตลอดเวลา เราก็จะไม่มีความสุข ดังนั้นเราควรเก็บกุญแจแห่งความสุขไว้ที่ตนเอง กำหนดความสุขได้ที่ตัวเอง มีสติ หากทำได้เช่นนี้แล้ว ชีวิตเราก็จะเป็นสุข
“การทำความดีอย่าทำเพียงวันเดียว แต่ควรกระทำเรื่อยๆ บันทึกลงในจิตใจของเรา การทำความดี เรียนรู้ธรรมะเป็นเรื่องที่ชวนผู้อื่นได้ เพียงแต่วิธีชวนนั้นคือการกระทำให้ดู ทำตนเองให้มีความสุขให้คนอื่นเห็น ทำตนให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เมื่อผู้อื่นเห็นแล้วเขาจะเกิดสุขแล้วจะทำตามเองโดยไม่ต้องเอ่ยปากชวน”
ฉะนั้นชีวิตจะดีได้ อยู่ที่เราเลือก ควรทำเสียตั้งแต่ปัจจุบัน ก่อนที่เราจะกระทำอะไรด้วยอารมณ์ โลภ โกรธ หลง พึงมีสติ คิดก่อนที่จะทำ เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นความสุข หรือความทุกข์เป็นสิ่งที่เราเลือกเองทั้งนั้น ฉะนั้นเราสามารถกระทำความดีได้ตลอดเวลา ด้วยจิตอันมี เมตตา คือปรารถนาอยากให้เขามีความสุข โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน กรุณาคือ เห็นใครทุกข์เราลงไปช่วย มุทิตา คือ เมื่อเขาได้ดี พ้นทุกข์ ปลื้มใจไปกับเขา อุเบกขา คือช่วยได้แค่นี้ ทำได้เท่านี้ วางใจอยู่เฉย และยอมรับกับสิ่งเหล่านั้น ชีวิตเราก็จะดำเนินด้วยจิตอันมีความสุขตลอดไป
ข้อคิดดีๆ สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” หนึ่งในโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของ เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00 – 13.00 น. ชั้น 11 ซีพี ทาวเวอร์ ถนนสีลม หรือติดตามชมได้รายการ “พุทธปัญญาภิรมย์” ช่อง 16 (TNN NEWS 24) เวลา 07.00-07.30 น. ทุกวันเสาร์และอาทิตย์