เมื่อปี 2016 หนังสือพิมพ์ไมนิจิของญี่ปุ่นได้เผยผลสำรวจอาชีพที่เด็กญี่ปุ่นอยากเป็นมากที่สุด จากการทำแบบสำรวจเด็กนักเรียนชายชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซาก้า พบว่าอาชีพ YouTuber หรือผู้ที่อัดคลิปวิดีโอลงเว็บไซต์ YouTube เป็นอาชีพที่ได้อันดับ 3 รองจากอาชีพยอดนิยมอย่างหมอและนักฟุตบอลเลยทีเดียว
สำหรับเหตุผลที่เด็กๆ เลือกอาชีพนี้กันเยอะก็เป็นเพราะว่า YouTuber สามารถทำรายได้ได้มากโดยไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งหรือเรียนสูงนั่นเอง และล่าสุดในปีนี้ทาง Sony Life ก็ได้ทำแบบสำรวจเดียวกันกับนักเรียนชายหญิงชั้นประถม 200 คน และชั้นมัธยม 800 ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาอาชีพ YouTuber ได้อันดับ 3 อีกเช่นกัน แต่คราวนี้เป็นรองอาชีพวิศวกรไอทีและนักพัฒนาวิดีโอเกม
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา FULMA บริษัทผู้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาสำหรับเด็กประถมได้สร้างความฮือฮาในวงการการศึกษาของญี่ปุ่น ด้วยการเปิด “YouTuber Academy” เป็นโรงเรียนสอน YouTuber แห่งแรกของญี่ปุ่นเพื่อตอบรับกับกระแสความนิยม YouTuber ของเด็กๆ ในเวลานี้
ตัวหลักสูตรที่เปิดสอนมีตั้งแต่วิธีการตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น, วิธีการพูดหน้ากล้องด้วยความมั่นใจ, ไปจนถึงการสร้างความน่าสนใจของตัวเอง แต่แม้ว่าความนิยมในอาชีพ YouTuber จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในหมู่เด็กญี่ปุ่น ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ที่ไม่เห็นด้วยในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่มองว่าอาชีพนี้จะทำให้เด็กๆ ไม่มุ่งเรียนและขี้เกียจด้วยเช่นกัน
地獄の入り口みたいな本が出ていた pic.twitter.com/a2ci2kEZG4
— 赤祖父 (赤ソファ) (@akasofa) July 22, 2017
คำแปล Twitter: มีหนังสือที่เหมือนเป็นประตูทางเข้าสู่นรกออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทาง YouTuber Acadecy กลับเห็นต่างออกไป โดยมองว่าขั้นตอนการเรียนเพื่อเป็น YouTuber ที่ประสบความสำเร็จนั้นจะช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างรอบด้าน ครอบคลุมถึงการทดลองวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นธีมวิดีโอที่ได้รับความนิยมในหมู่ YouTuber ญี่ปุ่นทุกวันนี้ และยังเป็นตัวช่วยจุดประกายความมั่นใจและทักษะการนำเสนอตัวเองสำหรับเด็กที่ขี้อาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ห้องเรียนในโรงเรียนญี่ปุ่นอาจจะยังขาดอยู่
จากข้อมูลของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม พบว่าในปี 2015 ผู้ที่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับไอทีในญี่ปุ่นลดลงกว่า 170,000 คน ทางกระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจึงตั้งใจจะเพิ่มการศึกษาด้านไอทีลงในหลักสูตรชั้นประถมในปี 2020 โดยสอนทักษะไอทีและการใช้อินเตอร์เน็ตพื้นฐานให้แก่เด็ก ๆ ผ่าน Youtuber และเกม เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านไอทีนี้
แม้ว่าจะมีคำวิจารณ์ในแง่ลบอยู่บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ YouTuber Academy นำกระแสนิยม YouTuber มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษาสำหรับเด็ก ๆ และสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศแบบนี้เป็นไอเดียที่น่าสนใจและทันสมัยจริง ๆ ต้องรอดูกันต่อไปว่าสถาบันนี้จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org
ที่มา : manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000079337