“คูลฟาเรนไฮต์” เปิดแผนปี 2018 ทุ่ม 100 ล้าน ชูคอนเซ็ปต์ EVERY MOMENT WITH YOU

คูลฟาเรนไฮต์ในเครืออาร์เอส ประกาศความสำเร็จทรานฟอร์มสู่สถานีเพลงดิจิตอลสมบูรณ์แบบ ชี้เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในขณะนี้ที่จับมือนีลเส็นฯใช้การวัดผลออนไลน์น่าเชื่อถือและแม่นยำ เปิดข้อดีเห็นจำนวนคนฟังที่แท้จริง แถมไม่มีนับซ้ำบนแพลตฟอร์มที่ต่างกัน แย้มแผนปี 2018 ทุ่มงบ 100 ล้านบาทรุกเต็มสูบ ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ EVERY MOMENT WITH YOU อัด 2 กิจกรรมซิกเนเจอร์และแคมเปญใหญ่ตลอดปี คาดสิ้นปีโกยรายได้ 500 ล้านบาทตามเป้า

นายปริญญ์ หมื่นสุกแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารสถานี คูล ฟาเรนไฮต์ เปิดเผยว่า ในปี 2017 ที่ผ่านมา คูลฟาเรนไฮต์ประสบความสำเร็จไปอีกก้าวกับการทรานฟอร์มบิสิเนสสู่แบรนด์ใหม่คูลฟาเรนไฮต์ (COOLfahrenheit)” วางจุดยืนเป็นสถานีเพลงไทยที่นำเสนอ MUSIC LIFESTYLE CONTENT ส่งตรงถึงผู้ฟังทั้งแพลตฟอร์มออนแอร์และออนไลน์ได้ดี ส่งผลให้มียอดผู้ฟังเติบโตสวนกระแสวิทยุโดยรวมที่ชะลอ ดูได้จากผลสำรวจจากบริษัท นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ผู้ทำวิจัยชั้นนำระดับโลกระบุว่า เรามีจำนวนผู้ฟังโดยรวมเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่ย้ายมาจากสถานีอื่นๆ ทำให้ปัจจุบันมีฐานผู้ฟังทะลุ 5.3 ล้านราย แบ่งเป็น กลุ่มออนไลน์ 4 ล้านราย และกลุ่มออนแอร์ 1.3 ล้านราย ขณะที่การวัดผลเรตติ้งออนไลน์ หรือ DCR (DIGITAL CONTENT RATING) ระบุว่า มีการรับฟังมากกว่า 420 ล้านนาทีต่อเดือน และจำนวน Session การเข้าฟังสูงถึง 34 ล้านครั้งต่อเดือน ตอกย้ำความเป็นแชมป์สถานีเพลงอันดับ 1 เมืองไทยตลอดกาล

จากการเติบโตของผู้ฟังออนไลน์ ทำให้เราในฐานะผู้นำตลาดก็อยากริเริ่มตั้งมาตรฐานและยกระดับการวัดผลและประสิทธิภาพของการลงสื่อออนไลน์ที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ ไม่มีการเคลมตัวเลขเกินจริง เพราะสามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดของผู้ฟังออนไลน์ได้ชัดเจน เป็นการตอบโจทย์ของการทำการตลาดของนักการตลาดยุคใหม่ที่จะให้ความสำคัญกับเซกเมนเทชั่นและดาต้าเบสเป็นอย่างมาก ซึ่งคูลฟาเรนไฮต์เป็นสถานีรายการเพลงไทยที่แรกและที่เดียวในขณะนี้ที่เข้าร่วมกับนีลเส็นฯ จัดทำการวัดผล DCR ข้อดีคือได้ข้อมูลที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ และหน่วยของเรตติ้งนับจำนวนคนฟังที่แท้จริง ไม่มีนับซ้ำบนแพลตฟอร์มที่ต่างกัน แถมยังเจาะลึกเห็นข้อมูลโปรไฟล์ที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มอายุของผู้ฟัง ช่วงเวลาที่รับฟัง นาทีการรับฟังต่อคน/วัน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ซื้อสื่อของเราสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดคิดกลยุทธ์ได้ รวมทั้งเปรียบเทียบความคุ้มค่าของการเลือกใช้สื่อได้ด้วยเช่นกันนายปริญญ์ กล่าว

ในปี 2018 บริษัทฯ ทุ่มงบ 100 ล้านบาทรุกตลาดเต็มสูบ ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ EVERY MOMENT WITH YOU รุกแทรกซึมด้วย MUSIC LIFESTYLE CONTENT เข้าไปอยู่ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตผู้ฟัง โดยมุ่งพัฒนาต่อยอดแอพพลิเคชั่น COOLISM เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่จะเพิ่ม Feature ลูกเล่นใหม่ๆ นอกเหนือจากจุดแข็งด้านคุณภาพเสียงระบบเสียงชัดแบบ HD+ ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์กลุ่มคน GEN C ที่ชื่นชอบเสพสื่อออนไลน์มีอายุระหว่าง 20-44 ปี ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 500 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มุ่งสร้างความจงรักภักดี (Loyalty) และความผูกพัน (Engagement) ระหว่างฐานผู้ฟังกับแบรนด์ จึงใช้ COOLprivilege และ COOLdegree เป็นกลยุทธ์สำคัญ โดย COOLprivilege เป็นการมอบสิทธิพิเศษกับผู้ใช้แอพพลิเคชั่นที่ลงทะเบียนให้ข้อมูลส่วนตัว เพื่อลุ้นรับของรางวัลจากแบรนด์ชั้นนำทุกเดือน ซึ่งกระแสตอบรับดีทั้งในแง่พาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมสนับสนุนรางวัล และในแง่ผู้ฟังสนใจร่วมกิจกรรมเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านครั้งต่อเดือน ขณะที่ COOLdegree เป็นการเปิดโอกาสให้เปลี่ยนทุกนาทีในการรับฟังออนไลน์เป็นคะแนนสะสม เพื่อลุ้นแลกรับของรางวัลและกิจกรรมทุกเดือนตลอดปีก็กระแสตอบรับดีเช่นกัน ซึ่งทั้งสองส่วนที่กล่าวมาทำให้เรามีฐานข้อมูลเชิงไลฟ์สไตล์ของผู้ฟังที่เป็นประโยชน์ สามารถนำมาวิเคราะห์วางแผนทางการตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังคงจัด 2 กิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์ ได้แก่ COOLouting เพื่อพาผู้ฟังยกออฟฟิคไปเอ้าท์ติ้ง และ กิจกรรมอิ๊งค์ EAT ALL AROUND โดยมีอิ๊งค์ ..ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์ เป็นผู้อาสาพาไปชิมอาหารอร่อย ตลอดปี และแคมเปญใหญ่อาทิ สลัดโสด Road Trip ทริปท่องเที่ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอินไซท์ของคนโสด Party มี #. ปาร์ตี้คูลๆที่ต้องมี #. อิ๊งค์ EAT AROUND the World #Revolution of Taste in Germany ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทุกกิจกรรมและแคมเปญที่จัดจะโดนใจผู้ฟังและสามารถรักษาแชมป์สถานีเพลงอันดับ 1 เมืองไทยปีที่ 18