ในไตรมาสที่ 1/2561 บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีเบี้ยประกันรับปีแรกจำนวน 2,677 ล้านบาท เพี่มขึ้นร้อยละ 6 จากไตรมาสที่ 1 ปี 2560 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นแบบประกันที่มีความคุ้มครองระยะยาวเช่นเดิม ตามที่ได้มีการปรับโครงสร้างแบบประกันตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา โดยการเน้นสัดส่วนการขายของแบบประกันที่มีความคุ้มครองระยะยาวมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้เอาประกันได้รับความคุ้มครองสูง ในไตรมาสที่ 1 นี้ บริษัทฯ ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบความต้องการของผู้เอาประกันแต่ละกลุ่ม ได้แก่ แบบประกัน “ห่วงรัก สมาร์ท” ที่เน้นความคุ้มครองชีวิต ควบคู่กับคุ้มครองอุบัติเหตุ รับประกันภัย คุ้มครองยาวถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสูงสุดถึง 400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย บีแอลเอ เพรสทีจไลฟ์ สำหรับผู้ที่ต้องการทุนประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีแบบประกันสะสมทรัพย์ “กรุงเทพ 118” ที่สร้างเงินออมได้ง่าย พร้อมความคุ้มครองรอบด้าน เริ่มต้น 40 บาท/วัน คุ้มครองนาน 18 ปี ชำระเบี้ย 12 ปี และรับเงินก้อนเมื่อครบสัญญา 118% ของเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระแล้ว บริษัทมีการทำการตลาดผ่านทุกช่องทาง ทั้งการกระตุ้นเบี้ยประกันของแบบประกันในช่องทางธนาคาร บริษัทยังผลักดันโครงการ 3BLINK แผนการลงทุนคู่ความคุ้มครอง ผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัทในช่องทางตัวแทนอย่างต่อเนื่อง
บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2561 จำนวน 314,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 ร้อยละ 2 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 89 จากผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 โดยบริษัทมีการกลับรายการสำรองพิเศษ (LAT Reserve) จำนวน 660 ล้านบาท เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ทำให้บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบันทึก LAT Reserve ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2561 นี้
ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ที่ระดับร้อยละ 256 โดยมากกว่ากฎหมายกำหนดกว่า 2.5 เท่า จึงแสดงถึงความมั่นคงในฐานะทางการเงินของบริษัท