นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ เดินทางเยือนไทย เปิดงาน Vietnamese Goods Week in Thailand ครั้งที่ 2 (เวียดนามมีส กู๊ดส์ วีค อิน ไทยแลนด์) งานแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพส่งตรงจากเวียดนาม ในฐานะประเทศสมาชิกในกลุ่มประชาคมอาเซียน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน ด้านกลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นการจัดงานช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งไทยและเวียดนาม ต่อยอดธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกัน
ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์อันดีทางการทูตเป็นระยะเวลามากกว่า 40 ปี ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเซ็นทรัล จึงร่วมมือกับ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ประเทศเวียดนาม (Ministry of Industry and Trade) , กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม และ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จัดงาน Vietnamese Goods Week in Thailand ครั้งที่ 2 เพื่อ เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศ โดยการเผยแพร่และจัดจำหน่ายสินค้าที่โดดเด่นจากประเทศเวียดนาม ส่งผลให้คนไทยรู้จักสินค้าเวียดนามมากยิ่งขึ้น และมองเห็นว่าสินค้าเวียดนามเป็นสินค้าดีมีคุณภาพสามารถเปิดตลาดมาจำหน่ายในประเทศไทยได้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 17-21 สิงหาคม 2560 โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เหงียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc) นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เดินทางมาร่วมเปิดงาน ร่วมด้วยดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้แทนจากภาครัฐบาลไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงในเครือกลุ่มเซ็นทรัล
สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายภายในงานครั้งนี้ เป็น ผลิตภัณฑ์จากประเทศเวียดนามโดยตรง (Made in Vietnam) ซึ่งวางจำหน่ายในห้างร้านของเครือกลุ่มเซ็นทรัล ที่ประเทศเวียดนาม ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค กว่า 60 ร้านค้า มากกว่า 300 รายการ แบ่งเป็น สินค้าบริโภค อาทิ ผลิตภัณฑ์นม ชา กาแฟ, ถั่ว, ผลไม้สด – ลิ้นจี่ แก้วมังกร, ผลไม้แห้ง, ไส้กรอก, ผลิตภัณฑ์จากข้าว – ข้าวเกรียบกุ้ง, เส้นก๋วยเตี๋ยว, เห็ดหลินจือ, ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว – ลูกอม, เค้กมะพร้าว และ สินค้าอุปโภค อาทิ อุปกรณ์ไฟฟ้า, เครื่องใช้ภายในบ้าน, อุปกรณ์ครัวและห้องน้ำ, รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายบุรุษ-สตรี ผ้าพันคอ, เครื่องเขียน และผลิตภัณฑ์จากต้นไผ่ – กระเป๋า เตียง เก้าอี้ เสื้อผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนับเป็นโอกาสที่คนไทยจะได้มีโอกาส เลือกซื้อสินค้าที่ส่งตรงจากประเทศเวียดนาม โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงเวียดนาม และอาจทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการไปเยือนประเทศเวียดนามสักครั้งในฐานะประเทศในแถบอาเซียน นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ ผู้ประกอบการไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อยได้เรียนรู้สินค้าเวียดนามและเจรจาธุรกิจ (B2B) กับผู้ประกอบการเวียดนามรวมกว่า 60 ราย รวมถึง สร้างความสัมพันธ์ในการต่อยอดสู่การขยายการลงทุนของธุรกิจไทยในประเทศเวียดนาม ในอนาคตอีกด้วย จึงขอเชิญชวนทุกท่านเที่ยวชมงานเวียดนามมีส กู๊ด วีค อิน ไทยแลนด์ ที่หนึ่งปีจะมีครั้งเดียว
ภายในงานดังกล่าว กลุ่มเซ็นทรัล ได้ ลงนามบันทึกความเข้าใจ ร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ประเทศเวียดนาม ในการจัดงาน ‘Vietnamese Goods Week in Thailand’ ครั้งที่ 2 และจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับจากปีนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรและสินค้าคุณภาพต่างๆ ของเวียดนามผ่านธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลอีกด้วย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จะให้ความสนับสนุนและไว้วางใจ ในความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มเซ็นทรัล ในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรทั้งสองประเทศให้ดียิ่งๆขึ้นต่อไป
ในด้านการลงทุนที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กลุ่มเซ็นทรัลเล็งเห็นถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน จึงได้ขยายการลงทุนไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว (Emerging Market) และมี GDP เติบโตสูง โดยเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2556 ด้วยการเปิดร้านซูเปอร์สปอร์ต จากนั้นจึงได้ร่วมกับกลุ่มเหงียนคิม เข้าร่วมทุนบริหารห้างเหงียนคิม จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า , ลานชี ร้านค้าปลีกค้าส่ง, บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต, บีทูเอส ร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงานและเครื่องเขียน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและผลักดันสินค้าเอสเอ็มอีของประเทศเวียดนาม ตามเจตนารมย์ของการดำเนินธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลที่มุ่งเน้นการผลักดันสินค้าเอสเอ็มอีให้เติบโตในทุกๆประเทศที่ธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัลเข้าไปดำเนินธุรกิจ อีกด้วย ทั้งนี้ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม ระบุว่า การค้าระหว่างไทย-เวียดนามในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2559 มีมูลค่ารวม 12, 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกสินค้าไปเวียดนามมูลค่า 8,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าเวียดนาม มูลค่า 4,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทางด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSV) กลุ่มเซ็นทรัล ในประเทศเวียดนาม มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนชาวเวียดนามอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เช่น การสร้างห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Library) ให้กับเยาวชนโดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการเวียดนาม , การมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากไร้ในชนบท, มอบเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาดให้แก่โรงเรียนที่ห่างไกล, การช่วยเหลือเด็กยากไร้หรือพิการ , การช่วยเหลือด้านอาหารและสุขภาพยามเกิดภัยพิบัติต่างๆ ภายใต้โครงการ Big Community รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาจำหน่ายในบิ๊กซี เวียดนาม เป็นต้น
กลุ่มเซ็นทรัล พร้อมที่จะสนับสนุนและส่งเสริมสินค้าเวียดนาม พร้อมทั้งขยายการลงทุนทางธุรกิจในประเทศเวียดนามให้พัฒนาและเติบโตเคียงข้างประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรรสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างประเทศไทยและประเทศเวียดนามตลอดไป.