นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เดินหน้าสานต่อแคมเปญใหญ่แห่งปี จัดงาน “Amazing Thai Taste @ Suvarnabhumi Airport” ชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวสัมผัส เสน่ห์แห่งศาสตร์การปรุงอาหารไท ยพร้อมตอกย้ำความโดดเด่นของวัฒน ธรรมอาหารประจำชาติที่ไม่แพ้ชาติ ใดในโลก โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจากก ารท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐแ ละเอกชนชั้นนำของประเทศร่วมสร้า งสีสันความคึกคักในการจัดโชว์สา ธิตการทำอาหารไทยจากเชฟชื่อดัง นำโดย เชฟชุมพล แจ้งไพร มาพร้อมแขกรับเชิญพิเศษ วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ และ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา รวมถึงเวิร์คช็อปสอนทำขนมไทย พร้อมกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุกต ลอดงานตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กันยายน 2560 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
Amazing Thai Taste @ Suvarnabhumi Airport งานแสดงการสาธิตการประกอบอาหารค รั้งแรกในประเทศไทยที่รวบรวมเมนู อาหารไทยยอดนิยมและเมนูหายากทั้ งคาวหวานหลากหลายชนิดมาจั ดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ตลอด 24 วันเต็มภายในท่าอากาศยานสุ วรรณภูมิ โดยการรวมตัวกันของเหล่าเชฟมืออ าชีพชื่อดังและเชฟจากร้านอาหารใ นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งงานนี้นอกจากจะเป็นการสนับส นุนนโยบาย “โครงการภาคประชารัฐ” ของรัฐบาลแล้วท่าอากาศยานสุวรรณ ภูมิยังตั้งใจที่จะสร้างสีสันคว ามประทับใจเพื่อเป็นการตอบแทนแล ะคืนกำไรให้กับผู้โดยสารและผู้ใ ช้บริการด้วยการมอบบรรยากาศแห่ง ความเพลิดเพลิน รวมทั้งเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารไทย สู่การรับรู้ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอันเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ ที่ดีให้กับประเทศไทยในฐานะที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปรี ยบเสมือนประตูบานแรกของประเทศแล ะติดอันดับ 1 ใน 5 ท่าอากาศยานดีเด่ นของโลกจากการจัดอันดับของ SKYTRAX ซึ่งในปีนี้ึ่ท่าอากาศยานสุวรรณ ภูมิได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิ ตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำข องประเทศ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด, บริษัท มาสเตอร์ มายนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด, สมาคมภัตตาคารอาหารไทย, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) (แชมป์ แกงไทย), วิทยาลัยดุสิตธานี, องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และ กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยภายในงานได้แบ่งพื้นที่ ออกเป็นโซนต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว ได้ร่วมสนุกและเพลิดเพลินไปกั บกิจกรรมที่จัดขึ้นที่ท่ าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นิตินัย ศิริสมรรถการ กล่าวว่า “การจัดงานครั้งนี้เป็นกิ จกรรมส่งเสริมการตลาดที่ท่ าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดขึ้ นด้วยวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อสนั บสนุนนโยบายโครงการประชารั ฐของรัฐบาล ที่ต้องการประชาสัมพันธ์อาหารไท ยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยก ารได้รับรู้ถึงวิธีการปรุงอาหาร และขนมไทยที่เป็นต้นฉบับอย่ างแท้จริง นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริ มให้ภัตตาคาร ร้านอาหาร ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีส่ วนร่วมในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับประเทศไทยด้วยการให้ ความสำคัญกับเมนู อาหารไทยและขนมไทย และรักษาคุณภาพ รสชาติอาหาร รวมถึงการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนผู้ใช้บริการให้เกิดความป ระทับใจอย่างต่อเนื่องต่อไป”
