PDJ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% แตะ 3,700 ล้านบาท โชว์แผนธุรกิจปรับปรุงการผลิต รองรับออร์เดอร์เพิ่ม พร้อมขยายฐานลูกค้าส่งออก มุ่งสร้างแบรนด์ค้าปลีก ตอกย้ำความเชื่อมั่นระยะยาว ด้านผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน เดินหน้าลุยตามแผน เผยทิศทางอุตสาหกรรมส่งสัญญาณดี เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัว มีปัจจัยหนุนจากภาครัฐ
นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) “PDJ” ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และค้าปลีกเครื่องประดับอัญมณี เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายรวมปีนี้ 20% หรือมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 3,700 ล้านบาท สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นการผลิต 45% ค้าปลีก 35 % การจัดจำหน่าย 20%
ทั้งนี้แผนการดำเนินงานของบริษัทประกอบไปด้วย การปรับปรุงการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของยอดขาย โดยพัฒนาความเชี่ยวชาญของบุคลากร และควบคุมการสูญเสีย ส่งผลให้ภาคการผลิตมีต้นทุนที่ดีขึ้น โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายจากลูกค้า Top20 ซึ่งเป็นสัดส่วนหลักของยอดขายฐานการผลิต
ด้านการจัดจำหน่าย บริษัทได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นในประเทศอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และอินเดีย ทั้งนี้บริษัทได้ทำการปิดบริษัทย่อยที่ประเทศเยอรมัน เนื่องจากมีการเปลี่ยนนโยบายการจัดจำหน่าย โดยจะยังคงให้บริการโดยตรงจากประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการขายให้กับลูกค้าขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษที่สามารถดูแลยอดขายจากลูกค้ารายเล็กได้
ขณะเดียวกันในฐานธุรกิจค้าปลีก บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ของตนเอง ได้แก่ Prima Gold, Prima Art, Prima Diamond,Merii, Gringoire, Julia ในประเทศไทย อินโดนีเซียและเวียดนาม ให้มีความแข่งแกร่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและสามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้อย่างมั่นคง
นอกจากนี้ การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ที่ผ่านมาได้อนุมัติการออกหุ้นกู้ Warrant ESOP และการเพิ่มทุนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของออร์เดอร์ และสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงาน ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ปัจจุบันการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ยอดคำสั่งซื้อจากอเมริกาและยุโรปเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทกระจายความเสี่ยงขยายฐานลูกค้า ODM มากขึ้น ทำให้ธุรกิจการผลิตซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นปริมาณมาก อีกทั้งมาตรการของภาครัฐที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรม ทั้งการยกเว้นภาษี การจัดประกวดออกแบบเครื่องประดับนานาชาติ การประชาสัมพันธ์สินค้าเครื่องประดับแก่นักท่องเที่ยว จากปัจจัยดังกล่าวและแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชนัตถ์ กล่าว