“ใช้ชีวิตให้สวยงามที่สุด” คลิปสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่เผชิญเรื่องร้าย จากกรุงเทพทิพโอสถ

ไม่ใช่เรื่องแปลก หากพูดถึงชื่อแบรนด์ กรุงเทพทิพโอสถ แล้วหลายคนจะบอกว่าไม่เคยได้ยิน หรือไม่รู้จัก เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ก่อตั้งบริษัทมานั้นไม่เคยโฆษณาหรือทำการตลาดผ่านทางสื่อหลักใดๆ เลย เพราะที่ผ่านมาในช่วงก่อตั้งนั้นมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งก็คือยาแผนโบราณให้มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานเป็นหลัก นั่นก็คือเป้าหมายของผู้บริหารรุ่นแรก

จนมาถึงการส่งต่อหน้าที่การบริหารมายังเจนเนอเรชั่นที่ 2 แนวคิดของการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก็ได้รับความสำคัญมากขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่เห็นคุณค่าของยาสมุนไพรไทยมาใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพ นี่จึงเป็นแรงผลักดันเพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ปรับ branding กรุงเทพทิพโอสถให้เหมาะกับยุคสมัย และกลายเป็นที่มาของการทำ corporate vdo ชิ้นนี้

คุณกันต์ ตันสุวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เล่าถึงที่มาของแคมเปญนี้ว่ากรุงเทพทิพโอสถเราเป็นผู้ผลิตยาแผนโบราณที่ประยุกต์ผสมผสานงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เข้ากับหลักเภสัชแผนโบราณ เราวิจัยและผลิตยาตำรับที่มีประโยชน์ต่อคนมานาน โดยปกติเราก็จะมีสำนักงานที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพโดยทีมแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราจะทราบเรื่องราวมากมายของผู้ป่วยที่ใช้ยาของบริษัทเราในการดูแลสุขภาพ ในขณะที่เราผลิตยารักษาเค้าไปด้วย โดยเสียงบอกเล่าจากผู้ป่วยที่ย้อนกลับมาให้เราว่าใช้แล้วรู้สึกอย่างไรก็เป็นพลัง เป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นพัฒนาและผลิตยาจากสมุนไพรต่อเนื่องจนก้าวสู่ทศวรรษที่ 2

เรื่องราวในคลิปก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงที่เราได้เจอมาเป็นเรื่องของเด็กคนนึงที่เจ็บป่วยแล้วเค้าผ่านพ้นช่วงเวลาร้ายๆมาได้โดยมีคุณแม่เคียงข้างเรารู้จักเค้าเพราะแม่ลูกจูงกันมาขอบคุณเราถึงที่เรื่องนี้มันมีความหมายและเป็นพลังให้เราเดินมาถึงทุกวันนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราพัฒนายาไทยให้ดีให้เป็นทางเลือกแก่ผู้เจ็บที่ป่วยต่อไปแม้ว่าต้องเผชิญกับข้อจำกัดและความท้าทายหลายอย่างเราก็เดินหน้าตลอด

ดังนั้น เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราเองควรส่งมอบพลังบวกออกไปให้คนอื่นเช่นกัน เพราะเราเชื่อว่า กำลังใจคือสิ่งสำคัญ เป็นพลังที่ยิ่งแบ่งยิ่งมากขึ้น เราเลยอยากส่งมอบกำลังใจให้ผู้ป่วย และเลือกเรื่องราวที่มีค่ากับเรา ทำเป็นเค้าโครงทำวีดีโอชุดนี้ ส่งต่อออกไป ให้คนอื่น ทั้งคนที่ป่วย และ ไม่ป่วย ให้เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต

เหตุผลของการเลือกช่วงเวลาวันแม่ในการปล่อยคลิปนี้ออกมา คุณกันต์เผยว่าเรื่องราวของคลิปนี้ เกี่ยวกับแม่ที่มีลูกป่วยเป็นโรค และพลังที่ยิ่งใหญ่คือความรักและความไม่ยอมแพ้ของแม่ ความไม่สิ้นหวังของแม่ในเรื่อง ทำให้แม่มีพลังขึ้นมา ศึกษาทางเลือกต่างๆ ที่อาจจะดีต่อลูกของเธอ และต่อลมหายใจของกันและกัน

ถึงแม้เรื่องราวที่เราใช้สื่อสาร อาจจะดูธรรมดา บางคนอาจจะไม่คิดว่ามีอะไรใหม่  แต่เรามองว่าความธรรมดานี่แหละที่คนอินได้ เข้าถึงได้ ไม่ต้องบีบหัวใจ ไม่ต้องเป็นเคสแปลกๆ เพราะการเจ็บป่วยมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดกับใครก็ได้

และคลิปวีดีโอที่ทำเป็นการส่งพลังความรักและความไม่สิ้นหวังจากแม่ถึงลูกดังนั้นเราเลยเลือกปล่อยในช่วงวันแม่

คลิปตัวนี้มีประด็นที่เราต้องการสื่อสารกับผู้ชม 2 อย่างคือ การให้กำลังใจ
ใช้ชีวิตโดยไม่สิ้นหวัง ความไม่สิ้นหวังของแม่ในเรื่อง ทำให้แม่มีพลังขึ้นมา ศึกษาทางเลือกต่างๆ ที่อาจจะดีต่อลูกของเธอ และต่อลมหายใจของกันและกันได้

