จากความเชื่อมั่นในพลังของเยาวชนคนรุ่นใหม่ เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงเดินหน้าโครงการ “ซีพีสานฝัน ปันโอกาส สู่ผู้นำรุ่นใหม่ One Young World” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ให้การสนับสนุนผู้นำรุ่นใหม่ 20 คน โดยเป็นตัวแทนจากกลุ่มธุรกิจในเครือฯ จำนวน 15 คน และผู้นำเยาวชนจากองค์กรภายนอกอีก 5 คน ซึ่ง 2 ใน 5 เป็นตัวแทนเยาวชนจากสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือ กลุ่มลูกเหรียง ที่สูญเสียครอบครัวจากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนระดับโลก “One Young World 2017” ณ กรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “คิดเปลี่ยนโลก เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยตัวแทนเยาวชนรุ่นใหม่จากทุกประเทศจะได้ใช้เวทีนี้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อประเด็นปัญหาสำคัญของโลกให้ไปสู่ทางที่ดีขึ้น
สถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP Leadership Institute จึงรับหน้าที่เตรียมความพร้อมให้แก่ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั้ง 20 คน ด้วยการฝึกอบรมเพิ่มพูนศักยภาพทางความคิดและมุมมองให้กว้างไกล และพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำเพื่อเป็นตัวแทนแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ร่วมกับตัวแทนเยาวชนจากทั่วโลกได้อย่างเหมาะสม
นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ อธิบายว่า องค์กรที่จะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ต้องสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ๆ ตลอดเวลา สถาบันพัฒนาผู้นำเครือฯ จึงรับหน้าที่ในการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ทุกระดับให้เก่งและเป็นคนดี โดยเปิดโอกาสให้ผู้นำจากแต่ละบริษัท องค์กร และในระดับประเทศของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เข้าอบรมหลักสูตรระดับโลก พร้อมทำกิจกรรมร่วมกัน หรือ Action Learning รวมถึงพบปะสังสรรค์นอกเวลาเรียน เพื่อทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เป็นการผนึกกำลังอย่างแท้จริง
“การผนึกกำลังที่สำคัญที่สุดคือ การผนึกใจ เมื่อผนึกใจได้ การผนึกในเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเรื่องง่าย การจัดคอร์สอบรมหลักสูตรระดับสากลให้ตัวแทนเยาวชนทั้ง 20 คน จึงมีความสำคัญมากเพื่อให้ทุกคนได้รับการบ่มเพาะให้พร้อมก่อนขึ้นเวทีโลก ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันและหล่อหลอมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยปรัชญาของเครือฯ ที่เน้นย้ำในการอบรมผู้นำคือ องค์กรระดับโลกที่จะอยู่ยืนยาว ประสบความสำเร็จ มีความยั่งยืน และสามารถสร้างผู้นำรุ่นใหม่ได้ ต้องมีคุณค่าแก่นสารขององค์กรที่ชัดเจน โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์มี core value 6 ประการคือ 1) สร้าง 3 ประโยชน์ คือประเทศได้ประโยชน์ ประชาชนในประเทศนั้นได้ประโยชน์ แล้วองค์กรค่อยได้ประโยชน์ตามมา 2) ทำเร็วแต่มีคุณภาพ 3) ยอมรับความเปลี่ยนแปลง 4) ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย 5) มีนวัตกรรม คือต้องมีความคิดริเริ่ม ถ้าองค์กรไม่เปิดกว้างให้มีโอกาสสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ องค์กรแห่งนั้นก็จะไม่มีความยั่งยืนหรือสร้างมูลค่าได้อย่างเต็มที่ และข้อสุดท้ายที่สำคัญมากที่สุดคือ 6) ซื่อสัตย์และมีคุณธรรม ตัวนี้คือรากฐานที่ผู้นำในเครือฯ ทุกระดับต้องยึดถือปฏิบัติทั้งต่อหน้าและลับหลัง”
สำหรับหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการที่ สถาบันพัฒนาผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP Leadership Institute ใช้เตรียมความพร้อมให้แก่ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั้ง 20 คน ประกอบด้วย การสร้างและพัฒนาผู้นำผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงตามแนวทางของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ TPOV (Teachable Point of View by Noel Tichy) มุมมองในการสอนหรือการถ่ายทอดประสบการณ์ ในเรื่องของ แนวคิด (Ideas) คุณค่า (Values) อารมณ์แห่งพลัง (Emotional Energy) และความกล้าในการตัดสินใจอย่างเฉียบขาด (Edge) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำ, หลักสูตร Communication Skills and Working In Different Cultural Environment โดย Mr.Robert K. Davies เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตนเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่ดี สามารถอยู่ร่วมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับตัวแทนเยาวชนที่มาจากหลายเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมได้อย่างเหมาะสม
ด้านตัวแทนประเทศไทย One Young World ปี 2017 นางสาวชนิสา นิลจินดา และ นางสาวกชกร จิตพนอรักษ์ จาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากได้ผ่านการอบรมหลักสูตรต่างๆ แล้ว เข้าใจถึงคุณลักษณะของการเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะผู้นำที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีใจพัฒนา มีพลังและสามารถสร้างพลังให้แก่คนรอบข้างได้ พร้อมกับเปลี่ยนมุมลบให้เป็นพลังบวก ที่สำคัญคือต้องเข้าใจในความแตกต่างของบุคคล และรู้จักเรียนรู้คนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เข้าใจวิธีคิดและวิธีการทำงานของคนนั้นๆ โดยไม่ตัดสินคนจากสิ่งที่เห็นแค่เพียงภายนอก เมื่อมีความเข้าใจในความแตกต่างแล้ว ก็จะสามารถมองเห็นจุดแข็งของแต่ละคนได้ แล้วดึงออกมาให้เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดเป็นผลสำเร็จตามเป้าหมาย