บรรยากาศวันแรกของการจัดงานเป็ นไปอย่างคึกคักและได้รับความสนใ จจากนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริก ารเป็นจำนวนมาก โดยโซนแรก บริเวณโถงผู้โดยสารขาออก ระหว่างประตู 3 ถึงประตู 4 ชั้น 4 ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ เริ่มต้นเปิดศาสตร์อาหารไทยด้วย โชว์สาธิตการทำอาหารสูตรลับเฉพา ะโดย เชฟชุมพล แจ้งไพร และ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ในเมนู “ต้มจิ๋วเนื้อชาววัง” เมนูจากตำรับอาหารไทยโบราณกว่ าร้อยปีด้วยส่วนผสมของเครื่ องปรุงสมุนไพรไทยทรงคุณค่า โดยความพิเศษของเมนูนี้คือเป็นอ าหารเสวยทรงโปรดของรัชกาลที่ 5 ด้วยมีเครื่องปรุงและส่วนประกอบ สมุนไพรไทยที่มีรสชาติครบรส ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ด อาทิ มะขามเปียก มะนาว หัวหอม พริก ใบโหระพา และมันเทศ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือ ใบกะเพราแดงที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอ มและรสชาติที่ดี อีกทั้งเมนูนี้ยังเหมาะกับฤดูฝน เพราะช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ โดยเชฟได้เลือกเนื้อวัวสันในคุณ ภาพของไทยมาเป็นวัตถุดิบ และใช้เทคนิคการเคี่ยวน้ำซุปแบบ คอนซูเม่หรือหัวน้ำซุปเพื่อเพิ่ มรสสัมผัสช่วยทำให้ต้มจิ๋วมีรสช าติ นุ่ม นัว และกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น สาเหตุที่เรียกว่าต้มจิ๋วนั้นมา จากลักษณะเฉพาะของการหั่นส่วนปร ะกอบทั้งหมดให้มีขนาดเล็กพอดีคำ พร้อมกันนี้ยังมีสาธิตการทำขนมไ ทย “ลูกชุบชาววัง” โดย วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ที่มาร่วมเปิดศาสตร์อาหารไทยและ ร่วมพูดคุยอย่างใกล้ชิด
เชฟชุมพล แจ้งไพร กล่าวว่า “อาหารไทยนอกจากอร่อยแล้วยังดี ต่อสุขภาพด้วยคุณค่าและคุ ณประโยชน์จากสมุนไพรไทย สำหรับเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้อา หารทุกจานอร่อยมีสูตรง่ายๆ 5 อย่างด้วยกันคือ 1. วัตถุดิบดี 2. เครื่องปรุงดี 3. ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงอย่าง เหมาะสม 4. ควบคุมความร้อนให้พอเหมาะ และ 5. ความรักและความใส่ใจเป็นหัวใจสำ คัญของการปรุงอาหาร และผมเชื่อว่าวงการอาหารไทยจะยิ่ งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ และกรุงเทพจะกลายเป็นฟู้ดเดสทิเ นชั่นยอดนิยมแห่งหนึ่งของโลกที่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ ามาอย่างไม่ขาดสาย”
นุ่น-ศิรพันธ์ กล่าวว่า “นุ่นเป็นคนชอบเดินทางและเป็นสา วกแบคแพคเกอร์ที่ขาดอาหารไทยไม่ ได้เลย เพราะเราคุ้นเคยและชอบรสชาติอาห ารแบบไทยๆ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็จะพกพว กเครื่องแกงและเครื่องปรุงต่างๆ ไปทำที่นั่นด้วย ชาวต่างชาติจะสนใจมากและเข้ามาถ ามว่าเราทำอาหารอะไรทำไมกลิ่นหอ มจัง นอกจากได้เพื่อนเพิ่มแล้ว นุ่นก็รู้สึกดีใจที่เวลาไปเที่ย วต่างประเทศเราเหมือนได้มีส่ วนร่วมในการเผยแพร่อาหารไทยไปด้ วย”
วุ้นเส้น-วิริฒิพา กล่าวว่า “ปกติชอบซื้อของฝากเป็นของไทย เพราะมีญาติอยู่ที่ต่างประเทศ เมื่อก่อนต้องไปซื้อไกลๆ เพื่อให้ได้เจ้าที่อร่อยที่สุด เดี๋ยวนี้สะดวกมากขึ้นไม่ต้องไป หาซื้อไกลๆ เพื่อที่จะหอบหิ้วมาที่สนามบิน เพราะที่นี่มีครบทุกอย่างจริงๆ ทั้งลูกชุบ ทองม้วน ไปจนถึงข้าวเหนียวมะม่วง ที่สำคัญนอกจากอร่อยแล้วเรายังไ ด้ของสดใหม่พร้อมขึ้นเครื่องไปฝ ากได้เลย”
