ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสของธุรกิจร้านคาเฟ่และขนมหวานอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านไอศกรีมแบรนด์ใหม่ๆ มีร้านบิงซูเกิดขึ้น มีร้านอาฟเตอร์ยูที่ปลุกคนกินขนมหวานให้คึกคัก ร้านชา ร้านอาหารต่างๆ ที่ทนกระแสไม่ไหว ต้องแตกไลน์มี “ขนมหวาน” ประเภทใหม่ๆ จำหน่ายภายในร้าน
อีกแบรนด์ที่ไม่ยอมตกขบวนตลาดขนมหวาน คือ “เอ็มเค เรสโตรองต์” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า 34 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจหลักของเอ็มเค คือร้านสุกี้ เน้นขายอาหารคาวมากกว่าหวาน แต่จะให้กินคาว ไม่กินหวานได้อย่างไร ซึ่งในร้านอาหารมีขนมหวานล้างปากปิดท้ายแล้ว เพื่อเติมเต็มพอร์ตและอินเทรนด์ ค่ายเอ็มเคก็ปั้นร้านคาเฟ่ขนมหวาน “MK HARVEST” เข้าทำตลาดอย่างเป็นทางการช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประเดิมสาขาแรกที่ “เอ็มควอเทียร์”
ของหวานกับการรักสุขภาพ ดูเหมือนจะไปด้วยกันไม่ได้ แต่ MK HARVEST ก็นำความย้อนแย้งมาเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านจุดขาย ตั้งแต่เมนูขนมหวานเน้นไปที่ “ออร์แกนิก” การตกแต่งเป็นโทนสีเขียว สอดคล้องกับพัฒนาการของแบรนด์ ที่ผุดร้าน “MK LIVE” ที่เอ็มควอเทียร์เป๊ะๆ ที่เป็นร้านสุกี้เอาใจผู้บริโภคสายเฮลท์ตี้ เพราะเมนูที่ขายภายในร้าน เช่น ผักต่างๆ ล้วนเป็นผักออร์แกนิกทั้งสิ้น และการตกแต่งร้านก็เป็นสีเขียว แถมมีผักออร์แกนิกมาตั้งให้เห็นกันจะจะด้วย และนั่นทำให้ผู้บริโภคที่กิน MK LIVE เสร็จ สามารถไปกินขนมหวานต่อที่ร้าน MK HARVEST ได้เลย
เพราะเมนูคือ “หัวใจ” สำคัญ นอกจากการชูจุดขายออร์แกนิกแล้ว ลุยตลาดขนมหวานทั้งทีจึงจัดเต็มเครื่องดื่มและขนมหวานที่หลากหลายรายการ ทั้งกาแฟ ชา น้ำผลไม้ พาร์เฟต์ (Parfait) และไอศกรีม โดยขนมหวานก็มีให้เลือกทั้งไทยและเทศผสมกันเช่น วาฟเฟิล พาร์เฟต์ชาไทยพุดดิ้ง พาร์เฟต์ทับทิมกรอบ มีเมนูซิกเนจอร์อย่าง “แมงโก้ แพสชั่น บั๊บเบิ้ล วาฟเฟิล” นำของดีในประเทศอย่างมะม่วงมาดึงดูดสาวกขนมหวาน
ขณะที่การตั้งราคาถือว่าอิงมาตรฐานตลาด ออกสตาร์ทตั้งแต่ 60-70 บาท และสูงถึง 185 บาท เรียกว่าไม่ต่างจากราคาขนมหวานของเมนูขึ้นชื่อในร้านอาฟเตอร์ยู ร้านบิงซูต่างๆ
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายของร้านขนมหวาน แน่นอนว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เพราะยุคนี้การบริโภคบรรดาของหวานตามคาเฟ่ไม่แค่เก็บเกี่ยวความอร่อย แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชิคๆ เก๋ๆ เพราะเมนูอาหารที่มาพร้อมความสวยทำให้แชะรูปแล้วแชร์ เพื่ออวด Status ของผู้บริโภคได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม “MK HARVEST” ไม่ใช่ร้านคาเฟ่แบรนด์แรกของเอ็มเค กรุ๊ป เพราะหากนับแบรนด์พอร์ตโฟลิโอของบริษัท ยังมีแบรนด์ “เลอ เพอทิท” ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่ทำตลาดอยู่เงียบๆ มานาน 6 ปีแล้ว และมีสาขาเพียง 3 แห่งเท่านั้น
แต่บทบาทของ “เลอ เพอทิท” เป็นแบรนด์ที่ใช้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) เพราะกำไรหลังหักค่าใช้จ่าย บริษัทจะบริจาคให้กับโรงพยาบาลศิริราชทั้งหมด
สำหรับภาพรวมตลาดคาเฟ่ขนมหวาน ตลอดจนเบเกอรี่และไอศกรีมในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 35,700 ล้านบาท แบ่งเป็นคาเฟ่ 20,000 ล้านบาท เบเกอรี่ 8,000 ล้านบาท และไอศกรีม 7,700 ล้านบาท เรียกว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่ดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่และขาใหญ่อย่าง “เอ็มเค” ได้อย่างดี
อย่างไรก็ตาม หากนับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในตลาดดังกล่าว ที่ MK HARVEST ต้องชนทั้งทางตรงและทางอ้อม มีมากมายทั้งร้านที่เป็นเครือข่าย (เชน) และร้านอิสระ ซึ่งจากข้อมูลของผู้ประกอบการร้านคาฟ่ขนมหวานระบุว่า “ร้านอิสระ” ครองสัดส่วนตลาดกว่า 96% ส่วนเชนหรือร้านใหญ่มีสัดส่วน 4% และแบรนดังที่รู้จักกันดีได้แก่ อาฟเตอร์ยู, คอฟฟี่ เวิลด์ ของกลุ่มพีทีจี, ฟาร์มดีไซน์ ของค่ายสิงห์, ไอเบอร์รี่, เกียวโรลเอ็น เป็นต้น.
ขอบคุณภาพ MK HARVEST จาก : https://www.friendtellpro.com/mk-havest-emquartier/
