วิทยาลัยดุสิตธานีเดินหน้าผลิตบุคลากรป้อนภาคอุตสาหกรรมบริการ ที่กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ เปิดการเรียนการสอนระดับปริญญาโท กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจบริการ มุ่งหวังสร้างคนคุณภาพเข้าสู่งานบริการที่ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม เผยรูปแบบการเรียนการสอนแบบไฮบริด ผสมผสานการเรียนแบบห้องเรียนและการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี เน้นเนื้อหาที่เข้มข้นจากอาจารย์ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงธุรกิจ เรียนจบเร็วภายใน 1 ปีครึ่ง ใช้เวลาเรียนเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน
ดร.สาโรจน์ พรประภา อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันผลิตบุคลากรคุณภาพให้กับวงการท่องเที่ยวและบริการอย่างต่อเนื่องและยาวนานเป็นเวลากว่า 24 ปี เปิดเผยว่า วิทยาลัยดุสิตธานีอยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ (Master of Business Administration : MBA) กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจการบริการ ซึ่งต้องยอมรับว่า ในปัจจุบันงานด้านบริการกำลังมีบทบาทอย่างมาก และเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้
“เราจะเห็นว่า แทบทุกอุตสาหกรรมมีเรื่องของงานบริการเข้ามาเกี่ยวข้องเกือบทั้งหมด ธุรกิจท่องเที่ยวก็เชื่อมโยงกับธุรกิจบริการหลายประเภท ขณะที่ในทุกๆ อุตสาหกรรมต่างก็มีการแข่งขันกันที่งานบริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งสำนักงานกฎหมาย ธนาคาร หรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น จะเห็นว่า หลักสูตรที่วิทยาลัยดุสิตธานีเปิดให้มีการเรียนการสอนนั้น จะครอบคลุมการจัดการธุรกิจการบริการทั้งหมด ซึ่งผู้เรียนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง และใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพในธุรกิจที่มีความหลากหลาย” ดร.สาโรจน์ กล่าว
สำหรับรายละเอียดการเรียนการสอนของกลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจการบริการ จะเน้นให้ความรู้เรื่องของการบริหารจัดการ เริ่มตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ ต่อเนื่องไปถึงการวางแผนการตลาด การบริหารงานบุคคล ตลอดจนการวิเคราะห์บัญชีและงบการเงิน ไปถึงการทำตลาดออนไลน์ และการแก้ปัญหาในภาวะวิกฤติ ซึ่งจะทำให้กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนครอบคลุมครบถ้วนรอบด้านมากขึ้น โดยจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ผู้เรียนสามารถเรียนจบได้เร็วภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปีครึ่ง โดยใช้เวลาเรียนสัปดาห์ละ 1 วันเท่านั้น ซึ่งการเรียนการสอนจะมีความเข้มข้นของเนื้อหาที่สอนโดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากแวดวงธุรกิจ และทันสมัยด้วยการเรียนการสอนแบบไฮบริด คือการผสมผสานการเรียนแบบห้องเรียนเข้ากับการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้กระบวนการเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุด
อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่ากลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจการบริการของวิทยาลัย จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากการเรียนการสอนจะเน้นไปที่ธุรกิจบริการ ที่ไม่ได้จำกัดแค่โรงแรมหรือร้านอาหารเท่านั้น แต่เน้นไปที่อุตสาหกรรมบริการทั้งหมด ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ธุรกิจบริการยังเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องการบุคลากรอีกมาก ซึ่งวิทยาลัยดุสิตธานีในฐานะสถาบันการศึกษาก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ในการผลิตบุคลากรคุณภาพที่มีความรู้ตรงกับความต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วิทยาลัยดุสิตธานี www.dtc.ac.th หรือwww.dusitmba.com โทรศัพท์ 0-2361-7811 ต่อ 602 หรือฮอตไลน์ 062-637-9340 หรือFacebook.com/dusitmba และไลน์ ไอดี : @dusitmba
ข้อมูลเกี่ยวกับวิทยาลัยดุสิตธานี
“วิทยาลัยดุสิตธานี” ยกระดับมาจาก “โรงเรียนการโรงแรมดุสิตธานี” ซึ่งถือกำเนิดขึ้นบนถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2536 โดยความตั้งใจของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ที่ต้องการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพเฉพาะทาง และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาธุรกิจโรงแรมและบริการ ให้รุดหน้าทัดเทียมนานาประเทศ อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติโดยรวม
วิทยาลัยดุสิตธานี เป็นวิทยาลัยที่ได้รับอนุมัติให้เปิดสอนในระดับปริญญาตรีเป็นแห่งแรกของประเทศไทย นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2539 เป็นต้นมา โดยปัจจุบันมีหลักสูตรปริญญาตรี 5 สาขาวิชา ได้แก่ การจัดการโรงแรมและรีสอร์ท, การจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร, การจัดการท่องเที่ยว, การจัดการสปา และการจัดการไมซ์และอิเว็นตส์ มีหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาตรี 2 สาขาวิชา คือศิลปะการประกอบอาหารและการจัดการภัตตาคาร การจัดการโรงแรมและรีสอร์ท และหลักสูตรระดับปริญญาโท MBA 2 กลุ่มวิชา คือ การจัดการธุรกิจบริการ ผู้ประกอบการและนวัตกรรม
ด้วยปรัชญาหลักในการมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการและการจัดการการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ทำให้วิทยาลัยดุสิตธานีเป็นสถานศึกษาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน THE-ICE(The International Centre of Excellence in Tourism and Hospitality Education) และ WACS (World Association of Chefs Societies) ซึ่งเป็นมาตรฐานการศึกษาชั้นสูงเทียบเท่าสถาบันชั้นนำที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก