ASAP โชว์งบไตรมาส 1/61 ทำรายได้รวมเติบโตแกร่ง 25% รับลูกค้าใหม่แห่ใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและระยะยาวเพิ่ม

‘ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์’ หรือ asap ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 เติบโตต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 608.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.32% และมีกำไรสุทธิ 35.49 ล้านบาท รับแนวโน้มรถยนต์ให้เช่าระยาวและรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการเพิ่ม ขณะที่การขายรถยนต์ครบสัญญาการเช่าช่วยดันอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีหลังทำราคาได้สูงขึ้น ด้านผู้บริหาร asap มั่นใจผลงานไตรมาส 2/61 ยังแจ่ม รับแผนรุกขยายฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 (มกราคมมีนาคม 2561) บริษัทฯ มีรายได้รวม 608.10ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 485.22 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 35.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.07% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตของผลการดำเนินงานมาจากความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น ที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นมากขึ้น โดยขยายจุดให้บริการภายในสนามบินที่ปัจจุบันมีอยู่ 7 แห่ง และนอกสนามบินภายในโชว์รูมรถโตโยต้า แอท ยูไนเต็ด สาขาเทพารักษ์ อีก 1 แห่ง รวมถึงเพิ่มฟลีทรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้ามากขึ้น มีผลให้อัตราการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาว ก็มีอัตราการเติบโตที่ดีจากการขยายตัวของฐานลูกค้าใหม่ๆ ไปยังกลุ่มลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม รวมถึงฐานลูกค้ากลุ่มเดิมก็ให้ความไว้วางใจต่อสัญญาเช่ารถยนต์ระยะยาวกับ asap อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานมีความมั่นคงที่ดีจากรายได้ค่าเช่าที่มีความสม่ำเสมอ เนื่องจากรถยนต์ให้เช่าระยะยาวเป็นพอร์ตรายได้หลักที่ทำสัดส่วนรายได้คิดเป็นมากกว่า 90% ของรายได้รวม

ขณะเดียวกัน asap ยังได้รับปัจจัยบวกจากภาวะราคาตลาดรถยนต์มือสองปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อราคาขายรถยนต์ต่อหน่วยที่ครบสัญญาเช่าที่เพิ่มขึ้นและมีผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วย โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ ได้จำหน่ายรถยนต์ที่ครบสัญญาเช่าไปแล้ว 251 คัน จากทั้งหมดในปีนี้ที่คาดว่าจะมีรถยนต์ที่ครบสัญญาเช่าทั้งสิ้น 1,200 คัน ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตด้านผลการดำเนินงานของ asap ได้เป็นอย่างดี

“เราพอใจกับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ ที่สามารถผลักดันการเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ของรายได้รวมและกำไรสุทธิ เนื่องจากความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในกลุ่มรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงการจำหน่ายรถยนต์ที่ครบสัญญาต่อหน่วยที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ asap เติบโตได้เป็นอย่างดี” นายทรงวิทย์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร asap กล่าวว่า ส่วนแผนดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ จะเพิ่มฟลีทรถยนต์ให้เช่าเพื่อรองรับการขยายการให้บริการรถยนต์ให้เช่าในปีนี้รวมประมาณ 5,000 คัน จาก ณ สิ้นปี 2560 ที่มีรถยนต์ให้เช่าพร้อมบริการทั้งสิ้น 10,559 คัน โดยในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มรถยนต์ใหม่เข้ามาให้บริการแล้ว 1,418 คัน และในไตรมาส 2/61 จะเพิ่มรถยนต์ใหม่เข้ามาให้บริการอีกประมาณ1,200 คัน ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพ asap ซึ่งมีแผนขยายการให้บริการใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น การขยายจุดให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น, การเปิดให้บริการจำหน่ายรถยนต์ที่ครบสัญญาเช่าในโครงการ asap Auto Park ที่จะเปิดบริการในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายจุดให้บริการ asap GO ไปยังอาคารสำนักงานเพิ่มเติม หลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น  ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ด้วยแนวทางการดำเนินงานของ asap ในปีนี้จะสามารถผลักดันการเติบโ30% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้