90 ล้านคู่สมรสจีน เล็งตลาดท่องเที่ยวไทย สะพัด 5 แสนล้าน


ททท หนุนเต็มที่ คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า ห้าแสนล้านบาท ดร. เหว่ย เซียง ยู กลุ่มบริษัท บอร์เดอร์เลส เฮลธ์แคร์ จากจีน เปิดกว้างรับพันธมิตรไทย จับมือบุกตลาดท่องเที่ยวเพื่อการมีบุตร ชูโครงการ “ฮันนีมูน รอบ 2” รับนโยบายรัฐบาลจีน ที่ส่งเสริมให้มีบุตรคนที่ 2 ของคู่สมรสชาวจีน 90 ล้านคู่ เน้นกลุ่มที่มีรายได้สูง


บอร์เดอร์เลส เฮลธ์แคร์ ปักธงเล็งปั้นไทยเป็นฐานของศูนย์กลางของการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มผู้มีบุตรยากชาวจีน (Fertility Wellness Tourism) พร้อมขนเทคโนโลยีคอนเวอร์เจนซ์ ยกระดับไทยสู่จุดยืนใหม่ – ศูนย์กลางการบริการด้านการทำผสมเทียมที่ดีที่สุดในโลก


ตลาดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มีตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในปีที่ผ่านมา มีสถิติมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 8.8 ล้านคน นับเป็นสถิติเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาทั้งหมด และยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมายที่ทอปฮิต ของชาวจีน


ตลาดท่องเที่ยวไทยและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กำลังมีการขยับตัวครั้งสำคัญ เมื่อรัฐบาลจีนยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวที่มีการดำเนินการมานานกว่า 40 ปี โดยสถิติคู่สมรสของจีนที่มีอายุระหว่าง 30 – 40 ปี ที่สามารถมีบุตรคนที่ 2 ได้ มีจำนวนสูงถึง 90 ล้านคู่ และเมื่อ ดร. เหว่ย เซียง ยู ผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานคณะ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท บอร์เดอร์เลส เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป (Borderless Healthcare Group of companies) ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั่วโลกในการเป็นผู้บุกเบิกด้าน TMT Healthcare ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินการให้บริการด้านสุขภาพแบบไร้พรมแดน จับมือบุคลากรวงการแพทย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย อาทิ ดร. สุรพงศ์ อำพันวงษ์ ที่ปรึกษาสมาคม โรงพยา บาลเอกชน, ดร. เฉลิม หาญพาณิชย์ และ คุณกันตพร หาญพาณิชย์ กลุม BCH ดร. วิทิต อรรถเวชกุล โรงพยาบาล ปิยะเวท ดร. ชาตรี แสงหิรัญวัฒนา Specialist in Advance Infertility Treatment & Endoscopic Surgery โรงพยาบาลปิยะเวท และ เชฟเอียน พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย เชฟกะทะเหล็กที่โด่งดังที่สุดในวงการอาหาร ได้ร่วมกันประกาศ “ความร่วมมือด้านนวัตกรรมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มผู้มีบุตรยากเพื่อตอบสนองนโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของรัฐบาล” (Fertility Wellness Tourism) ในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้เป็นแห่งแรกสำหรับคู่ฮันนีมูนจากโครงการลูกคนที่ 2 จากประเทศจีน พร้อมทั้ง วางเป้าหมายปักธงเล็งปั้นไทยพร้อมปั้นให้เป็น Hub ของศูนย์กลางของการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มผู้มีบุตรยากชาวจีน (Fertility Wellness Tourism) ยิ่งกว่านี้ ยังขนนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อวางจุดยืนใหม่ให้ไทยเป็น ศูนย์กลางการบริการด้านการทำผสมเทียมที่ดีที่สุดในโลก


