หัวเว่ยรุกตลาดอีคอมเมิร์ซ เพิ่มช่องทางให้ลูกค้า เปิดตัว HUAWEI Official Online Store ผ่านเว็บไซต์ ‘ลาซาด้า’ และ ‘ช้อปปี้’

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ผู้นำเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนที่ครองใจผู้ใช้ทั่วประเทศ   จับมือ ลาซาด้า’ (Lazada) และ ช้อปปี้’ (Shopee) ผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซ ตั้ง ‘HUAWEI Official Online Store’ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของหัวเว่ยบนช่องทางออนไลน์ หัวเว่ยเดินหน้าขยายช่องทางจัดจำหน่ายเปิดเกมรุกตลาดอีคอมเมิร์ซไตรมาสแรก รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการในช่วงก่อนการตัดสินใจซื้อเพื่อขยายโอกาสทางการตลาดให้สินค้าของหัวเว่ยเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาหัวเว่ยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจาก 5 ปัจจัยหลักที่เกี่ยวพันกับแบรนด์คือ 1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค 2. การจับมือกับพันธมิตรระดับโลกส่งผลให้แบรนด์ได้รับความน่าเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้ใช้ 3. การยกระดับบริการหลังการขายระดับพรีเมียมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อาทิ บริการ Door to Door Service และDiamond Service ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าหัวเว่ยเป็นอย่างมากในเรื่องของความสะดวกสบายหลังการขาย  4. การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และ 5. การขยายช่องทางจัดจำหน่าย โดยสิ้นปีที่ผ่านมาหัวเว่ยมีร้านตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2016 ทำให้ตอนนี้หัวเว่ยมีร้านค้าจำหน่ายครอบคลุมกว่า 9,000 แห่ง และมีหัวเว่ยแบรนด์ช้อปกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ  และอีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่เอื้อให้หัวเว่ยเติบโตอย่างรวดเร็วคือ การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีส่งผลต่อพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารและการซื้อสินค้าของผู้บริโภคมากที่สุด ผู้บริโภคมองหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการเฉพาะตัวได้มากขึ้น  ด้วยจุดแข็งของหัวเว่ยที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังจะเห็นได้จากการมีศูนย์พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ทั่วทุกมุมโลกกว่า15 แห่ง และศูนย์วิจัยร่วมกว่า 36 แห่ง ทำให้หัวเว่ยสามารถก้าวมายืนเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ครองใจผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่นาน”

นายทศพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้หัวเว่ยยังคงรุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหัวเว่ยเล็งเห็นว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ประเมินตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยในปีที่ผ่านมาจะมีมูลค่าประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 9.8% และคาดการณ์ว่าในปี 2018 นี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซจะขยายตัวมีมูลค่าประมาณ 3 ล้านล้านบาท ดังนั้นปีนี้หัวเว่ยจึงก้าวเข้ามาบุกตลาดอิคอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการ 

โดยก้าวสำคัญของการบุกตลาดอีคอมเมิร์ซครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าหัวเว่ยช็อปปิ้งที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ โดยเน้นหนักไปที่การบริหารและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งทั้งออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันให้เป็นไปอย่างราบรื่นไม่สะดุด เช่น ลูกค้าเข้าไปดูของที่แบรนด์ช็อปหรือตัวแทนจำหน่าย  กลับบ้านมาสามารถตัดสินใจซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย หรือดูของผ่านร้านค้าออนไลน์  แล้วเดินเข้าไปในร้านตัวแทนจำหน่ายออฟไลน์แล้วตัดสินใจซื้อได้ทันทีทำให้ร้านค้าแบบอีคอมเมิร์ซและหน้าร้านมีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยกลยุทธ์นี้เป็นผลพวงมาจากการเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหัวเว่ยให้ความสำคัญกับความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าเป็นอย่างมาก เพื่อเป้าหมายหลักในการสร้างความพึงพอใจและเพิ่มโอกาสในการขาย  ดังนั้นในปีนี้เราจึงเห็นการจับมือกันระหว่างหัวเว่ยและ 2 พาร์ทเนอร์ผู้นำการช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง ลาซาด้า’ (Lazada) และ ช้อปปี้’ (Shopee) โดยหัวเว่ยจะตั้งร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ HUAWEI Official Online Store บนเว็บไซต์ของ ลาซาด้า’ (Lazada) และช้อปปี้’ (Shopee)  

HUAWEI Official Online Store พร้อมให้บริการบนเว็บไซต์ของ Lazadaตามลิ้งค์ https://www.lazada.co.th/huawei แล้วตั้งแต่วันนี้ และจะพร้อมให้บริการบนเว็บไซต์ Shopee ตามลิ้งค์ https://shopee.co.th/huawei_official_shop ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป