สุดว้าว! งาน BIMMERMEET 2 รวมพลคนรัก BMW กับรถคู่ใจและหาชมยากกว่า 500 คัน


ผ่านไปเรียบร้อยแล้วกับงาน BMWCar BIMMERMEET ครั้งที่ 2 งานรวมตัวของคนที่หลงใหลรถยนต์ BMW ชาวไทยจากทั่วประเทศ ให้ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันกว่า 500 คัน พร้อมพูดคุยเหล่าคอลัมนิสต์ ประจำนิตยสาร BMWCar ที่จะมาตอบคำถามทุกข้อสงสัยของชาว BIMMER ทั้งการเลือกซื้อ การดูแลรักษา และการตกแต่งประจำรถ


ไฮไลท์พิเศษในงานนี้ประกอบไปด้วย Exhibition หลากหลายโซน ทั้งโซน BMW M5 ที่รวมรถตะกูลสปอร์ตซีดานหรู มาไว้ให้ยลโฉมตั้งแต่ E28 ไปจนถึง F10 เตรียมต้อนรับโมเดลใหม่ F90 ในปีนี้ รวมไปถึงโซน BMW Racing ส่วนจัดแสดงที่รวม BMW รุ่นสำหรับแข่งในสนาม เพื่อบอกเล่าตำนาน Motorsport ของประเทศไทยและโซนจัดแสดงรถจากภาพยนตร์ซีรีส์ขนาดสั้น BMWStores ว่าด้วยความผูกพันของเจ้าของรถและ BMW ทั้ง E30 M3 ของคุณอู๋ นภัทร อัสสกุล Z3 ของคุณจอร์จ ธนิษฐ์ เรืองสวัสดิพงศ์ E28 ของคุณอรรถ วีระไวทยะ 503 ของคุณปุ๊ก ชไมพร ปนัสพงษ์ และ M2 ของคุณเปาะ กีรเกียรติ เย็นมะโนช

นอกจากนี้ยังมีโซน Garage โรงรถจำลองที่เกิดขึ้นมาครั้งนี้ ภายใต้คำกล่าวยอดนิยมจากเหล่า ผู้รักรถคลาสสิคว่า “If You Can’t Find One, Make One” นำเอาโครงชิ้นส่วนและตัวถังสภาพสมบูรณ์แบบของ BMW 2002 Touring ในสภาพที่เพิ่งผ่านการซ่อมรักษาสภาพมาเป็นส่วนการจัดแสดง เพื่อตอกย้ำความทุ่มเท ความพยายามในการชุบชีวิต BMW และความสำเร็จที่เจ้าของคลาสิคทุกคันสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง

ปิดท้ายกิจกรรมด้วยขบวนพาเหรดรถยนต์ BMW กว่า 20 คันเพื่อย้อนเรื่องราวการรังสรรยนตรกรรมภายใต้โลโก้ใบพัดฟ้าขาวนับจากอดีตมากระทั่งจนถึงปัจจุบัน อันจะเผยให้ผู้เข้าชมได้เห็น และสัมผัสถึงเสน่ห์ ที่น่าหลงใหลของรถยนต์ยี่ห้อ BMW ตระกูลต่างๆ แต่ละคันที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ น่าสนใจไม่แพ้กัน ตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นสามล้อ อย่าง Isetta รุ่นหายากอย่าง E9  ไปจนถึงรุ่นสปอร์ตไฟฟ้าแห่งอนาคต i8


บรรยากาศในงานครั้งนี้ เราได้เก็บความรู้สึกของชาว BIMMER พูดถึงรถที่ตัวเองรักและผูกพัน ภัทร ศศิวิมลกุล หนึ่งในผู้หลงใหลรถ BMW ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล จนถึงเจ้ารถยนต์คันจิ๋ว 3 ล้อ เป็นรถไมโครคาร์ (Micro Car) สีเหลืองที่โดดเด่นที่สุดในงาน BMWCar BIMMERMEET ครั้งที่ 2 นี้ โดยรถยนต์จิ๋วคนนี้มีนามว่า “BMW ISETTA (อิเซทต้า) 300 ปี 1961” ซึ่งคุณภัทร เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคล 3 ล้อคันนี้ ได้เล่าถึงความเป็นมาของเจ้ารถ 3 ล้อคันนี้ ว่า

