มร. อัลฟอนโซ อัลบายซ่า รองประธานอาวุโส ส่วนงานออกแบบทั่วโลก บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด เยี่ยมเยียนประเทศไทย และได้รับเกียรติเป็นผู้บรรยายให้นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้หัวข้อ “การออกแบบยานยนต์สมัยใหม่และเทรนด์แห่งอนาคต” (Modern automotive design and future trends) โดยการบรรยายในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของรากฐานการออกแบบ (Roots of Design) ซึ่งเป็นโครงการระดับโลก นำโดยมร. อัลบายซ่า มุ่งให้ความรู้และสนับสนุนให้นักเรียนทั่วโลกสานต่ออาชีพในด้านการออกแบบและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์
มร. อัลบายซ่าขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของแบรนด์นิสสัน อินฟินิตี และดัทสันในเดือนเมษายนปีที่แล้ว และเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนางานออกแบบรถยนต์นิสสันมากมาย ซึ่งรวมถึงรถยนต์นิสสัน ลีฟเจเนอเรชั่นที่สอง รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายดีที่สุดในโลก
ภายใต้การนำของ มร. อัลบายซ่า สมาชิกของทีมฝ่ายออกแบบทั่วโลกเดินหน้าพัฒนาเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ที่สร้างเสริมเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) เพื่อลูกค้าทั่วโลก เขาดูแลงานดีไซน์พื้นฐานของในสตูดิโอออกแบบของนิสสัน (Nissan Design Studio) ทุกแห่งทั่วโลก เพื่อทำให้แน่ใจว่างานออกแบบของนิสสันมีความเหมาะสมกับแต่ละตลาดที่แตกต่างกัน
มร. อัลบายซ่ากล่าวกับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์เกือบ 100 คน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 104 ปีว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการออกแบบและวิศวกรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกจากกันได้
“อนาคตของเทคโนโลยีและการออกแบบขึ้นอยู่กับการพัฒนาศักยภาพของวิศวกรและนักออกแบบในอนาคต นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตั้งใจที่จะพูดคุยกับนักเรียนนักศึกษาทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่านักออกแบบในอนาคตมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นต่อๆ ไป รวมทั้งเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่จะทำให้ผู้คนเข้าถึงสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจและมีประโยชน์” มร. อัลบายซ่า กล่าว
การออกแบบรถยนต์
มร .อัลบายซ่ากล่าวถึงคำถามพื้นฐานที่เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของการออกแบบรถยนต์ว่าส่วนที่สำคัญที่สุดอยู่บริเวณที่เหยียบคันเร่ง
เมื่อรถไม่จำเป็นต้องมีเครื่องยนต์ เพลาขับ พวงมาลัยอีกต่อไป รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในอนาคตจะมีน้ำหนักเบาลงและมีพื้นที่ให้นักออกแบบสามารถเล่นได้มากขึ้น รถจะมีห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น นำเสนอสัดส่วนที่คำนึงถึงผู้ใช้งาน และมอบความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยการเน้นโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและการเชื่อมต่อที่ครบครัน
เอกลักษณ์การออกแบบของนิสสัน
เอกลักษณ์การออกแบบใหม่ของนิสสันแสดงถึงความทรงพลังและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย มร. อัลบายซ่ากล่าวว่านักออกแบบควรออกแบบรถยนต์ที่มีความอบอุ่นและมีชีวิตชีวาให้แก่สังคม โดยนิสสันมุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของและใช้งานได้
เอกลักษณ์การออกแบบใหม่ของนิสสัน ประกอบไปด้วยไฮไลท์ต่างๆ ได้แก่ กระจังหน้าแบบ V-motion ไฟหน้าทรงบูมเมอแรง หลังคาแบบ “floating roof” ที่ดูลอยตัวด้วย A Pillar และ C Pillar สีดำ เส้นสายโฉบเฉี่ยวด้านข้างด้านหลังโดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบบูมเมอแรง สัญลักษณ์ของแบรนด์ ส่วนภายในห้องโดยสาร สะดุดตาด้วยแผงคอนโซลรูปแบบ Gliding Wing
การออกแบบนิสสัน จีที-อาร์ มีส่วนประกอบของเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่แบนราบ วัสดุไม้ในห้องโดยสาร และจอแสดงผลขนาดกว้าง
แม้รถยนต์นิสสัน ลีฟเจเนอเรชั่นแรกจะไม่ได้รับการออกแบบภายใต้เอกลักษณ์การออกแบบใหม่ของนิสสัน แต่รถยนต์นิสสัน ลีฟ เจเนอเรชั่นที่สอง ถือเป็นรถยนต์รุ่นหลักและเป็นตัวแทนเอกลักษณ์การออกแบบของนิสสันอย่างแท้จริง โดยมาพร้อมเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ใหม่ล่าสุด
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2559 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.63 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันมีพนักงานทั่วโลกจำนวน 247,500 คน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้พันธมิตร เรโนลต์ – นิสสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และในปี พ.ศ. 2559 นิสสันได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิ จนได้เข้าร่วมพันธมิตรเป็นสมาชิกรายที่สาม ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันสูงระดับ 10 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขนส่งเพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง nissan-global.com Facebook, Instagram, Twitter and LinkedInพร้อมรับชมวีดีโอล่าสุดได้ที่ YouTube