เจาะตลาดจีน สร้างการรับรู้ด้วยกลยุทธการสื่อสารแบบคอนเวอร์เจ้นซ์ บน แพลตฟอร์มสมาร์ททีวี ที่เป็นแบบ Interactive สื่อสารโต้ตอบไร้พรมแดน พร้อม นวัตกรรม Baby smart เตรียมปล่อยEpisode 2 รายการเรียลลิตี้ แนวคิด “Fertility UFO Show” เผยแพร่ผ่าน พอร์ทัลที่เป็น วีดีโอ โฮสติ้ง ทั่วโลก


โอกาสทองมาถึง เมื่อ ดร. เหว่ย เซียง ยู เปิดกว้างรับพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการวงการแพทย์ด้านการเจริญพันธ์ ด้านการท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท ฟิตเนส สปา กูรูและโค้ชด้านสุขภาพ นักโภชนาการ ตลอดจน ผู้เชี่ยวชาญเพื่อสุขภาวะด้านปฏิสนธิ เพื่อรองรับการให้บริการอย่างครบวงจร พร้อมทั้งได้พัฒนาระบบรองรับการขยายตลาดด้วย กลยุทธการสื่อสารแบบคอนเวอร์เจ้นซ์ บน สมาร์ททีวี แพลตฟอร์ม ที่เป็นแบบ Interactive สื่อสารโต้ตอบได้แบบไร้พรมแดน เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการไทย สามารถทำธุรกรรมขยายตลาด สื่อสารสร้างการรับรู้เจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายคู่สมรสชาวจีน 90 ล้านคู่นี้ จากประเทศไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายในจีนโดยไม่ต้องเดินทาง นอกเหนือจาก การพัฒนาโปรแกรม Baby Smart ที่เผยแพร่บน Smart TV Platform ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อเนื่องสู่ Episode 2 ด้วยแนวคิด “Fertility UFO Show” นับว่า เป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการ มีการถ่ายทำโปรแกรมสุขภาวะเพื่อการเจริญพันธุ์ (Garmete Wellness Program) ในประเทศไทย ทั้งนี้ จะทำการเผยแพร่ผ่าน พอร์ทัลที่เป็นวีดีโอโฮสติ้งทั่วโลก เป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่กระหึ่มวงการท่องเที่ยวโลก


ภายใต้การท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มผู้มีบุตรยากเพื่อตอบสนองนโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ของรัฐบาล “Fertility Tourism” นี้ คู่ฮันนีมูนสามารถโต้ตอบโดยตรงกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่โด่งดัง สามารถปรึกษากับ เชฟชื่อดัง เพื่อการเรียนรู้เมนูโภชนาการเพื่อเตรียมการปฏิสนธิ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อระหว่างการตั้งครรภ์ จากแชมเปี้ยนด้านหมัดมวย (Kickboxing) วางแผนโปรแกรมการนวดบำบัดแบบเฉพาะบุคคล สำหรับขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ คอร์สเร่งรัดส่วนตัวสำหรับเมนูการสร้างพลังสเปิร์ม ฯลฯ โดยสามารถรับบริการข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ได้อย่างสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวภายในห้องพักในโรงแรม รีสอร์ท หรือ สถานที่อื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการเลือกสรร จากพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ยิ่งกว่านี้ ยังจัดให้มี โปรแกรมสุขภาวะเพื่อการเจริญพันธุ์ – Garmete Wellness Program เป็นโปรแกรมเสริมพิเศษ ใน ทริปฮันนีมูน สำหรับลูกค้าเป้าหมายที่มีอายุเกิน 40 ขึ้นไป อีกด้วย


ททท หนุนเต็มที่ สร้างมิติใหม่ของตลาดท่องเที่ยวแบบเจาะลึก มุ่งเป้าแค่ 10% หรือ 9–10 ล้านคู่ จะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 5 แสนล้านบาท