นอกจากนี้ภายในบริเวณโซนแรกยั งมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ร่วมสนุ กอีกมากมาย ได้แก่ Cooking Show โดยในแต่ละวันจะมีกิจกรรมสาธิตก ารประกอบอาหารไทยที่เป็นที่ชื่น ชอบของชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ แกงมัสมั่น, ต้มยำกุ้ง, แกงเขียวหวาน และต้มข่าไก่ โดยเชฟมืออาชีพที่ผลัดเปลี่ยนกั นมาร่วมโชว์ให้ดูกันแบบสดๆ ทุกวันใน Cooking Station ห้องครัวจำลองเต็มรูปแบบใจกลางอ าคารผู้โดยสารด้วยดีไซน์เปิดรอบ ด้านให้สามารถมองเห็นสาธิตการปรุ งอาหารได้อย่างใกล้ชิด และสามารถทดลองชิมได้อีกด้วย โดยสาธิตการทำอาหารสำหรับในวันธ รรมดาจะจัดขึ้นวันละ 2 รอบ เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 12.30-13.30 น. และ 17.30-18.30 น. โดยเพิ่มรอบพิเศษในวันเสาร์- อาทิตย์ อีก 1 รอบ ในเวลา 9.30 – 10.30 น.และที่พลาดไม่ได้คือการถ่ายรู ปเป็นที่ระลึกกับจุดแลนด์มาร์ คสำคัญของงานที่ได้รั บการออกแบบและตกแต่งด้วยหม้อต้ มยำขนาดยักษ์อันเปรียบเสมื อนเมนูเอกของอาหารไทย
บริเวณโซนที่สอง ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน D ชั้น 4 ฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีซุ้มกิจกรรม Cooking Workshop เวิร์คช็อปฝึกเสน่ห์ปลายจวักที่ จะพาไปสัมผัสกับศาสตร์การทำขนมไ ทยอันเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความป ระณีตกับภูมิปัญญาอันล้ำค่า ผู้โดยสารสามารถมีส่วนร่วมกั บเวิร์คช็อปการทำลูกชุบ ทองม้วนคาว-หวาน และสามารถทดลองชิมหรือนำกลับบ้า นได้ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นวันละ 3 รอบ เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 12.00-13.00 น. , 16.00-17.00 น. และ 17.00-18.00 น. นอกจากนี้ยังได้เพลิดเพลินไปกับ การเลือกซื้อสินค้าไทยประเภทอาห ารและเครื่องปรุงบรรจุห่อ (Package Food) อาทิ เครื่องแกงสำเร็จรูปที่คัดสรรคุ ณภาพมาเป็นอย่างดีภายใต้คอนเซ็ป ต์ Ready to Eat & Ready to Cook
ภายในงานยังสามารถร่วมสนุกกับน วัตกรรมสุดหรรษา Interactive Machine ตู้เกมส์อาหารไทยที่สร้างการรับ รู้เรื่องอาหารไทยได้อย่างน่าสน ใจ อาทิ ตู้เกมส์ฝึกภาษา เกมส์ที่ผู้เล่นต้องออกเสียงหรื อพูดชื่อเมนูอาหารไทยให้ถูกต้อง เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษก ว่า 1,000 รางวัล และสำหรับผู้โดยสารที่มียอดซื้อ สินค้าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภู มิเป็นไปตามเงื่อนไข จะได้ร่วมเล่นเกมส์ฝึกทำอาหาร ที่ผู้เล่นจะได้สนุกกับการเลือก วัตถุดิบมาปรุงเมนู อาหารไทยและรับส่วนลดจากร้ านอาหารต่างๆ ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมลุ้นเป็นผู้โชคดีรับรางวัล ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-ฮ่องกง รางวัลละ 2 ที่นั่ง จํานวน 10 รางวัล จากบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด
งานนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งงานที่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนัก ท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่าง ชาติให้ได้เรียนรู้และได้สัมผัส กับเสน่ห์ของอาหารไทยที่เต็มไปด้ วยศาสตร์และศิลป์อันละเอียดอ่อน และทรงคุณค่าด้วยภูมิปัญญาแบบไท ยๆไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหา รหวานก็ล้วนมีสูตรการปรุงเฉพาะตั วที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ด้วยรสชาติ กลิ่น วัตถุดิบและกรรมวิธีการปรุงล้วน บ่งบอกถึงเรื่องราวเชิงวัฒนธรรม ที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้อา หารไทยมีความโดดเด่นและมีชื่อเสี ยงเป็นที่น่าจดจำของนักท่องเที่ ยวทั่วโลก
ร่วมสัมผัสเสน่ห์ปลายจวักแห่งศา สตร์และศิลป์ของอาหารไทย
กับความเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารข องโลก
ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กันยายนนี้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