“จูเลีย โรเบิร์ตส” สุดยอดตัวแม่แห่งฮอลลีวู้ด ขอวัดฝีมือกับหนุ่มน้อยมหัศจรรย์ เจค็อบ เทรมเบลย์ ในภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจส่งท้ายปี กับ Wonder

เมื่อ 27 ปีก่อน ชื่อของ จูเลีย โรเบิร์ตส ได้กลายมาเป็นชื่อที่ไม่มีใครไม่รู้จัก หลังจากเธอแสดงภาพยนตร์เรื่อง Pretty Woman หรือ “ผู้หญิงบานฉ่ำ” ในชื่อไทย ที่ได้ทำให้จูเลีย โรเบิร์ตส ซึ่งยังเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่ง ณ เวลานั้น ก้าวขึ้นชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รวมทั้งได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ตลกอีกด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เปล่งประกายความเป็นซูเปอร์สตาร์ในภาพยนตร์อีกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Notting Hill และ Runaway Bride ที่เล่นเอาแฟนๆ กรี๊ดกันไปตัวโลก มาจนกระทั่งภาพยนตร์อย่าง Erin Brockovich ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลสูงสุดในชีวิต นั่นคือรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ส่งจูเลีย โรเบิร์ตส ขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวแม่แห่งวงการโรแมนติก คอเมดี้ของฮอลลีวูดอย่างเต็มภาคภูมิ ตลอดเส้นทางอาชีพของเธอ คว้ารางวัลด้านการแสดงไปถึง 50 รางวัล รวมทั้งเข้าชิงอีกกว่า 84 ครั้ง

14 ธันวาคมนี้  จูเลีย โรเบิร์ตส จะมาพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งใน “Wonderภาพยนตร์เสริมสร้างแรงบันดาลใจที่สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนขายดีติดอันดับนิวยอร์กเบสเซลเลอร์ ผลงาน อาร์.เจ. ปาลาซิโอ้ ที่เคยเข้าชิงรางวัลใหญ่อย่าง คาร์เนกี้ อวอร์ด มาแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายรื่องราวของ ออกัสต์ (อ๊อกกี้) พูลล์แมน เด็กชายอายุ 10ขวบที่บ้าสตาร์วอร์ส ชอบกินไอติม ติดเกม มีครอบครัวที่อบอุ่น  และแม่ที่รักเขาที่สุดในโลก แต่ อ๊อกกี้เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติที่ใบหน้า ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 10 ขวบ ออกัสต์ เข้ารับการผ่าตัดใบหน้ามาแล้วกว่27 ครั้ง คนแปลกหน้ามักเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นหน้าเขา หลายคนมองว่า ออกัสต์ มีหน้าตาที่น่าเกลียด จนไม่อยากเข้าใกล้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขาต้องเริ่มเรียนเกรด 5 ที่โรงเรียนประถมบีเชอร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เรียนรวมกับเด็กคนอื่น เขาต้องพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาก็คือเด็กธรรมดาที่ต้องการความรักความอบอุ่น เล่นเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แบบเด็กชายทั่วไป  รับประกันคุณภาพโดย สตีเฟ่น ชาบอสกี้ ผู้กำกับจาก The Perks of Being a Wallflower ที่ทำให้หนังคัมมิ่งออฟเอจเรื่องนี้โดนใจคนทั่วโลกมาแล้ว

ตามที่ได้เห็นในตัวอย่างมันมีฉากสะเทือนใจที่คุณและสามีในเรื่องของคุณ (โอเว่น วิลสัน) ถึงกับกลั้นน้ำตา ซึ่งปกติคนที่เป็นลูกมักไม่ค่อยได้เห็นน้ำตาของพ่อแม่เท่าไหร่  คุณเองในฐานะคนเป็นแม่คุณมีครั้งไหนที่ต้องกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้บ้างไหม?

โรเบิร์ตส : ไม่เลย ฉันร้องไห้แทบทุกวัน (หัวเราะ) แต่ไม่ได้แปลว่าฉันสบายใจกับมันหรอกนะ ฉันเข้าใจว่าคนเราสามารถเศร้าไม่ก็ซาบซึ้งอย่างสุดๆ ได้ถ้ามีอะไรมากระตุ้น ซึ่งคุณจะกลับมาเป็นปกติเอง และการให้ลูกๆ ของคุณมาช่วยเยียวยามันดีขึ้นเยอะเลย แบบตอนที่ ไมค์ นิโคลส์ (ผู้กำกับชื่อดัง) เสียชีวิต ฉันรู้สึกเหมือนหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย ก็ได้ลูกๆ ฉันเนี่ยแหละคอยปลอบ พวกเขาเล่าเรื่องไมค์ให้ฉันฟัง แม่จำตอนที่ไมค์กับไดแอนทำนี่ได้ไหม?” มันช่วยให้ฉันฟื้นความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับเขา ทำให้ฉันมีความสุขมาก ย้ำให้เราได้เห็นว่าเขามีคุณค่ากับเรามากแค่ไหน มันช่วยให้ฉันเอาชนะความเห็นแก่ตัวเวลาที่เสียคนรักไป เมื่อมีใครซักคนให้ฉันได้ยึดเหนี่ยว

หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงภัยของการกลั่นแกล้งในโรงเรียน แล้วคุณเองล่ะเคยมีประสบการณ์แบบนั้นบ้างหรือเปล่า?

โรเบิร์ตส : ก็มีบ้างค่ะ แต่พอมาตอนนี้ฉันก็ได้แต่หัวเราะไปกับมัน อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้โดนหนักแบบอ๊อกกี้มั้ง

แล้วอะไรที่ทำให้คุณสนใจร่วมแสดงในเรื่องนี้?

โรเบิร์ตส : เพราะตัวหนังสือเลยค่ะฉันคิดว่าถ้าเราสามารถยึดคอนเซ็ปต์ของหนังสือที่มันช่างเบสิคได้ เราจะมีความสุขกันมากกว่าเดิม สำหรับฉันมันเป็นเครื่องเตือนใจชั้นเยี่ยม ให้เป็นคนดีขึ้นในทุกสถานการณ์ระหว่างวัน เลือกที่จะเป็นคนน่ารักมากกว่าเลือกวิธีที่เร็วกว่า หรือแค่สะใจกว่า

ความรู้สึกที่เธอมีต่อหนังสือเล่มนี้

โรเบิร์ตส : ฉันคิดว่ามันมีตัวละครหลากหลายและฉันชอบที่มันเล่าผ่านมุมมองตัวละครหลายตัว ความโดดเด่นและความซับซ้อนของพวกเขา ฉันอ่านมันพร้อมกับลูกๆ พวกเขาชอบมันและถึงจุดนั้นฉันรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้ควรทำเป็นหนังอย่างมาก

ความรู้สึกของคุณในเรื่องที่คุณสวมวิญญาณเป็นผู้หญิงที่ยอมทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อเป็นแม่ของเด็กพิเศษ

โรเบิร์ตส : ฉันคิดว่า อิซาเบลมีปมที่น่าสนใจ ฉันว่าเราทุกคนต้องมีจุดหักเหครั้งใหญ่ในชีวิตเมื่อกลายเป็นพ่อแม่ คุณต้องเป็นผู้ดูแลอีกหนึ่งชีวิต ซึ่งนั่นคือเรื่องสำคัญที่สุดของคุณ สำหรับอิซาเบล การเป็นแม่อ๊อกกี้นั่นลำบากมาตั้งแต่เริ่ม เพราะแค่รักษาชีวิตเด็กน้อยคนนี้ไว้ก็ท้าทายแล้ว แต่ในขณะเดียวกันเธอยังต้องสร้างโลกที่เหมาะสมให้ลูกชายเธอได้ใช้ชีวิตด้วย ดังนั้นตอนนี้ที่อ๊อกกี้เข้าโรงเรียน มันทั้งทำให้เธอดีใจและทุกข์ใจ มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ใช้เวลาทุกนาทีด้วยกัน แต่มันกลับเปิดโอกาสให้เธอได้กลับไปทำในสิ่งที่เธอเคยทำก่อนที่อ๊อกกี้เกิด เธอเริ่มเรียนรู้ที่จะปล่อยวางบ้างแล้ว

พูดถึง ผู้กำกับ สตีเฟ่น ชาบอสกี้

โรเบิร์ตส : สตีเฟ่นสนใจในตัวละคร สายใยความสัมพันธ์ของแต่ละตัว เขามอบความอ่อนโยนให้กับทุกคน บางครั้งเขาอธิบายไปน้ำตาไหลไปด้วยซ้ำ เพราะมันมีความหมายกับเขามาก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังตาแหลมมากๆ ด้วย

มีฉากหนึ่งในเรื่องที่อ๊อกกี้พูดว่า คุณสามารถเดาตัวตนคนอื่นได้จากรองเท้าที่พวกเขาใส่สำหรับคุณเองแล้วมันจริงไหม?

