คอนเทนต์ไทยเนื้อหอม ต่างชาติรุมติดต่อซื้อขายสร้างมูลค่ากว่า 405 ล้านบาท


ธุรกิจบันเทิงไทยมาแรง ต่างชาติรุมจีบ ติดต่อซื้อขาย ลงทุน ร่วมผลิต และจ้างผลิต มูลค่าการค้ากว่า 370 ล้านบาท หลังผนึกกำลังผู้ประกอบการ 23 บริษัท ขนทัพหนัง ทีวี แอนิเมชั่น และโพสโปรดักชั่นไทย เข้าร่วมเจรจาการค้างาน Hong Kong International Film & TV Market 2018 (FILMART) ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 19 – 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการบูรณาการจัดงานร่วมกันโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม และกรมการท่องเที่ยว


นายสนธิรัตน์สนธิจิรวงศ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เผยว่าระหว่างวันที่19 – 22 มีนาคมที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีภารกิจหลักในการจัดการเจรจาการค้าให้ผู้ประกอบการไทยจำนวน23 บริษัทได้มีโอกาสนัดหมายกับผู้ซื้อตัวจริงภายในงานHong Kong International Film & TV Market 2018 (FILMART) ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาดแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีมากต่างชาติให้การยอมรับในคอนเทนต์ไทยโดยเฉพาะในตลาดเอเชียถือได้ว่าไทยมาแรงมากทั้งด้านการผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชั่นรวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์การผลิตรายการและละครโทรทัศน์และการผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์สารคดีภายในงานเกิดการจับคู่เจรจาการค้ารวมจำนวนกว่า450 คู่ประมาณการมูลค่าเจรจาการค้ากว่า405 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ80


โดยมูลค่าการเจรจาการค้าจำนวน405 ล้านบาทเป็นผลสืบเนื่องมาจากกลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชั่นอาทิบริษัทฮอลลีวู้ด(ไทยแลนด์) จำกัดได้เจรจาการร่วมผลิตภาพยนตร์Co-Production กับบริษัทBraros Pictures ประเทศฮ่องกงซึ่งเป็นบริษัทที่มีเงินลงทุนอันดับต้นๆของฮ่องกงบริษัทจีดีเอชห้าห้าเก้าจำกัดได้พบผู้ค้าใหม่ในประเทศจีนซึ่งทำให้เกิดการเจรจาซื้อขายภาพยนตร์เรื่องใหม่อีกทั้งบริษัทภาพยนตร์ไทยอื่นๆได้พบกับDistributor จีนเป็นจำนวนมากและได้เปิดตลาดจีนในมณฑลใหม่ๆนอกเหนือจากที่เคยเจรจาการค้ามาแล้วส่วนกลุ่มบริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์อาทิบริษัทเบนีโทนฟิล์มส์จำกัดได้ร่วมเจรจาCo-Production กับประเทศจีน และกลุ่มผู้ผลิตรายการและละครโทรทัศน์ อาทิ บริษัท บีอีซี เวิล์ด จำกัด (มหาชน) ได้มาออกตลาดเป็นทางการครั้งแรกกับงาน Hong Kong International FIlm & TV Market ซึ่งได้เจอกับลูกค้ารายเดิม และมีความคืบหน้าในการเซ็นต์สัญญาในเทศกาลนี้ อีกทั้งยังได้เจอกับลูกค้ารายใหม่ๆในกลุ่มประเทศจีน โดยเฉพาะ มณฑลรอง เกาหลี ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นการเจรจาซื้อละครโทรทัศน์หลายๆเรื่อง รวมถึงตลาดออนไลน์ ที่กำลังจะมีกำลังซื้อต่อไป และกลุ่มผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีไทย อาทิ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้มีการเจรจาซื้อขายสิทธิ์ของสารคดี อีกทั้งยังได้ร่วมเจรจา Co-Production กับบริษัทA Co. ประเทศญี่ปุ่น