บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ผลิตคอนเทนต์คุณภาพแถวหน้าของเมืองไทย เจ้าของรายการวาไรตี้เกมโชว์ยอดนิยมที่ออกอากาศทางช่อง 7 สี และสามารถสร้างปรากฏการณ์ครองเรตติ้งสูงสุดมาแล้ว สำหรับ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้จะรู้ว่า ตอนนี้ได้แตกออกมาเป็น 2 รายการ ที่ชื่อว่า “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” และ “กิ๊กดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รติวัลคุ์ ธนาธรรมโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า “ในปีที่ผ่านมาธุรกิจโทรทัศน์มีความเปลี่ยนแปลงสูงมาก บริษัทฯ มีการปรับปรุงรูปแบบรายการเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป เรียกว่าปรับตัวรอบด้านเกือบจะ 360° แต่หากดูจากผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ส่วนใหญ่ ก็ยังเห็นว่าการเผยแพร่รายการทางโทรทัศน์ยังคงตอบโจทย์ผู้ชมได้ดี โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ยังมีกลุ่มผู้ชมที่เหนียวแน่น ถึงแม้จะมีบางกลุ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปเสพสื่อออนไลน์ ดังนั้นเราจึงมีกลยุทธ์ในการเผยแพร่คอนเทนต์ทุกทิศทาง
รายการ กิ๊กดู๋ฯ ที่นับเป็น Product Hero ก็มีการปรับใหญ่ แยกออกเป็น 2 รายการ โดย วันอังคาร เวลา 22.40 น. คือช่วงเวลาของ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ที่เน้นให้ผู้เข้าแข่งขัน ร้องเพลงให้เหมือนศิลปินต้นฉบับประจำแต่ละสัปดาห์ให้มากที่สุด ไม่จำกัดเรื่องลีลา เสียงร้อง และการแต่งตัว โดยมีคณะกรรมการหรือเหล่าคอมเมนต์เตเตอร์ในวงการบันเทิงมาร่วมตัดสิน เอาใจกลุ่มผู้ชมที่ชอบดูรายการประกวดร้องเพลง ที่ลุ้นว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะงัดไม้เด็ดออกมาโชว์ให้เหมือนศิลปินต้นฉบับที่เขาสุดปลื้มขนาดไหน
ส่วนวันเสาร์ เวลา 15.45 น. จะเป็นรายการ “กิ๊กดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน” ที่ยังคงคอนเซ็ปต์การแข่งขันร้องเพลงของ 2 ชุมชน 2 จังหวัด เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท ไปช่วยเหลือพัฒนาชุมชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นที่ทำมาตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี โดยที่จังหวัดใดชนะคะแนนจากกรรมการ ก็ได้เข้ารอบไปลุ้นเงินล้าน แต่ล่าสุด ปรับใหม่ให้สนุกมีสีสัน โดยให้เหล่าดาราศิลปินมาร่วมสนุกและได้ร่วมทำบุญด้วยการดำน้ำเก็บเหรียญในตู้น้ำมหาสมบัติ ครบ 7 เหรียญเมื่อไหร่ล้านแตกทันที เรียกว่าแจกล้านง่ายๆ กันทุกสัปดาห์ และยังเปิดกว้างให้ผู้ชมแต่ละจังหวัด ได้มีส่วนร่วมเชียร์จังหวัดของตน ด้วยการเข้าไปกดไลค์ (like) กดแชร์ (share) คลิปของจังหวัดตนเอง หลังจบรายการ ถ้ามียอดไลค์และแชร์คลิปครบ 5,000 เมื่อไหร่ จังหวัดนั้นก็สามารถมีสิทธิ์กลับมาแข่งลุ้นเงินล้านกันได้อีก ถือเป็นการรวมพลังสามัคคีของคนในชุมชนในจังหวัดต่างๆ ให้ลุกขึ้นมารวมตัวกัน ส่งคนดี เยาวชนเด่นที่มีความสามารถด้านการร้องมาประชันกัน โดยใช้รูปแบบของรายการประกวดร้องเพลง ที่สอดแทรกวาไรตี้และความสนุกความบันเทิง มาเป็นสื่อเชื่อมโยงให้เกิดการแข่งขันที่สนุก และยังก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมอย่างแท้จริง
ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี กิ๊กดู๋ฯ แจกเงินรางวัลมาเป็นถึง 29 ล้าน เพื่อไปพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ อาทิ การสร้างศูนย์เด็กเล็ก พัฒนาโรงเรียน พัฒนาห้องสมุด จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องดนตรี ปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะ พัฒนาระบบประปา ปรับปรุงถนน พัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ฯลฯ”
ส่วนการขยายฐานผู้ชมไปยังสื่อออนไลน์ ล่าสุดบริษัทฯ ได้ก็มีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ อย่าง LINE TVเพิ่มช่องทางการรับชมใหม่ เพื่อขยายฐานคนดูในโลกดิจิทัล ให้แฟนๆ ที่หันไปใช้สื่อออนไลน์ ไม่พลาดกับความสนุกในรูปแบบของกิ๊กดู๋ฯ ทั้ง 2 รายการ แบบจัดเต็ม ด้วยการรับชมไลฟ์ (Live) ผ่านทาง Line TV และที่สำคัญยังสามารถรับชมย้อนหลัง แบบเอ็กซ์คลูซีฟ รีรัน ก่อนใครกันอีกด้วย” ต่อไปก็ต้องมาดูว่า การปรับใหญ่ของกิ๊กดู๋ฯ ครั้งนี้ จะส่งผลต่อเรตติ้งอย่างไรบ้าง และการขยายฐานใหม่ได้กระแสตอบรับดีแค่ไหน
