สำนักพิมพ์แซลมอน (SALMON BOOKS) และสำนักพิมพ์บัน (BUNBOOKS) ร่วมกับ บริษัท มินิมอร์ จำกัด ผู้ผลิตเว็บไซต์คอนเทนต์สร้างสรรค์ และตลาดหนังสือออนไลน์ จัดทำแอพพลิเคชั่นบนมือถือภายใต้คอนเซปต์ ‘แอปฯพร้อมอ่าน’
ปฏิกาล ภาคกาย บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์แซลมอนกล่าวว่า ทางสำนักพิมพ์แซลมอนร่วมมือกับมินิมอร์ จัดทำแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา เพราะคิดว่าการอ่านทุกวันนี้มีหลากหลายช่องทาง ด้วยปัจจุบันบุคคลทั่วไปใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต จึงคิดว่าการอ่านในรูปแบบ e-book น่าจะเข้ากับพฤติกรรมการอ่านของคนทุกวันนี้
“ เราตั้งใจให้ ‘แอปฯพร้อมอ่าน’ ตอบโจทย์ในแง่ของการเข้าถึงเพราะว่ามีนักอ่านหลายต่อหลายคนที่ถามไถ่หนังสือของพวกเราในรูปแบบดิจิทัล และอยากให้เราจัดทำในแบบ e-book เพราะนอกจากจะซื้อได้ง่าย ยังตอบโจทย์เรื่องการอ่านที่ไม่จำเป็นต้องรอส่งหรือเสียค่าจัดส่ง หรือเสียเวลาออกไปหาซื้ออีก หรือเวลาไปเที่ยวไกลๆ ก็คั่นเวลาด้วยการอ่านหนังสือได้ทันที การทำแอปพลิเคชั่นนี้มาก็หวังว่าจะรองรับนักอ่านเหล่านี้ได้ทุกที่ทุกเวลา และความพิเศษอีกอย่างคือเรากำหนดให้ราคาหนังสือในแอปฯ ราคาถูกกว่าหนังสือจริง เพราะเราได้ลดต้นทุนบางส่วนออก เช่น ค่ากระดาษ ค่าขนส่ง ซึ่งราคา e-book จะอยู่ระหว่าง 179-199 บาทต่อเล่ม”
ปฏิกาลกล่าวอีกว่า ในเฟสแรกของแอพฯ มีหนังสือที่ถูกจัดทำในแบบ e-book มีอยู่ 5 เล่ม คือ NEW YORK 1ST TIME นิวยอร์กตอนแรกๆ, MOSTLY CLOUDY มีเมฆเป็นส่วนมาก, POWERISM, THAIS IN WORLD HISTORY ผจญไทยในแดนเทศ และประวัติศาสตร์ที่เพิ่งเศร้า ซึ่งหนังสือเหล่านี้ล้วนถูกผู้อ่านถามถึงว่าอยากให้มีเป็น e-book เยอะเป็นพิเศษ และเป็นหนังสือที่ความยาวในแต่ละบทไม่สั้นหรือไม่ยาวเกินไป ทางสำนักพิมพ์เชื่อว่าด้วยความยาวประมาณนี้น่าจะทำให้คนอ่านมีสมาธิ พร้อมเกิดความอยากอ่านเรื่องต่อๆ ไปได้ไม่รู้จบ ซึ่งคิดว่าเหมาะกับการอ่านวันละบทสองบท หรือเปิดเข้าไปอ่านเวลาเครียดๆ ได้
บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์แซลมอนกล่าวอีกว่า ปกติหนังสือของสำนักพิมพ์แซลมอนจะมี extra content หรือเนื้อหาเพิ่มเติมจากในหนังสือเล่มอยู่แล้ว ซึ่งให้ผู้อ่านนำโค้ดที่มีอยู่ในหนังสือเข้าไปอ่านบนเว็บไซต์ของทางมินิมอร์ เมื่อมีแอปพลิเคชั่นขึ้นมา เนื้อหาเหล่านั้นก็จะถูกนำมารวมไว้ในแอปฯ โดยอัตโนมัติ และในอนาคตหนังสือบางเล่มก็อาจจะมีรูปแบบการนำเสนอที่หลากหลายขึ้น อาจมีวิดีโอ รูปภาพ หรือไฟล์เสียงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการอ่าน อย่างหนังสือ NEW YORK 1ST TIME นิวยอร์กตอนแรกๆ ผู้เขียน เบ๊น ธนชาติ ศิริภัทราชัย ได้กลับมาอ่านหนังสือของตัวเอง แล้วเกิดความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ทางสำนักพิมพ์จึงชวนเขามาบันทึกความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวในหนังสือจบไป ด้วยการเพิ่มเนื้อหาเหล่านั้นเข้าไปในฉบับ e-book ด้วยรูปแบบไฟล์เสียง