โรเบิร์ตส : ฉันว่าจริงอยู่นะเพราะในเรื่องตัวละครเนท สามีของฉัน พ่อของอ๊อกกี้ ทำงานธนาคารเขาเลยต้องใส่สูท แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่งานที่เขาชอบเลย เขาอยากเป็นนักดนตรีต่างหาก เขาเลยใส่รองเท้าผ้าใบกับสูทซึ่งมันไม่ได้เข้ากันเลย ส่วนตัวละครของฉันเป็นศิลปินเธอแต่เธอเริ่มห่างเหินจากงานศิลปะหลังจากที่ต้องดูแลอ๊อกกี้ แต่คุณจะได้เห็นความเป็นศิลปินของเธอปรากฏอยู่ในรายละเอียดตรงรองเท้าหรือเครื่องประดับ

เจค็อบ เทรมเบลย์ หนุ่มน้อยที่รับบทเป็นอ๊อกกี้บอกว่าการร่วมงานกับคุณในเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตเขา ในกองถ่ายเจค็อบเป็นอย่างไรบ้าง?

โรเบิร์ตส : เขามหัศจรรย์มาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้ดู Room ฉันรู้ทันทีว่าเด็กคนนี้ต้องดังแน่ๆ เจค็อบมีพรสวรรค์แต่เขาก็เตรียมตัวไม่แพ้ดาราผู้ใหญ่เลย เขาทั้งจด ทั้งวาด ทั้งเก็บรูปในสมุดของเขา แถมยังไปพบกับเด็กที่มีอาการใบหน้าผิดปกติตัวจริงด้วย ฉันเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเขาเหมือนกัน ตลอดเวลาที่เราทำงานร่วมกัน เขากลายเป็นอ๊อกกี้ตลอดเวลาในสายตาฉัน ฉันจำได้ว่าตอนที่เราปิดกล้องฉันบอกลาเจค็อบ แม่ของเจค็อบบอกฉันว่าฉันรู้สึกเหมือนคุณเป็นแม่อ๊อกกี้ส่วนฉันเป็นแม่เจค็อบเลยซึ่งมันบรรยายความรู้สึกฉันได้ตรงทีเดียว

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ อ๊อกกี้ มีพี่สาวคือ เวีย (อิซาเบลล่า วิโดวิช) ทั้ง 2 คน มีความผูกพันที่งดงามและซับซ้อน ฉันคิดว่าเวียเป็นตัวละครที่เจ๋งมากเพราะเธอเป็นคนรักน้องชายจริงๆ จนถึงจุดที่เธอยอมรับว่าคงไม่มีใครใส่ใจเธอเหมือนที่ใส่ใจน้องชายไปตลอดชีวิต

และที่ขาดไม่ได้ โอเว่น วิลสัน ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา

โรเบิร์ตส : โอเว่น ทำให้ภาพของเนทออกมาชัดมาก ฉันว่าเขาทำงานในเรื่องนี้ได้ไร้ที่ติ เรามีอารมณ์ขันคล้ายๆ กัน เราเลยเข้าขากันได้ดี

หลังๆ มานี้เหมือนคุณจะเล่นหนังน้อยลง นั่นเป็นเพราะคุณเลือกรับบทมากขึ้นหรือเปล่า?

โรเบิร์ตส : ฉันรอให้บทดีๆ มาหาฉันมากกว่าที่จะไล่ตามมันเหมือนเมื่อก่อน มันสนุกกว่าแถมยังเป็นธรรมชาติกว่าด้วย เวลาฉันจะรับบทไหนฉันต้องคิดกับตัวเองว่าฉันพร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อบทนี้ แทนที่จะคิดแค่โอเค ฉันต้องแกล้งทำเป็นผู้หญิงที่ชื่อเจน เธอทำงานในธนาคารแบบนั้นมันไม่เวิร์คหรอก ฉันอายุ 50 แล้วนะ เอาเวลามาทำในสิ่งที่อยากทำจริงๆ ดีกว่า คุณต้องย้ำกับตัวเองเสมอว่าคุณทำสิ่งที่คุณทำอยู่เพราะอะไร นั่นเหมือนเป็นประภาคารนำทางคุณเลย

จูเลีย โรเบิร์ตส  โอเว่น วิลสัน  เจค็อบ เทรมเบลย์

เลือกจะประหลาด หรือ เลือกจะมหัศจจรย์

เด็กหนุ่มธรรมดาคนนี้กำลังจะมามอบความสุขให้กับผู้ชมทั้งโลก

ใน  “WONDER : 7 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

Wonder – Official Trailer 2 [ ตัวอย่าง ซับไทย ] :  https://youtu.be/Rz5-U2dxWB8