ล่าสุด ซีอีโอ ยังเผยอีกว่า ตอนนี้ เจ เอส แอลฯ กำลังขยายคอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มของตัวเอง ทั้งเวบไซต์และแอพพลิเคชั่นอีกด้วย ล่าสุดเปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟ คอนเทนต์ ที่ร่วมกับ LINE TV ชื่อว่า “The Hidden Songs ร้อง เรื่อง ลับ” คาดว่าจะสามารถเปิดตัว ทั้งหมดได้ไม่เกินกลางปีนี้แน่นอน ส่วนละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ‘เล่ห์รักบุษบา’ ที่กำลังถ่ายทำ รอคิวออกอากาศ ทางช่อง 7 สี
ประวัติความเป็นมาของรายการกิ๊กดู๋
ภายหลังจากการปิดฉากของรายการ 07 โชว์ ที่ออกอากาศมายาวนานกว่า 23 ปี ซึ่งผลิตโดย บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ออกอากาศทางสถานีกองทัพบกช่อง 7 จากนั้นจึงเกิดรายการ ‘กิ๊กดู๋’ เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทวาไรตี้เกมโชว์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 15:45 – 17:30 น. ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยเทปแรกออกอากาศเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ผลิตโดย บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด และ บริษัท ทริปเปิ้ลทู จำกัด โดยมีจุดแข็งที่ 2 พิธีกรเจ้าของชื่อรายการ “กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ” และ “ดู๋-สัญญา คุณากร” ที่สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชม ด้วยความเป็นกันเองกับศิลปิน กรรมการ และผู้เข้าแข่งขัน ต่อมามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการใหม่ โดยใช้ชื่อรายการว่า “กิ๊กดู๋ สงครามเพลง” เป็นการแข่งขันร้องเพลงระหว่างชุมชน เพื่อหาผู้ชนะประจำสัปดาห์ และผู้ชนะเลิศประจำฤดูกาล จากนั้นก็หยุดพักการออกอากาศ ไป 1 เดือน เพื่อเตรียมรายการ ไปออกอากาศในวันอังคาร ถือเป็นการสิ้นสุดของรายการที่ออกอากาศช่วงบ่ายวันอาทิตย์มาอย่างยาวนานถึง 26 ปี ทั้งนี้รายการที่ออกอากาศทุกคืนวันอังคาร เป็นการแข่งขันร้องเพลงเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติม คือแจก 1 ล้านบาท สำหรับผู้ชนะเลิศประจำฤดูกาล ภายใต้ชื่อใหม่ว่า “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน”
ในช่วงปี พ.ศ. 2560 ได้มีการแยกรายการออกเป็น 2 รายการ เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน คือ ทุกคืนวันอังคาร เวลา 22.40 น. เป็นรายการ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ซึ่งเป็นการแข่งขันร้องเพลงหาเงาเสียงของศิลปินต้นฉบับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ส่วนการแข่งขันร้องเพลงระหว่างชุมชนเพื่อชิงเงินล้านไปพัฒนาชุมชน ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 15.45 น. แทนช่วงเวลาของ รายการ ‘สับขาหลอก’ เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560 ด้วยชื่อรายการเดิมคือ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน”
ล่าสุด “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ในการแจกเงิน 1 ล้านบาทให้แก่ชุมชน ทุกสัปดาห์ โดยเชิญเหล่าดาราศิลปินมาร่วมสนุกด้วยการดำน้ำเก็บเหรียญให้ครบ 7 เหรียญเพื่อพิชิตเงินล้าน ในชื่อใหม่ “กิ๊กดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน” โดยมีบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เป็นผู้ผลิตเจ้าเดียว ซึ่งเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน
ด้านรางวัลที่เคยได้รับ
รายการทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุด 2 ปีซ้อน จากงาน ‘มายา มหาชน 2016’ และ ‘มายา มหาชน 2017’
รางวัลวาไรตี้ยอดเยี่ยม รางวัลนาฏราช 2 ปีซ้อน (นาฏราชครั้งที่ 6 ปี 2559 และ ครั้งที่ 7 ปี 2560 )
รางวัลเกมโชว์ดีเด่น จากงาน โทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 31 ปี 2560
รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ด้านนันทนาการ ประจำปี พ.ศ. 2558 ประเภท รายการโทรทัศน์เพื่อนันทนาการดีเด่น จาก กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
รางวัล รายการโทรทัศน์ที่สุดแห่งปี 2013 จากงาน ‘ดาราเดลี่ เดอะ เกรท อวอร์ดส์’ ครั้งที่ 3 ปี 2557