“เวที One Young World 2017 เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เห็นไอเดียของคนรุ่นใหม่จากทั่วโลก ว่าเขามองโลกในอนาคตไว้อย่างไร และมีแนวคิดที่จะขับเคลื่อนอย่างไร เมื่อเรามีความเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละบุคคลแล้ว เราก็จะเข้าใจถึงเหตุและผลซึ่งเป็นที่มาของแนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ช่วยให้สามารถสื่อสารกับผู้คนที่มีความแตกต่างและมีความหลากหลายได้ดียิ่งขึ้น และเวทีนี้จะเป็นแรงบันดาลใจช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนจากภายในเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อประเด็นปัญหาสำคัญ 5 ด้านของโลก ทั้งประเด็นความยากจน ประเด็นการศึกษา ประเด็นสันติภาพและความปรองดอง ประเด็นภาวะผู้นำ และประเด็นสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มเปลี่ยนแปลงจากตนเอง ขยายไปสู่องค์กร สังคม และประเทศชาติต่อไป” นางสาวชนิสา อธิบาย
นอกจากการอบรมหลักสูตรเพื่อพัฒนาการเป็นผู้นำรุ่นใหม่แล้ว ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั้ง 20 คน ยังได้ร่วมทำกิจกรรม และเรียนรู้การดำเนินชีวิตโดยใช้หลักการพึ่งพาตนเองตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กับผู้นำชุมชนท้องถิ่นที่มากความสามารถ อย่างผู้ใหญ่บ้านบ้านเตย แห่งหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านเตย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่ในอดีตชาวบ้านในหมู่บ้านเคยประสบภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว เนื่องจากปัญหาผลผลิตทางการเกษตรลดลงและราคาตกต่ำ โดยเฉพาะปัญหาดินเค็มจนไม่สามารถเพาะปลูกได้ แต่ด้วยแนวทางการแก้ปัญหาของผู้นำชุมชนที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ เน้นการมีส่วนร่วมของทุกคนในชุมชน สามารถทำให้ผู้คนในบ้านเตย สามารถลุกขึ้นกลับมายืนบนลำแข้งตนเองได้อีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ
นางสมบัติ โชติกลาง ผู้ใหญ่บ้านบ้านเตย ผู้นำชุมชนคนเก่ง กล่าวว่า การที่ชาวบ้านเตยสามารถผ่านพ้นวิกฤติมาได้ ก็เพราะนำหลักความสามัคคี และการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน มาแก้ไขจนประสบความสำเร็จ โดยมีแนวคิดร่วมกันว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9
“ผู้นำคือคนสำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติตนให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดี อย่างเช่นการแก้ปัญหาความจนในชุมชน เมื่อผู้นำทำให้เห็นว่าการใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงก็มีความสุขได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลูกบ้านก็เชื่อมั่นที่จะปฏิบัติตาม แต่สิ่งสำคัญนับจากนี้คือการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ขึ้นมาสานต่อการทำงาน ซึ่งผู้นำรุ่นใหม่ที่ดีต้องมีความเสียสละ มีความเป็นธรรม และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล จึงจะสามารถดูแลขับเคลื่อนชุมชนและสังคมของตนเองให้มีความความยั่งยืนได้” ผู้ใหญ่บ้านบ้านเตยกล่าว
การประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ “One Young World Summit 2017” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ถึง 7 ตุลาคม 2560 ณ เมืองโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย ซึ่งนับว่าเป็นการจัดการประชุมขึ้นเป็นครั้งแรกในทวีปอเมริกาใต้ โดยการประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้นำระดับโลก อาทิ ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนูส (Professor Muhummad Unus) ผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีนและผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ, โคฟี อันนัน (Kofi Annan) อดีตรองเลขาธิการสหประชาชาติ, ฌอร์น มานูเอล ซานโตส (President Juan Manuel Santos) ประธานาธิบดี โคลอมเบีย, เซอร์บ็อบ เกลดอฟ (Bob Geldof) ศิลปินและนักดนตรี, แมรี่ โรบินสัน (Mary Robinson) อดีตประธานาธิบดีไอร์แลนด์ และทูตพิเศษองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ทาวัคโคล คาร์มาน (Tawakkol Karman) นักข่าว และนักสิทธิมนุษยชน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่อายุน้อยที่สุด, จอร์เจต มัลเออร์ (Georgette Mulheir) ผู้บริหารมูลนิธิ Lumos ที่ก่อตั้งโดย เจ.เค.โรว์ลิง รวมไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับโลกหลากสาขาอาชีพ ที่จะมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้นำเยาวชนจากทั่วโลก เพื่อร่วมกันสร้างเครือข่ายผู้นำและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อผลักดันให้โลกใบนี้ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
“เครือเจริญโภคภัณฑ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เวทีประชุมผู้นำเยาวชนระดับโลก One Young World 2017 ในปีนี้ จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ตัวแทนเยาวชนทั้ง 20 คน จากการได้พบปะแลกเปลี่ยน สร้างมิตรภาพ ภราดรภาพ และพูดคุยในปัญหาต่างๆ ที่แต่ละประเทศประสบอยู่ แล้วกลับมาถ่ายทอดแนวความคิดดีๆ ไปสู่มิตรสหาย ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ หากทำได้อย่างต่อเนื่องก็จะเกิดการผนึกกำลังกันทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค ไปจนถึงระดับโลก ในการร่วมแก้ปัญหาในประเด็นสำคัญในอนาคต นี่คือประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ที่เยาวชนคนไทยจะได้ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำรุ่นใหม่ในอนาคต และยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลกอีกด้วย” นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าว.