TNR รุกซื้อสิทธิ์ตราสินค้า PLAYBOY สำหรับถุงยางอนามัยทั่วโลก ขึ้นชั้นผู้ผลิตระดับเวิลด์คลาส หนุนยอดขายปี 2561 เติบโตก้าวกระโดด


บมจ. ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ (“บริษัทฯ”) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ONETOUCH(TM) และ Niptex(TM) รุกขยายธุรกิจครั้งใหญ่ หลังคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติเข้าทำรายการซื้อสิทธิ์การขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ทั่วโลก ต่อจาก United Medical Devices หรือ UMD ที่ได้รับใบอนุญาตจาก Playboy Enterprises International, Inc. (“Playboy”) ประเทศสหรัฐฯ ด้วยงบลงทุน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมรับสิทธิในการขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ใน 188 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน UMD ทำการตลาดอยู่แล้วใน 34 ประเทศ คาดในปีแรกบริษัทฯ จะมีรายได้จากการผลิตและจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นจากการได้ใบอนุญาตดังกล่าว และสามารถเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายถุงยางอนามัย ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ หนุนยอดขายปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนร่วมมือคู่ค้าแต่ละประเทศพัฒนาตลาดเพิ่มยอดขาย


นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ONETOUCH(TM) และ Niptex(TM) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการซื้อสิทธิ์การขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ต่อจาก United Medical Devices หรือ UMD ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์คือ Playboy Enterprises International, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยว่าจ้าง BakerMckenzie เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการเข้าทำสัญญา ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ ได้สิทธิ์ในการขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ทั่วโลกเป็นระยะเวลา 10 ปี และต่อสัญญาอัตโนมัติทุก ๆ ปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามสัญญา จากเดิมที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยแบรนด์ PLAYBOY และเป็นตัวแทนจำหน่ายของ UMD ในประเทศไทย


การเข้าซื้อสิทธิ์สัญญาช่วงต่อจาก UMD ที่ได้รับใบอนุญาตจาก Playboy ครั้งนี้ บริษัทฯ จะได้รับสิทธิในการขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ใน 188 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน UMD ทำการตลาดอยู่แล้ว 34 ประเทศ โดยจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 471 ล้านบาท จากการศึกษาภายในของบริษัทฯ พบว่าการเข้าซื้อสิทธิ์ดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี จากการประเมินอัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุน (Internal Rate of Return หรือ IRR) ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 (คำนวณจากฐานลูกค้า 34 ประเทศที่ UMD ทำการตลาดในปัจจุบัน) ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมยอดขายของบริษัทฯ โดยคาดการณ์ว่ายอดขายปี 2561 จะเติบโตร้อยละ 30 จากปีก่อนซึ่งมียอดขายรวม 1,294 ล้านบาท


ทางบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ให้กับลูกค้าของ UMD มาเป็นเวลานาน รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายถุงยางอนามัยแบรนด์ PLAYBOY ในประเทศไทย ทางบริษัทฯ จึงมองเห็นการเติบโตและโอกาสในการขยายตลาดในระดับโลก จึงได้เข้าเจรจากับทาง UMD เพื่อเข้าซื้อสิทธิ์ในสัญญา และเข้าเจรจากับทาง Playboy Enterprises International, Inc. ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งทาง Playboy ได้ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นกับทางบริษัทฯ ทั้งในด้านคุณภาพการผลิตและการตลาด จึงได้ตัดสินใจให้ความยินยอมในการโอนสิทธิ์นี้กับทางบริษัทฯ โดยการตัดสินใจลงทุนครั้งนี้จะทำให้ TNR มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นหลังจากได้แบรนด์ PLAYBOY เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีแบรนด์สินค้าของตนเองคือ ONETOUCH(TM) และ Niptex(TM) โดย PLAYBOY นับว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตลาดต่างประเทศและทำให้บริษัทฯ มียอดขายจากสินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ของตนเองเพิ่มขึ้น” นายอมร กล่าว


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TNR กล่าวว่า แผนการตลาดนับจากนี้ได้วางตำแหน่งแบรนด์ PLAYBOY ในต่างประเทศเป็นสินค้าระดับบน แบรนด์ ONETOUCH(TM) เป็นสินค้าระดับกลางบน และแบรนด์ Niptex(TM) เป็นสินค้าระดับกลางซึ่งปัจจุบันวางจำหน่ายในประเทศเวียดนาม จากแผนดังกล่าว จะทำให้บริษัทฯ มีสินค้าที่จับตลาดหลากหลายเซกเมนต์ โดยหลังจากทำสัญญาซื้อใบอนุญาตจาก UMD เป็นที่เรียบร้อย ได้วางแผนจัดทีมงานด้านการขายและการตลาดเข้าไปช่วยคู่ค้าในประเทศต่าง ๆ เปรียบเสมือนเป็นพาร์ทเนอร์ ให้การสนับสนุนด้านการตลาดและร่วมกันพัฒนาตลาดอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าในแต่ละประเทศ


ขณะเดียวกัน ได้วางแผนพัฒนาสินค้าใหม่ถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในต่างประเทศ รวมทั้งยังได้เตรียมแผนพัฒนาเพิ่มรายได้จากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ซึ่งมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก


รายละเอียด การได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 คณะกรรมการบรษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาซื้อขายสิทธิกับ United Medical Devices, LLC (“UMD”) (“สัญญาซื้อขายสิทธิ“) ในการ (1) รับโอนสิทธิและหน้าที่ของ UMD ภายใต้สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Product License Agreement) ระหว่าง UMD และ Playboy Enterprises International, Inc. (“Playboy”) ในการขายและการทำการตลาดถุงยางและเจลหล่อลื่นภายใต้เครื่องหมายการค้า PLAYBOY ใน 188 ประเทศทั่วโลก และ (2) เข้าสวมสิทธิแทนที่ UMD ภายใต้สัญญาการอนุญาตให้ใช้สิทธิช่วง (Sub-license Agreement) ซึ่งทำขึ้นระหว่าง UMD ในฐานะผู้ให้สิทธิช่วงกับผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าในแต่ละประเทศ (รวมทั้งสิ้นประมาณ 34 ประเทศ) ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิ โดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 470,982,000 บาท