เบาหวาน .. โรคที่ (ไม่) น่ากลัว

วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีคือ วันเบาหวานโลก ทางอิควล (Equal) ผลิตภัณฑ์ให้ความหวาน แทนน้ำตาล แบรนด์ผู้นำจากอเมริกา ได้เห็นถึงอันตรายของโรคเบาหวาน จึงได้จับมือกับโรง พยาบาลพญาไท 2 จัดกิจกรรมตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อส่งเสริมความรู้พร้อมรับมือ กับโรคเบาหวาน เนื่องในวันเบาหวานโลก (World Diabetes Day 2017) โดยแพทย์หญิง-นารีลักษณ์ กลิ่นสุคนธ์ (นิ่มน้อย) อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม ศูนย์เบาหวาน และต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ “เบาหวาน..โรคที่ (ไม่) น่ากลัว” ไว้ดังนี้

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปีและเบาหวานยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็น อันดับ 9 ของผู้หญิงทั่วโลก

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน

–              ผู้ที่มีญาติสายตรง (พ่อ, แม่, พี่, น้อง) เป็นเบาหวาน

–              ความอ้วน ไม่ออกกำลังกาย ความเครียด

–              อายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป

–              มีภาวะเบาหวานแฝงมาก่อน

–              มีโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ

–              มีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือมีลูกที่น้ำหนักแรกคลอดมากกว่า 4 กิโลกรัม

–              โรคของตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน

เบาหวานส่งผลต่อ  (ภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานต่อร่างกาย)

–              หัวใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

–              สมอง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด โรคเส้นเลือดสมองตีบ อัมพฤต อัมพาต

–              ไต เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตวายเรื้อรัง

–              เส้นประสาท ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทส่วนปลาย มีอาการชา เจ็บปวด ปลายมือ ปลายเท้า

–              ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เป็นแผลเรื้อรังหายยาก โดยเฉพาะแผลที่เท้า เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกตัดนิ้ว ตัดเท้า

–              ตา ทำให้เกิดจอประสาทตาอักเสบ เส้นเลือดที่จอประสาทตาผิดปกติเพิ่มความเสี่ยงการเกิดตา บอด

ทำอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน – ข้อสำคัญคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

  1. เลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ ทานผักใบเขียว ผลไม้รสไม่หวานจัด ทานธัญพืช ถั่ว ข้าวไม่ขัดสี ทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
  2. หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด เค็มจัด และมัน ถ้าต้องการรสหวาน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความหวาน แทนน้ำตาล ในการประกอบอาหารและปรุงอาหาร
  3. งดเครื่องดื่มรสหวานเช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ
  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  5. ลดน้ำหนัก ไม่ให้อ้วน
  6. เลิกสูบบุหรี่
  7. ทานยาตามแพทย์สั่ง และติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  8. ตรวจติดตามภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันและรักษาตั้งแต่ แรกเริ่ม
  9. ตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้วด้วยตนเองที่บ้าน ถ้าสามารถทำได้