“พีทีจี เอ็นเนอยี” ก้าวสู่ปีที่ 31 จากรากฐานธุรกิจน้ำมัน สู่การต่อยอดธุรกิจ non-oil พร้อมเป็นสถานีบริการที่ 1 ในในคนไทย ตั้งเป้าจำนวนสถานีบริการ และจุดให้บริการต่าง ๆ2,700 แห่งในปี 61 ตั้ง EBITDA โต 40-45%
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ในปี 2561 จะเป็นปีที่ครบรอบ 30 ปี และก้าวขึ้นสู่ปีที่ 31 ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯยังคงเดินหน้าในการขยาย และต่อยอดธุรกิจ non-oil จากรากฐานธุรกิจน้ำมันอยากต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการเป็นสถานีบริการน้ำมันอันดับ 1 ในใจคนไทย เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศได้รับสินค้า และบริการที่มีคุณภาพ และได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสถานีบริการน้ำมัน และจุดให้บริการต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้ารวมกว่า 2,700 จุด แบ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันที่มากที่สุดในประเทศไทยด้วยจำนวนมากกว่า 2,000 สถานี และจุดให้บริการอื่น ๆ เช่น ร้าน MAX MART, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, Coffee World, Autobacs, สถานีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง PT Maxnitron, Max Camp และ Pro Truck รวมอีกกว่า 700 จุด ด้วยเป้าจำนวนสมาชิกบัตร max card จำนวน 9.6 ล้านสมาชิก
ในขณะเดียวบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายปริมาณการจำหน่ายน้ำมันให้เพิ่มขึ้น 20-25% จากปีก่อน ในขณะที่EBITDA ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ระดับ 40-45% จากปีก่อน รวมถึงบริษัทฯจะยังคงบริหารต้นทุนสินค้าให้ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด และควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตามนโยบาย ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้างบลงทุนที่ 4,000-5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจหลัก 3,000-3,300 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500-700 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 500-1,000 ล้านบาท เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มขององค์กรในระยะยาว
“ในโอกาสที่ PTG ครบ 3 ทศวรรษ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตจากการสร้างรากฐานในธุรกิจน้ำมัน สู่การต่อยอด และเติบโตในธุรกิจ non-oil อย่างมั่นคง รวมถึงสร้างสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า ผ่านเครือข่ายพันธมิตร ผ่านบัตรสมาชิก PT Max Card ที่มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมองหาการเติบโตผ่านธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งมั่นที่จะเป็นที่ 1 ในใจคนไทยทั่วประเทศให้ได้ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างความมั่นคง และเติบโตให้กับองค์กร และก้าวขึ้นสู่ปีที่ 31 อย่างมั่นคง และยั่งยืน” นายพิทักษ์กล่าว
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทฯประจำปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่913 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 84,625 ล้านบาท