เจ้าพ่อคิง เพาเวอร์ ชู “ตึกมหานคร” ศูนย์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก

กลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ วางเป้าหมายในอนาคต หลังประกาศ ทุ่ม 14,000 ล้านบาท ในการซื้อโครงการมหานครในส่วนของโรงแรม, จุดชมวิว Observation Deck และอาคารรีเทลมหานครคิวบ์ จากบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ต้องการต่อยอดธุรกิจ และพัฒนาให้เป็นโครงการไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยถึงการตัดสินใจเดินหน้าต่อยอดธุรกิจในครั้งนี้มาจาก

1. เนื่องจากทรัพย์สินต่างๆ ที่ซื้อมานั้นสอดคล้องกับธุรกิจที่กลุ่มคิง เพาเวอร์ได้ดําเนินการอยู่

2. ยังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทยมีศักยภาพ และมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองส่วนป็นปัจจัยสําคัญสนับสนุนให้กล้าตัดสินใจทุ่มงบประมาณ 14,000 ล้านบาท มั่นใจว่าจะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น

ทรัพย์สินที่ คิง เพาเวอร์ ได้เข้าถือครองทรัพย์สินในตึกมหานคร ประกอบไปด้วย โรงแรมแบงค็อก เอดิชั่น, จุดชมวิว Observation Deck หรือจุดชมทัศนียภาพ ชั้น 74-77, อาคารรีเทลมหานครคิวบ์, ที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมร้านค้าปลีกบริเวณพื้นที่รีเทล 4 ชั้น รวมถึง ดีน แอนด์ เดลูก้า สาขาแรกในไทย

พร้อมเปลี่ยนชื่อตึกมหานคร เป็นคิง เพาเวอร์ มหานคร

เป้าหมายสําคัญในการพัฒนาทรัพย์สินดังกล่าวในครั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงพร้อมที่จะรองรับการเติบโตของประชาคมอาเซียนในอนาคต

จุดแข็งของทรัพย์สินที่ได้มา ตึกมหานครเป็นหนึ่งในอาคารที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร เชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งมีศักยภาพสูงที่จะพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้บริการ

จุดชมวิว Observation Deck ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในประเทศไทยที่เห็นวิว 360 องศาทั้งวิวเมืองและโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา มีโรงแรมระดับ 5 ดาว และร้านอาหารที่มีชื่อเสียงจากทั้งในและนอกประเทศ พร้อมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สําคัญของกรุงเทพมหานครต่อไป

โดยที่ คิง เพาเวอร์ มีแผนจะขยายร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ในเมืองเพิ่มอีกแห่งในตึกมหานครด้วย

อัยยวัฒน์ บอก ด้วยการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการเดินหน้าเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นยุทธศาสตร์สําคัญทางเศรษฐกิจ การค้า และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่สําคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกต่อไป.