เราเชื่ออย่างยิ่งว่าทุกคนมีโอกาสที่จะได้รับการรักษาและได้รับกำลังใจที่ดี

เราจึงส่งมอบเรื่องราวนี้เป็นกำลังใจให้ทุกคน  เมื่อกำลังใจถูกเสริมพลังกับความไม่สิ้นหวังแล้ว โอกาสหลุดพ้นจากเรื่องร้ายๆ ในชีวิตก็เป็นเรื่องที่ไม่ยาก

ประการที่สอง คือ ทุกคนมีทางเลือกเสมอ ไม่ว่าพบเจอสิ่งใดก็ตาม แค่ขอให้มีกำลังใจ ตั้งสติ แล้วค้นหาทางออก อยากให้คนดูรู้ว่าชีวิตมันมีทางเลือกเสมอ อย่างน้อยๆ เราต้องมีกำลังใจ ต้องมีความหวังที่จะสร้างทางเลือกขึ้นมาให้ชีวิตตัวเอง ความเจ็บป่วยมันเลือกไม่ได้ แต่เราเลือกทางเดินให้ตัวเราเองได้เสมอ อะไรประมาณนี้
คุณกร ตันสุวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าว

คลิปที่เราเลือกสื่อสารเกี่ยวกับโรคมะเร็งเพราะเราเห็นว่าคนเป็นโรคมะเร็งโดยมากทันทีที่ทราบจิตใจจะห่อเหี่ยวราวกับโลกกำลังถล่มตรงหน้าเรียกว่าจิตใจห่อเหี่ยวไวกว่าร่างกายอีกทำให้คนเรารู้สึกกลัวพอกลัวก็ขาดสติมันก็ถดถอยแล้วทุกวันนี้เราเห็นคนเป็นโรคนี้เยอะมากขึ้นด้วยอายุน้อยลงข่าวสารเหล่านี้มันทำให้ใจฝ่อนะไม่ใช่แค่ดาราที่มีชื่อเสียงแต่เพื่อนเราคนรอบตัวเราก็มีคนเป็นกันเยอะมากเวลาคนนึงเป็นมะเร็งทั้งครอบครัวป่วย

ดังนั้น เมื่อโรคนี้น่ากลัวและส่งผลต่อจิตใจคนมาก การที่เราทำเรื่องราวที่เชื่อมโยงจุดนี้ จะเป็นกำลังใจให้ไม่ใช่แค่คนป่วยมะเร็ง แต่รวมถึงคนป่วยโรคอื่นๆที่เบากว่านั้น และคนปกติที่ชีวิตแทบสิ้นหวังเมื่อไปเจอเรื่องราวอื่นๆในชีวิตที่คล้ายๆ โลกกำลังถล่มตรงหน้า

ช่วงท้ายคลิปพวกเราเน้นคำว่า ใช้ชีวิตให้สวยงามที่สุดเพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ วันนี้บางคนอาจจะเจ็บป่วยมาก บางคนรู้ตัวว่าแก่ขึ้นทุกวัน เราดูแลตัวเองด้วยความกังวลจนไม่มีความสุข ซึ่งเราว่าไม่ผิด แต่เราเห็นต่างออกไปว่าต้องหาสมดุล ในเรื่องนี้คุณแม่เป็นพลังสำคัญที่พาลูกเผชิญโรคร้าย โดยไม่บังคับฝืนให้ทำอะไรที่ดีต่อร่างกายเพียงอย่างเดียว เค้าไม่รู้หรอกว่าลูกจะรอดไหม แต่ถ้าไม่รอด เค้าจะไม่เสียใจที่ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายแบบนี้ เพราะเป็นชีวิตที่มีความสุขของทุกคน

กลยุทธ์ทางการตลาดของกรุงเทพทิพโอสถในยุคดิจิทัลนี้ให้ความสำคัญกับ Social Media มากขึ้น โดยมี Facebook page ของกรุงเทพทิพโอสถ เป็นแหล่งแบ่งปันความรู้ด้านสุขภาพ ด้านยาสมุนไพรไทย เป็นสังคมของผู้รักสุขภาพ โดย Content ต่างๆ ที่เผยแพร่ออกไปนั้นก็มีทีมแพทย์แผนไทยประยุกต์ของบริษัทเป็นผู้จัดทำ เป็นทีมงานที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคและการรักษาสมัยใหม่ พร้อมกับความรู้ด้านแพทย์และเภสัชแผนโบราณ ผสมผสานครบตามแนวทางของกรุงเทพทิพโอสถ

โดยกลยุทธ์สำคัญก็คือคือเน้น ความจริง และ ความจริงใจในการให้ความรู้แก่ผู้คนส่วนการเลือกแนวทางการรักษาให้เป็นหน้าที่ของผู้ป่วยที่ได้รับความรู้ครบถ้วนแล้วเป็นคนตัดสินใจเลือกเอง

ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ชีวิตวันนี้เป็นของคุณ ขอให้มีความหวังและใช้ชีวิตอย่างสวยงามที่สุด นี่คืออีกหนึ่งข้อความที่มีความหมายและเราอยากส่งต่อถึงทุกคน

ข้อมูลเพิ่มเติม >>> https://www.facebook.com/pg/BangkoktipOsod