- ชวนช้อปสินค้าดีระหว่างวันที่ 14-17 และ 21-24 กันยายน 2560 พบกับสินค้าเอสเอ็มอีท้องถิ่นหลากหลายที่ศูนย์การค้าศักยภาพของซีพีเอ็นทั่วประเทศรวม 9 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซาบางนา, รัตนาธิเบศร์, พระราม 2, เชียงราย, อุดรธานี, ขอนแก่น, และเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ และหาดใหญ่
- คัดผลิตภัณฑ์โดดเด่นสร้างสรรค์ของแท้ๆ ประจำท้องถิ่น อาทิ “มาม๊านาตา” หมอนยางพาราเพื่อสุขภาพ, “Play BOX DOG House” บ้านน้องหมาดีไซน์น่ารัก, “เฟื่อง” ผ้าขาวม้าบูติค, “Antique” สบู่น้ำมันผสมแร่ซิลิกาจากเปลือกข้าว และ “Leaf Jeans” กางเกงยีนส์ผสานดีไซน์ไทยๆ เป็นต้น
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ต้อนรับผู้บริหารจากภาครัฐในโอกาสแถลงเปิดงาน “SMEs Fest ชม ชิม ช้อป” งานแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าของดีเอสเอ็มอีท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคไทย ภายใต้โครงการประชารัฐผสานความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จับมือกับหอการค้าไทย และ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เพื่อจัดหาโอกาสและช่องทางจัดจำหน่าย สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีท้องถิ่นหน้าใหม่กว่า 3,000 ราย ให้ได้มีโอกาสเข้าสู่ช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ พบปะผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสการขาย โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 130 ล้านบาท
นางสาลินี วังตาล ผอ.สสว. เปิดเผยว่า “ในปี 2559 สสว.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ทั่วประเทศ ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up) มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 11,065 ราย ผ่านเข้าสู่ขั้นทำแผนธุรกิจ 5,527 ราย แผนธุรกิจมีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์ 2,143 ราย ส่วนใหญ่มีความต้องการด้านแหล่งเงินทุนและช่องทางตลาด สสว. จึงสานพลังประชารัฐจับมือกับหอการค้าไทย และบมจ. เซ็นทรัลพัฒนา จัดงาน “SMEs Fest ชม ชิม ช้อป” เพื่อเปิดโอกาสในการทดสอบตลาดให้แก่เอสเอ็มอีรายใหม่ โดยนำสินค้ามาจำหน่ายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศจำนวน 1,500 ราย ระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน 2560 นอกจากนี้ยังต่อยอดไปสู่เอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของ สสว. อาทิ โครงการ Strong & Regular Level ซึ่งมีสินค้าระดับ Premium โครงการ National Awards และ SME Provincial Champions ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพสูงระดับส่งออก มาจัดจำหน่ายภายในงาน อีก 1,800 ราย ระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน 2560 นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการจะได้พบเจอผู้ค้าส่ง-ค้าปลีก มีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องในอนาคต ที่สำคัญคือโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กับเครือเซ็นทรัล โดย สสว. ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างมูลค่าทางการค้าไม่ต่ำกว่า 130 ล้านบาท”
“ด้านการสนับสนุนแหล่งเงินทุน สสว. ประสานกับธนาคารรัฐและเอกชน อาทิ SMEs Bank กรุงไทย ออมสิน ฯลฯ ให้บริการสินเชื่อในรูปแบบต่าง ๆ โดยในส่วนของ สสว. ได้จัดเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจรเพื่อรับคำขอกู้ยืมเงินรายละไม่เกิน 1 ล้านบาทโดยไม่คิดดอกเบี้ย บริการถ่ายภาพสินค้าและจัดทำ Story เพื่อนำขึ้นจำหน่ายบน E-Marketplace รวมถึงการแจกคูปองตรวจวิเคราะห์อาหารและเครื่องสำอางฟรีมูลค่า 5,000 บาท โดยบริษัท Central Lab หรือแล็บประชารัฐ เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย” นางสาลินี กล่าว
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า “หอการค้าไทย ตระหนักถึงปัญหาและความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมของ SMEs เพื่อรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง และการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเฉพาะผู้ประกอบการใหม่ (Start Up) ที่จำเป็นจะต้องปรับทิศทางของการบริหารจัดการธุรกิจให้ทันต่อสถานการณ์ จึงให้ความสำคัญและผลักดันในเรื่องทักษะความเป็นผู้ประกอบการและความรู้ความสามารถด้านบริหารจัดการ ด้านการตลาด และการจำหน่ายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาด รวมทั้งการต่อยอดทางธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสและความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการอย่างแท้จริง”
“การจัดงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ขับเคลื่อนผ่านกลไกประชารัฐ โดยหอการค้าไทยหวังว่า ความร่วมมือในการจัดโครงการครั้งนี้ จะช่วยต่อยอดความสำเร็จของผู้ประกอบการ SMEs ในการหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำไปขยายธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้ SMEs สามารถยืนหยัดได้อย่างยั่งยืนในสภาวะธุรกิจโลกในปัจจุบัน” นายกลินท์ กล่าว
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า “กลุ่มเซ็นทรัล นำโดยซีพีเอ็น มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ภายใต้โครงการประชารัฐ โดยเรามีจุดแข็งจากการที่มีศูนย์การค้ากว่า 30 ศูนย์ฯ อยู่ในทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่ายและเพิ่มรายได้ให้แก่ SMEs ด้วยการสร้างการรับรู้ในสินค้าของ SMEs ทั้งในท้องถิ่นตนเองและยังขยายไปขายข้ามถิ่นได้ เพื่อกระจายสินค้าของจากท้องถิ่นหนึ่งไปยังอีกท้องถิ่นหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้ในเรื่องการจัดวางสินค้าและการจัดหน้าร้านให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายกับกลุ่มเซ็นทรัลอีกด้วย”