ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, พารากอน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ และบลูพอร์ต หัวหิน จับมือ ธนาคารกสิกรไทย ฉลองเทศกาลตรุษจีน จัดแคมเปญ Chinese New Year Joy Luck Love จอเจิดจรัส ร่ำรวย รุ่งเรือง สมปรารถนา ระหว่างวันที่ 8 – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ชวนช้อปรับอั่งเปาส่วนลดสูงสุด 50 % ลุ้นท่องไต้หวันเสริมดวงเฮง ดวงความรัก พร้อมกิจกรรมเซียมซีสมปรารถนา มอบความ Joy Luck Love ในปีจอ หวังกระตุ้นการใช้จ่ายสร้างยอดขายรวมกว่า 2,700 ล้านบาท
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Chamnarn Maytaprechakul ; Executive Vice President The Mall Group) กล่าวว่า ภาพรวมตลาด ค้าปลีกตั้งแต่ปลายปี 2560 ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในทิศทางบวก ลูกค้ามีการใช้จ่ายต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนที่มีการประกาศนโยบายช้อปช่วยชาติ ส่งผลให้เดอะมอลล์ กรุ๊ป ปิดยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 56,000 ล้านบาท เติบโต 4 %
สำหรับในปี 2561 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาภาพรวมการใช้จ่ายมีต่อเนื่องโดยเดอะมอลล์ ได้เปิดตลาดปี 2561 ด้วยงานมหกรรมลดทะลุพิกัดที่จัดระหว่าง 31 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในงานไม่ต่ำกว่า 300ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภาพรวมจะดีต่อเนื่องไปจนถึงช่วงตรุษจีน ซึ่งในปีนี้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับวันวาเลนไทน์ซึ่งทั้ง 2 เทศกาลจะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทางห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ จึงมีแนวคิดในการผนวก 2 เทศกาลสำคัญนี้โดยผ่านแคมเปญ Chinese New Year Joy Luck Love: จอเจิดจรัส ร่ำรวย รุ่งเรือง สมปรารถนา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-28 กุมภาพันธ์ ศกนี้
ตรุษจีนในปี 2561 นี้ เป็นปีจอ ธาตุดิน เรียกว่าปี โบ่วสุก มีเทพไท้ส่วยเอี๊ยะประจำปีนี้ได้แก่ เทพเกียงบู๊ไต่เจียงกุง เป็นขุนพลในราชวงศ์หมิง พลีชีพในสงครามที่คนจีนนับถือเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง มีปีที่ชงคือ ปีมะโรง, ปีจอ, ปีมะแมและปีระกา ซึ่งควรทำพิธีแก้ชงที่วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวันจีนอื่นๆเพื่อความเป็น สิริมงคล รวมถึงไหว้พระ ทำบุญ 9 วัน เพื่อความปลอดโปร่ง สร้างความสุขให้แก่ตนเอง และเผื่อแผ่ให้ กับคนอื่นๆ
นอกจากการทำบุญเสริมดวงแล้ว การช้อปปิ้งก็ยังถือเป็นกิจกรรมหลักที่ลูกค้าให้ความสนใจในช่วงตรุษจีนปีนี้ โดยแคมเปญ Chinese New Year Joy Luck Love ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ผสมผสานของ3 หลักการตลาดที่สำคัญได้แก่ Emotional Marketing, Functional Marketing และ Superstitious Marketing (การตลาดโชคลาง) จนกลายมาเป็น Concept ของแคมเปญ Joy Luck Love จอเจิดจรัส ร่ำรวย รุ่งเรืง สมปรารถนา ที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าในช่วง 2 เทศกาลสำคัญของการจับจ่ายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมีรายละเอียดโปรโมชั่นสำคัญ ได้แก่
-
มอบความสุขลูกค้าได้สนุกสนานกับการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล ด้วยโปรโมชั่นพิเศษที่สร้างความคุ้มค่าในทุกๆการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้า ช้อป 1,500 – 15,000 บาท หรือ ใช้คะแนน M Card รับอั่งเปาส่วนลด 10-50 % นอกจากนี้บัตรเครดิตชั้นนำยังมอบความพิเศษ ลดเพิ่ม/บัตรกำนัล/เงินคืน สูงสุด 20%
-
ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ชวนลุ้นทริปไต้หวัน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ เสริมดวงความเฮง ความรัก รับประทานอาหารมงคล พร้อมท่องเที่ยวสถานที่สุดฮิตของไต้หวัน อาทิ ทะสาบสุริยันจันทรา, หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิน ฯลฯ รวม 10 รางวัลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
-
กิจกรรมเสี่ยงเซียมซี เสี่ยงทายดวงชะตาปีจอ รับคำทำนายดวง พร้อมรับของพรีเมี่ยมพิเศษ เฉพาะที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ,บางแค, โคราช, เอ็มโพเรียมและพารากอน
คุณชำนาญกล่าวต่อว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มองว่ากำลังซื้อของลูกค้ายังดี เมื่อเที่ยบกับในปีที่ผ่านมา ร่วมถึงมีปัจจัยบวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ ในระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน (ศูนย์พยากรณ์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมทำให้หลายๆฝ่ายคาดการณ์ เศรษฐกิจในปี 2561 นี้ จะเติบโตได้ถึง 4 % ในส่วนของห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์เอง ยังมุ่งเน้น กลยุทธ์ในเรื่องของ การสร้างแคมเปญ และกิจกรรมโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่ต่อเนื่องทั้ง ในส่วนของแคมเปญของห้างฯเอง และการจัด Sale event นอกพื้นที่ เพื่อสร้างกำลังซื้อที่ต่อเนื่อง ในขณะที่พฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันยังคงนิยมในเรื่องของความคุ้มค่า และมูลค่าเพิ่มจาการใช้จ่ายๆ ที่ต้องผนวกกับ Emotional marketing โดยเราจะเห็นรูปแบบการทำการตลาดดังกล่าวที่ ห้างสรรพสินค้าในกลุ่ม เดอะมอลล์ ตลอดไตรมาสแรกของปีนี้
สำหรับแคมเปญ Chinese New Year Joy Luck Love จอเจิดจรัส ร่ำรวย รุ่งเรืง สมปรารถนา ถือเป็นแคมเปญใหญ่แคมเปญแรกในช่วงไตรมาสแรกของปีที่ใช้งบประมาณรวมกว่า 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าสามารถสร้างยอดขายของแคมเปญได้รวมกว่า 2,700 ล้านบาท จากการจัดงานรวม 21 วัน