DDD โชว์กำไร Q1/61 โตกว่า 80% ปรับแพ็คเกจหลังได้ CFDA ส่งออกตลาดจีน ดันยอดขายโตต่อเนื่อง

“ดู เดย์ ดรีม” ฟันกำไรสุทธิ Q1/61 พุ่ง 80% หลังปรับงบโฆษณา-การตลาดในประเทศ ด้านยอดขายโต 5.4% ปรับแพ็คเกจสินค้าหลังได้รับมาตรฐาน CFDA ส่งออกตลาดจีน พร้อมขยายช่องทางจำหน่าย ดันยอดขายขายปี 61 โตต่อเนื่อง

นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชี และการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสเนลไวท์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 79.6% เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62.4 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 374.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 355.2 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้ของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการที่ยอดขายผลิตภัณฑ์เดิมที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่เริ่มจำหน่ายระหว่างปี 2560 ที่เริ่มรับรู้ รายได้เต็มงวดในปี 2561 โดยผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นมากที่สุดยังเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงต้นทุนการขาย และค่าใช้จ่ายในการขายที่ลดลงโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและส่งเสริมการขาย บริษัทฯได้ปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลังจากได้รับใบอนุญาตจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศจีน หรือ CFDAเมื่อต้นปี 2561 ซึ่งใช้เวลาปรับปรุงประมาณ 2 เดือน ทำให้มีการชะลอการส่งออกบางส่วนในช่วงไตรมาสแรก แต่จะกลับมาส่งออกได้ตามปกติภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ในขณะที่ปีนี้บริษัทฯยังคาดว่าผลประกอบการในปี 2561 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี2560 เนื่องจากยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะเติบโตขึ้น หลังจากบริษัทฯได้รับใบอนุญาตChina Food and Drug Administration หรือ CFDA หรือเครื่องหมายอาหาร และยา หรือ อย.ในประเทศจีน ทำให้สามารถนำผลิตภัณฑ์หลักขยายไปยังช่องทางจัดจำหน่ายอื่นเพิ่มเติมได้ เช่น การขายผลิตภัณฑ์ส่ง หรือ Wholesale รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์ที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงลูกค้า และมีมูลค่าตลาดที่สูง

โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่าน จูไห่ ดิวตี้ฟรี (Zhuhai Duty Free) ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าแห่งใหม่ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายจากการส่งออกได้ดียิ่งขึ้น และจะนำไปสู่การขายสินค้าแบบออฟไลน์ในอนาคต ซึ่งจูไห่ ดิวตี้ฟรี ตั้งอยู่บริเวณชายแดนกงเป่ย ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างเมืองจูไห่ประเทศจีน และมาเก๊า โดยมียอดนักท่องเที่ยวหมุนเวียนสูงถึง 136 ล้านคนต่อปี หรือเฉลี่ย 250,000 คนต่อวันในช่วงวันธรรมดา และ 400,000 คนต่อวันในช่วงวันหยุด ซึ่งการจำหน่ายสินค้าแบรนด์สเนลไวท์ที่จูไห่ ดิวตี้ฟรี จะช่วยให้ลูกค้าชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ได้ทำความรู้จักกับแบรนด์ และเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

“ในปีนี้เรายังคงเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศ และในจีนตามแผนซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้การส่งออกไปประเทศจีนอาจจะชะลอลงไปหลังจากต้องปรับบรรจุภัณฑ์ แต่หลังจากไตรมาสที่ 2 ก็จะสามารถส่งออกได้ปกติ ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายรวมของทั้งปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน ในขณะที่ปีนี้เราจะเน้นการทำ Online Marketing ให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาลง หลังจากสินค้าเป็นที่รู้จักแล้ว ทำให้ตัวเลขของกำไรมีทิศทางที่ดีขึ้น” นายปิยวัชรกล่าว