หลังจากปล่อยให้เพื่อนร่วมชาติอย่างหัวเว่ย ออปโป้ วีโว่ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอยู่นาน แต่ละรายก็มีสีสันในการทำตลาดต่างกันทั้งสีแดง เขียว และฟ้า ในปีนี้จึงได้เห็น “จีโอนี” สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนสีส้มเป็นแบรนด์ล่าสุดที่เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทย
จีโอนีเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนจากประเทศจีนมีอายุ 15 ปี เป็นแบรนด์ที่ติดท็อป 4 ในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศจีน มีการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ในโซนนี้ จึงไม่พลาดที่จะเข้ามาทำตลาด
การบุกตลาดในประเทศไทยในครัง้นี้ จึงได้ทำการศึกษาตลาดก่อนทั้งในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภค คนไทยชอบใช้สมาร์ทโฟนแบบไหน รวมถึงรูปแบบการทำตลาดของคู่แข่งทั้ง 3 รายที่ได้เข้ามาทำตลาดก่อนหน้านี้ จึงพบว่าผู้เล่นแบรนด์จีนมีโมเดลการทำตลาดใกล้เคียงกัน มีการลงทุนสูง สร้างจุดเด่นสินค้า พรีเซ็นเตอร์ ช่องทางการขาย และการสร้างแบรนด์
ทำให้จีโอนีนำโมเดลดังกล่าวมาปรับใช้ โดยใช้งบลงทุนรวม 120-150 ล้านบาท ใช้เวลา 6 เดือนในการสร้างทีมงาน ช่องทางการขายที่ตอนนี้มี 1,500 ร้านค้าทั่วประเทศ และจุดบริการลูกค้า ส่วนพรีเซ็นเตอร์ใช้เวลาในการศึกษาตลาดว่าใครที่เหมาะกับแบรนด์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แล้วเซ็นสัญญาเลย
นนทัช รวมก้อนทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท จีโอนี่ อิเล็กทรอนิก เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า “ประเทศไทยยังศักยภาพอีกเยอะในการทำตลาด 3G/4G ทำให้คนตื่นตัว ยังมีโอกาสในการทำตลาดอีกมาก ซึ่งในประเทศจีนมีการแข่งขันกันแบบนี้อยู่แล้ว มี 4 แบรนด์ใหญ่ แต่เขาเข้ามาทำตลาดในไทยหมดแล้วเหลือแค่จีโอนี เลยมองว่าต้องเข้ามาทำตลาดด้วย”
จีโอนีได้วางจุดยืนเน้นสมาร์ทโฟนในระดับกลาง ราคา 4,900-11,000 บาท หรือไม่เกิน 15,000 บาท ได้ทำการศึกษาตลาดในไทยพบว่าคนไทยชอบสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่ทน และชอบถ่ายภาพ เลยเน้นจุดเด่นที่ 2 ฟีเจอร์นี้เพื่อจับกลุ่มกับวัยุร่น นักเรียน นักศึกษา หรือกลุ่มผู้เริ่มทำงาน
ได้เลือก “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และแต้วมีจุดเด่นที่รอยยิ้ม ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ว่า Make Smile
มีการตั้งเป้าสำหรับแบรนด์จีโอนีต้องการเป็น 1 ใน 4 แบรนด์ที่คนไทยรู้จัก และมีการตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดรวมที่ 2% หรือยอดขาย 150,000 เครื่อง/เดือน