ในวันที่สตาร์ทอัพกำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดต่างก็ปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ การคิดและทำอย่างมืออาชีพ คือหนึ่งในคำแนะนำที่กูรูจาก อินเว้นท์ (InVent) โครงการธุรกิจร่วมทุนของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หนี่งใน Venture Capital สัญชาติไทย ให้ข้อแนะนำและเคล็ดลับก้าวสู่ความสำเร็จสำหรับสตาร์ทอัพไทย
ในงาน “Startup Thailand 2017: Scale up Asia” ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ อินเว้นท์ได้ร่วมออกบูธจัดนิทรรศการ พบปะผู้ประกอบการธุรกิจรุ่นใหม่ด้านเทคโนโลยี พร้อมถ่ายทอดความรู้ คำปรึกษา และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจต่อยอดธุรกิจเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ
ภายในงานนี้ อินทัชได้ยกทัพผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในรูปแบบ Venture Capitalมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารระบบจัดการภายในขององค์กรธุรกิจ และแนวทางการหาผู้ร่วมลงทุนที่เหมาะสมให้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพแต่ละรายที่มีเป้าหมายแตกต่างกันไป พร้อมเชิญผู้บริหารธุรกิจสตาร์ทอัพที่อินเว้นท์ได้ร่วมลงทุน ได้แก่ ดิจิโอ (Digio) และวงใน (Wongnai) มาถ่ายทอดประสบการณ์ในช่วงเสวนาพิเศษ “Build up Business with Corporate”
นายนพพร ด่านชัยนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการระบบชำระเงินและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) อันดับ 1 ของไทย หนึ่งในสตาร์ทอัพของไทยรายล่าสุดที่ได้รับการสนับสนุนจากอินเว้นท์ แนะนำว่า “อย่าคิดว่าตัวเองเป็นสตาร์ทอัพ เพราะจะทำให้เราทำงานได้เท่าเดิมเราต้องผลักดันตัวเองให้ทำงานแบบมืออาชีพ (professional) ส่งงานตรงเวลา รักษาคุณภาพของงานและเมื่อผนวกกับการทำสิ่งที่เราชอบ เรามีความมุ่งมั่นกับมันจะทำให้เราทำออกมาได้ดีกว่าคนอื่น ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกต่างและโดดเด่นจนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด”
อีกหนึ่งผู้บริหารสตาร์ทอัพที่เคยได้รับการสนับสนุนจากอินเว้นท์ นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์แนะนำร้านอาหารอันดับ 1 ของไทย แนะว่า “เมื่อทำงานร่วมกับบริษัทอื่น สตาร์ทอัพจะต้องรู้จักปรับตัวเข้าหากัน มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กัน นั่นคือ “ความดีสะสม” ที่เราสร้างไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายแทนบริษัทของเราในวงการ ใครๆ จะได้พูดถึงความดีที่เราเคยทำ และอยากทำงานร่วมกับเรา ทำให้เราเติบโตไปด้วยกันในระยะยาว สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่จำนวนสตาร์ทอัพ แต่อยู่ที่คุณภาพการบริการ คุณค่าที่สร้างขึ้นว่าจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการได้มากน้อยแค่ไหน จงมุ่งหวังที่จะสร้างสิ่งนั้นให้ใหญ่ และมีคุณค่าจริงๆ จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน ”
นับตั้งแต่ก่อตั้งมา โครงการอินเว้นท์ได้ร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพแล้วทั้งหมด 11แห่ง รวมถึงวงใน (Wongnai) และผู้นำแพลตฟอร์มอีบุ๊คในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง อุ๊คบี (OokBee) โดยนอกจากจะให้การสนับสนุนด้านการเงินแล้ว ยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในภาพรวมทั้งหมด เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครบวงจร อาทิ การบริหารระบบจัดการภายใน (Back Office) การเป็นที่ปรึกษาในเรื่องแนวคิดและการตัดสินใจทางธุรกิจ การให้ความช่วยเหลือในด้านกฎหมาย บัญชี และการเงิน
จุดแข็งหนึ่งคือ สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากอินเว้นท์จะสามารถเพิ่มโอกาสเข้าถึงและขยายฐานลูกค้าผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของเอไอเอสซึ่งเป็นบริษัทลูกของอินทัชที่มีลูกค้าอยู่กว่า 40 ล้านคน และเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม ทันสมัย ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้โครงการอินเว้นท์ยังเข้าไปช่วยเหลือสตาร์ทอัพในการเจาะตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ผ่านเครือข่ายทางธุรกิจของอินทัชอีกด้วย
นายคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารการลงทุน และหัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุน อินเว้นท์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีแผนธุรกิจชัดเจน มีฐานลูกค้าจากการออกสินค้าหรือบริการสู่ตลาดซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในธุรกิจที่ทำอยู่ ประสบการณ์และความสำเร็จของสตาร์ทอัพที่เคยร่วมงานกับเรา เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และความเชี่ยวชาญของอินเว้นท์ที่พร้อมจะผลักดันสตาร์ทอัพเข้าสู่การเป็นธุรกิจชั้นนำ ผมเชื่อว่างานสตาร์ทอัพไทยแลนด์ในครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจและหวังว่าผู้ประกอบการที่ต้องการต่อยอดธุรกิจของตัวเองจะนำความรู้และคำแนะนำต่างๆ จากงานนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์”นายคิมห์ กล่าว
บูธของอินทัชในงาน “Startup Thailand 2017: Scale up Asia” และงานเสวนา “Build up Business with Corporate” ได้รับความสนใจจากทั้งผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพ นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก และนี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ย้ำความเป็นVenture Capital ของอินเว้นท์ที่น่าจับตามองที่สุดของประเทศไทย ณ ขณะนี้
เกี่ยวกับ อินทัช
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมโยงความต้องการของคนไทยเข้ากับเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงสร้างมูลค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม ผลจากความมุ่งมั่นพัฒนาทำให้อินทัช ได้รับรางวัลและการรับรองต่างๆ มากมาย อาทิ รางวัล “สุดยอดหุ้นขวัญใจมหาชน” และ “หุ้นขวัญใจมหาชนกลุ่มเทคโนโลยี” สามปีซ้อน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ รางวัล “ผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม” (Best CEO Awards) และรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม (Best Company Performance Awards) ในกลุ่มที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท จากงาน SET AWARDS 2015 รวมไปถึงรางวัลระดับภูมิภาคอย่างASEAN Corporate Governance Awards 2015 และรางวัล Asian Excellence Recognition Awards 2015จัดโดยนิตยสาร Corporate Governance Asia รางวัล “นักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม” (Best Investor Relations Award) ประจำปี 2558/2559 จากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analysts Association หรือ IAA) และ รางวัล “Investor’s Choice Award” จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เมื่อไม่นานมานี้ อินทัช ยังได้รับรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานดีเด่น จากงานประกาศรางวัล “SET Awards 2016” และรางวัลหุ้นยั่งยืน จากงานมอบรางวัลด้านความยั่งยืน SET Sustainability Awards 2016 เป็นปีที่ 2 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกด้วย
ปัจจุบันการลงทุนของอินทัช ประกอบด้วย ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไร้สาย ดำเนินงานภายใต้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศ ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ อาทิ ไฮ ช็อปปิ้ง และโครงการ อินเว้นท์ (InVent) เป็นต้น ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.intouchcompany.com