ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ – SORKON โชว์ผลงานไตรมาส 1/61 สุดแกร่ง ทุบสถิตินิวไฮ ทำกำไรสุทธิ 50.9 ล้านบาท เติบโต 72.9% และมีรายได้รวม 696.5 ล้านบาท หลังกลุ่มธุรกิจอาหารพื้นเมืองเติบโตพุ่งพร้อมบริหารจัดการต้นทุนการผลิตดี ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น ด้านผู้บริหารมั่นใจปีนี้เติบโต 10%
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 50.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 29.5 ล้านบาท และมีรายได้รวม 696.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 661.9 ล้านบาท โดยปัจจัยความสำเร็จมาจากกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ (อาหารพื้นเมือง, อาหารขบเคี้ยวและอาหารแช่แข็งพร้อมทาน) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ ทำยอดขายเติบโตขึ้น 11.9% รองลงมาได้แก่กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปที่ทำยอดขายเติบโตใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือเพิ่มขึ้น 1.8%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพซึ่งส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น โดยในไตรมาสแรกปีนี้ปรับตัวดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 32.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 29.6% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจอาหารพื้นเมือง ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ต่างบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการผลิตและวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เราประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ที่ทำสถิตินิวไฮ โดยเฉพาะกำไรสุทธิที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากเราสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้รักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีและนำไปสู่ตัวเลขกำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้นมาก” นายเจริญ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SORKON กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ จะสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจอาหารพื้นเมืองให้มากขึ้น โดยปรับแนวคิดการทำตลาดที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกด้าน ทั้งรสชาติ ราคาที่จับต้องได้ ความสะดวกในการรับประทาน รวมถึงปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามพิถีพิถัน ภายใต้ธีม ‘เพราะทุกคนสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด’ โดยจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่มารองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนภายใต้แบรนด์ ‘ยูนนาน’ และ ‘แซ่บ คลาสสิก’ จะเน้นกระจายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งด้านบริการเดลิเวอรี่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่นิยมสั่งซื้อจากที่พักอาศัยและสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ จะบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีไว้ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าด้วยแนวทางดังกล่าว จะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ที่ตั้งเป้าเติบโต 10% ตามแผนที่วางไว้