เซลสุกิ สตาร์ทอัพไทยเจ๋ง คว้ารางวัลเวทีระดับนานาชาติ Visa’s Everywhere Initiative Thailand 2018


“เซลสุกิ” สตาร์ทอัพโซลูชั่นบริหารจัดการร้านค้าบนโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ครบวงจรที่สุดรายแรกของไทย โดยนายเลอทัด ศุภดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซลสุกิ จำกัด เข้ารับรางวัลชนะเลิศพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท ในการแข่งขัน Visa’s Everywhere Initiative Thailand 2018 จาก นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย โดยเซลสุกิได้ใช้ APIs ของวีซ่า ในการสร้างโซลูชั่นการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลระดับโลก เพื่อส่งเสริมให้อีโคซิสเต็มของอีคอมเมิร์ซมีความครอบคลุมมากที่สุด


รางวัล Visa’s Everywhere Initiative จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 เพื่อเป็นเวทีในการสร้างสรรค์และพัฒนาความสามารถสำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพทั่วโลกในการสร้างโซลูชั่นการชำระเงินสำหรับผู้บริโภค โดยการแข่งขัน Visa Everywhere Initiative ได้จัดขึ้นที่ประเทศและภูมิภาคต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา โดยการแข่งขันระดับโลกในปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ “เซลสุกิ” นับเป็นบริษัทสตาร์ทอัพรายแรกของไทยที่ได้รับรางวัลนี้ จึงสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่กำลังก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคเต็มรูปแบบที่ได้นำเทคโนโลยีมาคิดค้นและพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้า ช่วยให้สามารถบริหารจัดการร้านค้าของตนเองบนโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์แอด (LINE@) และอินสตาแกรม รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ ครบวงจร และเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต


นายเลอทัด กล่าวว่า “ความท้าทายของธุรกิจออนไลน์ คือ ทำอย่างไรให้การชำระค่าสินค้าสำหรับผู้บริโภคสะดวกและปลอดภัย ขณะที่ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ก็ต้องมีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บริโภคและผู้ประกอบการในประเทศไทยยังไม่สามารถเข้าถึงระบบการชำระเงินที่ได้มาตรฐาน และยังมีผู้ซื้อสินค้าออนไลน์จำนวนหนึ่งที่ไม่มีบัตรเครดิตซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักในการชำระเงินออนไลน์ ผู้บริโภคเหล่านี้จึงเลือกวิธีชำระเงินผ่านการโอนเงินทางธนาคาร “เซลสุกิ” จึงได้พัฒนาโซลูชั่นที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการออนไลน์สามารถรับชำระค่าสินค้าออนไลน์ผ่านการโอนเงินได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับระบบการบริหารร้านค้าในส่วนอื่นได้ทันทีและครบครันที่สุด จากสถิติพบว่าโซลูชั่นของบริษัทฯ ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถบริหารงานหลังบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและมียอดขายเติบโตขึ้นถึง 5 เท่า นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถให้บริการลูกค้าได้ครบวงจร โดยเชื่อมต่อกับระบบโซเชียลมีเดีย หน้าร้าน เว็บไซต์ สต๊อกสินค้า ไปจนถึงระบบขนส่ง เป็นออมนิแชนแนล (Omni-channel) ผสานทุกช่องทางได้อย่างแท้จริง ขณะนี้ เซลสุกิเป็นบริษัทแห่งเดียวที่มีโซลูชั่นการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจรที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย จึงอาจเป็นเหตุผลที่บริษัทวีซ่าฯ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เล็งเห็นว่าเราสามารถช่วยแก้ปัญหาของผู้ประกอบการออนไลน์ได้อย่างแท้จริง เพราะความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ไม่ได้อยู่ที่การรับชำระเงินเพียงอย่างเดียว”


ปัจจุบัน “เซลสุกิ” มีพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ที่ใช้ระบบของบริษัทมากถึง 1,000 ร้านค้า รองรับมูลค่าการจำหนายสินค้าผ่านระบบออนไลน์กว่า 300 ล้านบาทต่อเดือน โดยมีโซลูชั่นและบริการที่หลากหลายกว่า 10 ประเภท เพื่อ รองรับทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ Sellsuki Engine – ระบบจัดการออเดอร์ การชำระเงิน และการขนส่ง Sellsuki Social – ระบบการบริหารบทสนทนาจากเฟซบุ๊ก และไลน์แอด Sellsuki POS – ระบบแคชเชียร์สำหรับหน้าร้าน Sellsuki Dealer Management ระบบบริหารตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น และยังมีบริการคลังสินค้าสำหรับจัดเก็บและขนส่งสินค้าในนาม Akita Warehouse รวมถึงให้บริการออกแบบ สร้างเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นสำหรับการจำหน่ายสินค้าออนไลน์อีกด้วย


ผู้ประกอบการที่อยากเติบโตไปพร้อมๆ กับเซลสุกิ สามารถดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sellsuki.co.th และ เฟซบุ๊ก Sellsuki