“เครื่องยนต์คันนี้มีขนาดอยู่ที่ 300 ซีซี 1 สูบ จริงๆ 300 ซีซี มันเป็นเครื่องมอเตอร์ไซค์ BMW ในยุคปี 1960 รถผมปี 1961 แรงม้าแค่ 13 แรงม้าเท่านั้น เครื่องยนต์จะอยู่ด้านข้างท้ายตัวรถ และความเก๋ของประตูรถคันนี้ เป็นรถที่เลือกใช้เป็นด้านหน้ารถเป็นประตูเข้า-ออก ทำให้กลายเป็นรถประตูเดียว โดยก่อนที่จะได้เจ้าตัวนี้มาย้อนไป 10 ปีที่แล้ว ได้บังเอิญรู้จักกับเจ้าของคนเก่าของเจ้ารถจิ๋ว ซึ่งในเมืองไทยมีรถแปลกๆ และคนสะสมกันค่อนข้างเยอะ เผอิญรถรุ่นนี้อาจจะหายากก็จริง แต่ว่ามีในเมืองไทย แล้วผมก็เจอเจ้าของและซื้อต่อเขามา โดยสภาพรถรุ่นนี้ที่ยังสวย สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ซึ่งถือว่าหายากมากในเมืองไทย ส่วนการดูแลเจ้ารถรุ่นนี้ ก็ไม่ต้องดูแลอะไรมาก แค่อย่าจอดตากแดด อย่าล้างมันบ่อย ใช้เช็ดเฉยๆ ก็ได้”

สำหรับรถ “BMW ISETTA (อิเซทต้า) 300 ปี 1961” เป็นรถไมโครคาร์ (Micro Car) ออกแบบและผลิตครั้งแรกในปี 1953 โดยบริษัท ISO Autoveicoli S.p.A. เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งเดิมทีบริษัทนี้ผลิตตู้เย็นและรถสกู๊ตเตอร์ สภาพเศรษฐกิจในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด ยุโรปต้องต้องเผชิญหน้ากับสภาวะข้าวยากหมากแพง ผู้คนยังมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการซื้อรถยนต์ ยังคงซื้อได้เพียงรถสกู๊ตเตอร์เท่านั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ Mr.Renzo Rivolta ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทในขณะนั้น จึงมีแนวคิดที่ยังไม่มีใครเคยทำ นั่นคือ นำเครื่องยนต์ขนาดเล็กของรถสกู๊ตเตอร์มาใส่ในยานพาหนะ 4 ล้อขนาดเล็กแทน ซึ่งจะทำให้รถมีราคาที่ไม่สูงเกินไป แต่สามารถใช้งานได้เหมือนรถยนต์


ส่วนเครื่องยนต์ของ Isetta รุ่นแรกถูกพัฒนามาจากเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่เรียกว่าสกู๊ตเตอร์ ติดตั้งอยู่ท้ายรถ มีความจุขนาด 236 ซีซี แบบ 2 สูบ แรงม้าสูงสุด 9.5 แรงม้า (7.1 กิโลวัตต์) ทำความเร็วสูงสุดได้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร

คุณอัพ เจ้าของ BMW  E36 M3 เปิดเผยว่ากว่าที่จะได้รถคันนี้มาได้ เป็นรถที่ผมปั้นมาเองกับมือทุกอย่าง และได้แรงบันดาลใจมาจากพ่อ โดยพ่อใช้รถนี้ แต่ว่าเป็น 4 ประตู ด้วยความที่เราชอบรถสปอร์ต เลยขอเป็น 2 ประตู จึงไปหาดูแล้วได้มาอีกคันหนึ่ง เป็นคันนี้ ซึ่งก็ขับอยู่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนใหญ่ขับได้แค่อาทิตย์ละครั้ง เพราะต้องทำงาน จึงไม่มีเวลาขับ แต่ถ้ามีเวลาเมื่อไรขับตลอดแน่นอน ยิ่งอากาศช่วงนี้ดีๆ ต้องเอามาซิ่ง


“ไกลสุดที่ขับเจ้าคันนี้ไปน่าจะนครนายก ห่างจากกรุงเทพฯ 100 กว่าโล เพราะกลัวพัง ถนนที่ประทับใจนี่จะยากหน่อย แต่เห็นเขาบอกกันว่าสุพรรณบุรี กรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี เขาว่าเป็นถนนที่ดี แล้วก็ไม่ไกลด้วย แต่ต่อไปน่าจะเป็นบุรีรัมย์มีอะไรที่สนุกๆ เพิ่มเข้ามา”


