‘บมจ.ทีพีบีไอ’ หรือ TPBI มั่นใจปี 61 เติบโตดีกว่าปีก่อน รับสัญญาณบวกจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกใหม่ในกลุ่ม ทรานส์ฟอร์เมชั่นที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนการฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด พร้อมกดปุ่มเดินเครื่องจักรโรงงานใหม่ในกลุ่ม Flexible Packaging กลางปีนี้ตามแผน ดันภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโต 10% เทียบกับปี 60
นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือTPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2561 จะเติบโตดีกว่าปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้ธีม Transformation อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อยกระดับการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลุ่ม General Packaging ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดที่ให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมและเทรนด์อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด เช่น บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับภาคขนส่งเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ E-commerce, ถุงใส่ผักผลไม้, ถุงสำหรับใส่ครีมตกแต่งหน้าเค้ก ตลอดจนการนำพลาสติกรีไซเคิลมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทำให้มียอดปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยในปีนี้ TPBI ประเมินว่า สัญญาณคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่ม Transformation ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม เช่น การผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับขนส่งพัสดุให้แก่บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ของไทย ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคมนี้ หรือคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทถุงช้อปปิ้งที่มีส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิลในสัดส่วน 80% ซึ่งเป็นออเดอร์ใหม่จากผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย
“ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่เราดำเนินกลยุทธ์ภายใต้ธีม Transformation เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เห็นได้จากคำสั่งซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์ประเภทหูหิ้วในกลุ่มGeneral Packaging ที่กำหนดให้ใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในการผลิต 50-80% ดังนั้นเราจึงมีศักยภาพและความพร้อมในด้านการผลิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงานในปีนี้ที่จะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง” นายกมล กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน TPBI กล่าวว่า ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ Flexible Packaging เพิ่มขึ้น ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Value Added ที่มีอัตรากำไรที่ดี โดยเพิ่มกำลังการผลิตMultilayer Film อีก 2,500 ตันต่อปี จากเดิมมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 9,000 ตันต่อปี และขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคอีก 100 ล้านเมตรต่อปี คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ภายในกลางปี 2561 ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและสนับสนุนผลการดำเนินงานปีนี้เติบโต 10% ได้ตามแผน
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯ ประเมินว่าจะอยู่ในช่วงภาวะอ่อนตัวเมื่อเทียบกับปี2559 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงของการเริ่มต้น Transformation ธุรกิจ เพื่อปรับพอร์ตการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดโลก จึงจำเป็นต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาสินค้าและแนะนำผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า แม้ว่าภาพรวมจะมียอดคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่ม Transformation เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจาก 9 เดือนแรกมีปริมาณการผลิตสินค้าจากกลุ่มดังกล่าวสูงถึง 3,985 ตัน แต่ยังไม่สามารถชดเชยกับการชะลอตัวของคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกประเภทหูหิ้วได้เท่าที่ควร ขณะเดียวกัน ยังได้รับผลกระทบจากภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแรงกดดันของผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา
Related