บริษัท คอนเนอร์ยี เอเชียและตะวันออกกลาง จำกัด (Conergy Asia & ME Pte. Ltd.) และบริษัทในเครือ (ในที่นี้รวมเรียก “คอนเนอร์ยี” หรือ“บริษัทฯ”) ได้ประกาศในวันนี้ว่า กองทุนที่บริหารโดย บริษัท เทนเนนบาว์มแคปปิตอล พาร์ทเนอร์ จำกัด (Tennenbaum Capital Partners หรือ TCP) และบริษัท โกลด์แมน แซคส์ บีดีซี (Goldman Sachs BDC, Inc. หรือ GSBD) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาธุรกิจที่บริหารโดย บริษัท โกลด์แมน แซคส์ แอสเซ็ท แมเนจเมนต์ (Goldman Sachs Asset Management หรือGSAM-) ได้ลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อเข้าควบรวมกิจการของบริษัทฯ จากบริษัท คาวา โซลาร์ โฮลดิ้ง ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวได้สำเร็จลุล่วงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมานี้
คอนเนอร์ยีมีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา การออกแบบ การให้คำปรึกษาด้านการเงิน การก่อสร้าง และการบริหารจัดสินทรัพย์ในระยะยาว ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภค และการผลิตกระแสไฟฟ้าในระดับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Utility Scale) คอนเนอร์ยี ยังเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (Engineering Procurement and Construction – EPC) และยังเป็นผู้ให้บริการควบคุมการปฏิบัติงานและบำรุงรักษาแก่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายๆ แห่งซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันราวครึ่งกิกะวัตต์ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท คอนเนอร์ยีมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเกือบ 2 กิกะวัตต์ทั่วโลก โดยบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ไทย ฟิลิปปินส์ พม่า และเยอรมนี
มร. อเล็กซานเดอร์ เลนซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคอนเนอร์ยี กล่าวว่า “ธุรกรรมในครั้งนี้จะก่อให้เกิดมูลค่าอันมหาศาลแก่ธุรกิจ พนักงานและลูกค้าของเรา ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คอนเนอร์ยี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งทำให้เราเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มในการเติบโตที่ดีเยี่ยม ประสบการณ์ที่ยาวนานและความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่งของ เทนเนนบาว์ม แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ และ โกลด์แมน แซคส์ บีดีซี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่คอนเนอร์ยี อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถให้เราได้สานต่อโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคนี้และดำเนินแผนการเพื่อความเติบโตในประเทศออสเตรเลีย และตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และญี่ปุ่นต่อไป”
คอนเนอร์ยีได้เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2549 และได้สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในทั่วประเทศ ในจังหวัดสำคัญๆ เช่น พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี รวมกำลังการผลิตกว่า 132 เมกะวัตต์
คอนเนอร์ยีได้ดําเนินการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับบริษัทชั้นนำของไทยอย่าง บี กริมม์ (B. Grimm) ซิมไบโอร์ (Symbior) ซีเค พาวเวอร์ (CK POWER) สยาม โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (Siam Solar Energy 1) ยันฮี โซล่า (Yanhee Solar) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี (Ratchaburi Electricity)
มร.มาร์ค โลฮอฟ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของคอนเนอร์ยี กล่าวเสริมว่า “ผมมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าพันธมิตรด้านการจัดหาวัสดุและสิ่งก่อสร้างของเรา ก็มีความเชื่อมั่นในผู้ลงทุนใหม่เช่นเดียวกับเรา การลงทุนในครั้งนี้จะยิ่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของเราในฐานะผู้ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ระดับแนวหน้าในตลาดเอเชียแปซิฟิก และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาวในฐานะผู้นำในการพัฒนาในด้านโครงการเพื่อการพลังงานแสงอาทิตย์/การเงิน การก่อสร้างและการดำเนินการ”
ราชนีช วิค หุ้นส่วนผู้จัดการของเทนเนนบาว์ม แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า “การเข้าควบรวมกิจการครั้งนี้ทำให้เราและโกลด์แมน แซคส์ บีดีซี ได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหนึ่งในบริษัทด้านพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสบการณ์มากที่สุดบริษัทหนึ่ง ทั้งยังได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตลาดของเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดด้านพลังงานแสงอาทิตย์ที่น่าดึงดูดใจมากที่สุดตลาดหนึ่งของโลก เราตั้งตารอความสำเร็จของคอนเนอร์ยีสืบไป”