“ชิ้นส่วนที่ผมชอบที่สุด ที่ซื้อรถคันนี้เพราะว่า “ล้อ” ที่ชอบมากเพราะดูเป็นผู้ใหญ่ ดูดุดัน สุขุม ไม่เยอะไป ไม่น้อยไปครับ อย่างอื่นก็ชอบ แต่ส่วนใหญ่ชอบล้อมากที่สุด”


“ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมงาน ปีที่แล้วพลาดมากที่ไม่ได้มา เนื่องจากไม่ว่าง ติดงาน ส่วนความประทับใจในงานนี้ ได้เห็นกลุ่มต่างๆ แล้วเราอยากมาร่วมงาน มาดูแนวทางการแต่งรถของคนอื่น ซึ่งแต่ละคันก็มีความสวยแตกต่างกันไป”

คุณกฤติน พร้อมพงษ์ศรี หรือ แบงก์ ตำแหน่ง BMW Genius @ BMW Performance Motors เจ้าของรถยนต์ BMW 420i convertible  (F33) กล่าวว่า คันนี้มีจุดเด่น เรื่องเปิดประทุน แล้วก็สี ในแง่ของคนเล่น BIMMER ชอบ และยังแนะนำเส้นทางที่โปรดปราน โดยชอบเส้นทางที่เขาใหญ่ แต่ถ้าขับปกติ ใน กทม. ฟ้ามืดหน่อย ผมเปิดตลอด ตัวรถคันนี้ที่ชอบเป็นพิเศษ คือ ท้ายรถ ไฟท้าย จริงๆ ชอบรหัส M3 F33 สำหรับคันนี้ สปีดได้สูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สำหรับผม ผมเคยใช้อยู่ที่ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประมาณนี้


เสน่ห์ของรถ BMW กับผมผูกพันธ์กันมานาน ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อก็ใช้มา E30 รถคันแรกของผมก็เป็น E46 แล้วก็มาใช้ซีรีส์ 3 จนตอนนี้จะขึ้นเป็นซีรีส์ 4 คงใช้อีกต่อไปยาวๆ เรื่องของสมรรณะ BMW นี่คือขับสนุกมากๆ ไม่ว่าซีรีส์ไหนก็ตาม เขาก็มีเอกลักษณ์ของคันเร่ง ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ผมชอบที่สุด เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมงาน BIMMERMEET แต่ปกติก็ไปคอมมูนิตี้ ต่างๆ


สำหรับความประทับใจในงาน BIMMERMEET ครั้งนี้ คือผมได้เห็นรถที่หายากมากๆ ที่ในชีวิตประจำวันไม่มีทางได้เจอเลย เช่น BMW 3.0CSL ที่เป็นตัวแรก ตัวนั้นผมรักมาก รถ BMW นอกจากมีเอกลักษณ์แล้ว และมีความปลอดภัยสูงมาก อยากแนะนำในส่วนนี้ให้คนที่กำลังเข้ามาใช้ BMW เพราะเมื่อเราขับจะรู้สึกว่ารถเป็นส่วนเดียวกับร่างกายของเรา ถ้าเรามีทักษะการขับรถสักนิดหนึ่ง เราจะกลายเป็นเหมือนคนที่ขับรถเก่งมาก จริงๆ ครับ

คุณโอม หนึ่งในผู้ที่หลงใหลรถยนต์ BMW ได้เล่าเรื่องราวรถยนต์ E36 M3คันนี้ที่ตนได้มาว่า รถคันนี้เป็นคันแรก ที่ได้มาตอนเข้ามหา’ลัย ได้เปลี่ยนเครื่องยนต์มาเรื่อยๆ ตอนนี้อยู่ EC6 S54 เอามาลง E36 ตัวนี้ สิ่งที่ชอบใน BMW คือ สังคม ได้เจอเพื่อนๆ มีความสัมพันธ์ที่ดี เรื่องสมรรถนะขับมาหลายรุ่น BMW คือ เป็นรถที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ขับสนุก ขับสบาย และถ้าให้เลือกระหว่าง Modern กับ Classic ผมชอบหมดเลย ตัวนี้ที่ผมชอบมากที่สุด คือ ท้ายรถ ชอบดิฟฟิวเซอร์เป็นพิเศษ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมงาน BimmerMeet ทุกอย่างดีหมดเลย อากาศก็ดี บรรยากาศก็ดี สามคำอยากนิยามให้กับงานนี้ “มันคูลมาก”