ด้านสำนักพิมพ์บันมีหนังสืออยู่ในเฟสแรกด้วยกัน 4 เล่ม ได้แก่ เราไม่ได้อยู่คนเดียว อยู่คนเดียว, The Boy Who Never Grows: เด็กไม่รู้จักโต, “FAIRYTALES CAN’T TELL EVERYTHING” —เจ้าชาย, ไม่ได้กล่าว และ HOW I LIVE MY LIFE นางสาว ศิษฏา ดาราวลี (หนุงหนิง) บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์บัน บอกถึงเหตุผลที่เลือกหนังสือสี่เล่มนี้ว่า ส่วนหนึ่งเป็น หนังสือใหม่ที่ขายดี หรือถูกถามหาในงานหนังสือบ่อยมาก และมักขาดสต๊อกหรือบางเล่มยังไม่ได้ตีพิมพ์เพิ่มเป็นหนังสือหายาก เลยคิดว่าเอามาทำเป็น e-book จะทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งในอนาคตก็อยากทำให้มีหนังสือทุกเล่มของสำนักพิมพ์ เพราะหลายเล่มอาจจะหาซื้อไม่ได้แล้ว หรือหนังสือมีสภาพเก่ามากจนไม่น่าซื้อแต่เนื้อหาในหนังสือมันอยู่ได้นานกว่านั้น ถ้ามองข้ามเรื่องรูปแบบไป e-book จะทำให้คนเข้าถึงหนังสือที่ตัวเองต้องการได้ ถึงหนังสือเล่มนั้นอาจจะไม่มีขายตามแผงหนังสือแล้วก็ตาม
“เราว่า e-book ตอบโจทย์แง่ของความสะดวกในการเข้าถึงหนังสือ สมมติเกิดอยากอ่านหนังสือขึ้นมาเล่มนึง ถ้าปกติก็ต้องไปซื้อที่ร้าน หรือสั่งออนไลน์ ซึ่งมันต้องรอการจัดส่งเราอาจจะเลิกอยากอ่านแล้ว แต่ถ้าคิดแล้วซื้อ อ่านได้เลยจบในมือถือ ทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น ถึงในไทย e-book อาจจะไม่ได้เติบโตเท่าที่ควร อาจเพราะจริงๆ e-book ก็ไม่ได้เหมาะกับการอ่านในมือถือขนาดนั้น แต่ในขณะเดียวกัน e-book ก็ตอบโจทย์คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีเวลาออกไปหาซื้อ หรือหนังสือเล่มนั้นไม่ได้มีตีพิมพ์แล้ว หรือคนไทยในต่างประเทศ ซึ่งเรามองว่าการจัดทำ e-book ขึ้นมาของทั้งสองสำนักพิมพ์คือการตอบโจทย์ในส่วนนี้ และความท้าทายของมันคือการพัฒนารูปแบบอย่างไรให้ e-book ของสำนักพิมพ์ตอบโจทย์การอ่านบนหน้าจอได้มากที่สุด” บ.ก.บห.สำนักพิมพ์บันกล่าว
นาย ปฏิญญา เสงี่ยมจิตร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มินิมอร์ จำกัดกล่าวว่า แอปพลิเคชั่นของทั้งสองสำนักพิมพ์ ถูกดีไซน์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอ่านบนสมาร์ตโฟนมากที่สุด หนังสือแต่ละเล่มในแอปฯ จะต่างกับ e-book ส่วนใหญ่ในไทยที่จะนำเลย์เอาท์แบบหนังสือฉบับกระดาษมาให้อ่านเป็นหน้าๆ ในแง่หนึ่งอาจจะทำให้รู้สึกเหมือนหนังสือจริง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ขนาดหน้าจอที่ไม่เท่ากับหน้ากระดาษมันก็อาจสร้างปัญหาได้เช่นกันซึ่งปัจจุบันทางมินิมอร์เองรับงานพัฒนารูปแบบแอปพลิเคชั่นต่างๆ แก่องค์กรที่สนใจจะขยับขยายแพลตฟอร์มใหม่ๆ อยู่แล้ว
“เราจึงเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์ม e-book ของทั้งสอง สนพ.ให้อ่านง่าย ปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นได้ตามความสะดวกของบุคคล โดย ศึกษารูปแบบจากแอปพลิเคชั่นของต่างประเทศ เช่น iBook หรือ Kindle คือมีการแยกส่วนของภาพ กับข้อความออกจากกัน สามารถทำ text reflow หรือการปล่อยข้อความให้ไหลตามหน้าจอขนาดต่างๆ ได้ ทำให้เวลาขยายขนาดฟ้อนต์ ไม่ต้องขยายไปทั้งหน้าจนเกินจอแล้วเลื่อนอ่านซ้ายขวาทุกบรรทัด นอกจากนี้ยังสามารถรวมสื่อมัลติมีเดียเข้าไปในเล่มได้ ตัวอย่างเช่นในเล่ม NEW YORK 1ST TIME ได้มีการเพิ่มคลิปเสียงของเบ๊นเข้าไปเป็นโบนัสในทุกๆ บทของหนังสือ และนอกจากนั้นหนังสือทุกเล่มยังสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาตัวอย่าง 1-2 บทแรกของหนังสือให้ทดลองอ่านฟรี ก่อน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักอ่านให้ลองอ่านก่อนว่าตรงกับใจของเขาไหมถ้าชอบค่อยซื้อทั้ง เล่ม” กรรมการผู้จัดการบริษัท มินิมอร์กล่าว
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SALMON. และ BUNBOOKS ได้ที่ App Store หรือ Google Play Store หรือลิงก์ minimore.com/e