น.ส. ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มสารสนเทศการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) เปิดเผยว่า โครงการ “ฮันนีมูน รอบ 2 ของกลุ่มนักท่องเที่ยวคู่สมรสชาวจีนกว่า 90 ล้านคู่ที่ต้องการมีบุตรคนที่ 2” ตามนโยบายของรัฐบาลจีน เป็นการเน้นจับกลุ่มคู่สมรสที่มีรายได้สูงเป็นหลัก ทำให้สามารถสร้างมูลค่าตลาดให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของไทยได้อย่างมหาศาล ซึ่ง ททท ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ ด้วยความร่วมมือของ ดร. เหว่ย เซียง ยู กับกลุ่มเอกชนผู้ประกอบการไทย ที่มีการทำการตลาดสร้างประเทศไทยให้เป็นฐานและศูนย์กลาง มีการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบคอนเวอร์เจนซ์ เป็นกลยุทธทางการตลาดที่สำคัญ เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายในประเทศจีน ที่ปัจจุบันมีอยู่ถึง 90 ล้านคู่ ผ่านรายการ เรียลลิตี้ โชว์ โดยหากผู้ประกอบการไทย สามารถดึงกลุ่มเป้าหมายนี้เข้ามาร่วมโครงการ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาวะเพื่อการมีบุตร ให้เข้ามาได้เพียงแค่ 10% หรือ ประมาณ 9 แสน ถึง 1 ล้านคู่ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เนื่องจากผลการศึกษาได้ประเมินค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์และท่องเที่ยว โดยเฉลี่ย คู่สมรส 1 คู่ จะต้องใช้จ่ายเฉลี่ยคู่ละ 5 แสนบาท ต่อ ทริป คาดว่า จะเป็นมูลค่าตลาดถึง 5 แสนล้านบาทเลยทีเดียว โดยมีการใช้เวลาในไทย 1 เดือน ซึ่ง ททท ยินดีให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่


เปิดกว้าง รับพันธมิตรผู้ประกอบการทุกวงการ – รีสอร์ท โรงแรม สปา กูรูและโค้ชด้านสุขภาพ นักโภชนา การ ตลอดจน ผู้เชี่ยวชาญเพื่อสุขภาวะด้านการเจริญพันธุ์ จับมือ พัฒนาความแข็งแรงสมบูรณ์ของไข่และสเปิร์ม เพื่อพร้อมปฏิสนธิให้กับคู่สมรสชาวจีน 90 ล้านคู่ โดยประโยชน์ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะได้รับ คือ


การถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำหน้าจากทั่วโลก มายังประเทศไทยที่เป็นศูนยกลางของ การ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาวะเพือการเจริญพันธุ์ ผ่านรายการ Baby Smart บนแพลทฟอร์ม Smart TV. และ Gamete Wellness Program


การให้คำปรึกษา Pre – IVF via an O2O platform ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการ บริการด้านการทำผสมเทียมที่ดีที่สุดในโลก พร้อมทั้งลดความเสี่ยงให้กับนักท่องเที่ยวในการทำผสมเทียม


ยิ่งจากนี้ ผู้ประกอบการ และ พันธมิตร สามารถใช้นวัตกรรมการสื่อสาร ที่เป็น O2O แพลทฟอร์ม โดยเป็นการทำธุรกิจจากประเทศไทย สร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายนับล้านในประเทศจีนอย่างง่ายดาย พร้อมทั้งให้นักท่องเที่ยวคู่สมรสเข้าใจถึงขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของคนไทยก่อนเดินทางมายังประเทศไทย จนกระทั่งเดินทางกลับ ได้อีกด้วย” ดร. เหว่ยกล่าวสรุป


ททท เปิดเผยถึงสถิติของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีตัวเลขที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง โดย ททท มีการคดการ์ณว่า “ประเทศไทยอาจสามารถทำรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นมูลค่ามากถึง 3.03 ล้านล้านบาท โดยมีอัตราเติบโต 9.12% ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนสูงถึง 37.81 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.8% จากปีก่อน สามารถสร้างรายได้ 2.02 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.73% ส่วนนักท่องเที่ยวไทยนับเป็นจำนวน 157.83 ล้านครั้ง (โดย 1 คนอาจเที่ยวมากกว่า 1 ครั้งต่อปี) เพิ่มขึ้น 3.2% สร้างรายได้ 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.04%