หากเอ่ยถึง “ตำนานห้างค้าปลีก” ในประเทศไทย เชื่อว่ามีจะหลายชื่อที่คนรุ่นใหญ่วัยเก๋าจำกันได้ดี และหนึ่งในทำเนียบชื่อห้างสรรพสินค้าดังในอดีตจะต้องมี “พาต้า” ของตระกูล “เสริมศิริมงคล” อย่างแน่นอน
ห้างสรรพสินค้า “พาต้า” อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ห้างสรรพสินค้าปิ่นเกล้า จำกัด และถ้าเอ่ยถึง ห้างพาต้า ที่คนไทยคุ้นหูอย่างดี หนีไม้พ้น “พาต้า ปิ่นเกล้า” เพราะสามารถปลุกทำเลธุรกิจอันไกลโพ้นในอดีตย่าน “ปิ่นเกล้า” ให้คึกคักมีสีสัน รวมถึงมีการสร้างปรากฏการณ์ให้วงการค้าปลีกยุคนั้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า “แห่งแรก” ในย่านฝั่งธนบุรี เป็นห้างแห่งแรกของเมืองไทยที่มี “ลิฟต์แก้ว” ให้บริการ และเจ้าของเรียกลิงกอริลลาว่า “คิงคอง” ตัวเดียว และหนึ่งในเดียวในประเทศไทย ซึ่งนำเข้าจากเยอรมันมาเป็นจุดขาย
“พาต้า ปิ่นเกล้า” เปิดให้บริการเมื่อปี 2525 และปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการอยู่ สารตะอายุก็ 36 ปีแล้ว แต่ห้างพาต้าสาขาแรก! กลับอยู่ที่ “อินทรา” หรือตรงย่านประตูน้ำ เปิดให้บริการราว ปี 2516 จากนั้นขยายมีสาขา 2 ที่ปิ่นเกล้า และสาขา 3 ที่หัวหมาก
กระทั่งบริษัทเผชิญช่วงเศรษฐกิตตกสะเก็ด และการแข่งขันห้างค้าปลีกในย่านราชดำริเดือด! มาก ทั้งทุนไทยทุนเทศ ไม่ว่าจะเป็นไดมารู จากญี่ปุ่น เดอะมอลล์ของไทย, อิเซตัน, เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์, โรบินสัน ยึดทำเลสู้กันสุดฤทธิ์ จนทุนไทยต้องถอยทัพ ปิดพาต้า อินทรา และหัวหมาก เพื่อเหลือไว้เพียง “พาต้า ปิ่นเกล้า” สาขาเดียวจนถึงทุกวันนี้
แม้มีสาขาเดียว พาต้า ปิ่นเกล้า ก็ไมได้บูมเหมือนในอดีต มีเหตุการณ์ดังแต่ละครั้งหลังๆ คือการแชร์สภาพน้ำท่วมห้างบ้าง และกรณีสัตว์ที่อยู่บน “สวนสัตว์พาต้า” ชั้น 6-7 ของห้าง ที่อยู่อย่างอนาถา จนมีการเรียกร้องให้ผู้ประกอบการย้ายสัตว์ออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะ “เจ้าบัวน้อย” ลิงกอริลลาในสวนสัตว์ ที่ห้างใช้เป็นแม่เหล็กดึงคนเข้ามาใช้บริการ มีข่าวการประกาศขายห้างมูลค่าเกือบ “พันล้านบาท” และว่า “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ซื้อกิจการไปแล้ว
ปัจจุบันสถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกเปลี่ยนแปลงไปมาก “ออนไลน์” เริ่มเข้ามาแย่งซีนพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคมากขึ้น หลายห้างปรับตัวโครมๆ รับมือเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด แต่ห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ก็ยังทำมาค้าขายอยู่เงียบๆ มีการจัดโปรโมชั่นสินค้าและบริการบริเวณชั้น 1 ของห้างอยู่เป็นระยะกระทั่งทุกวันนี้
ทว่า ล่าสุด ห้างพาต้า ตัดสินใจลุกขึ้นมาเกาะกระแสท่องเทียวบูม ด้วยการทุ่มสร้างโรงแรมราคาประหยัดเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็ก อย่าง “โฮสเทล” ในชื่อ “Tuk Tuk Hostel” ติดกับห้างพาต้า ปิ่นเกล้า และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นทางโฮสเทลประกาศเปิดให้จองห้องพักผ่าน Online Travel Agency อย่าง Booking, Agoda, Hotels.com ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และปัจจุบันได้ลูกค้าเข้าพักแล้วด้วย
จุดเด่นของ Tuk Tuk Hostel เริ่มจากชื่อแบรนด์ที่พัก ที่นำตุ๊กตุ๊ก หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักอย่างดี ดังนั้นการออกแบบดีไซน์จึงเป็นโทนสีฟ้าเหลืองของรถตุ๊กตุ๊กด้วย
ส่วนจุดขายอื่นๆ แน่นอนว่าทำเลที่ตั้ง ติดกับห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ไม่ได้ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างวัดวัง สถานที่ประวัตศาสตร์ ตลอดจนแหล่งบันเทิง “ถนนข้าวสาร” ในย่านพระนครมากนัก ขณะที่ห้องพัก ทางโฮสเทลก็โปรโมตจุดขายหลักๆ คือ การเดินทางเข้าไปยังโฮสเทลสะดวกสบาย รวดเร็ว จากถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานพระราม 8 ไม่ต้องเข้าซอยลึก นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นโรงแรมจากถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้
นอกจากนี้ ยังนำเสนอเรื่องของบรรยากาศที่พักมีความเรียบง่าย คลาสสิก สะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปลอดภัย และ “ราคา” เริ่มต้นตั้งแต่ 350 บาท (ขึ้นอยู่กับออนไลน์เอเยนซี่) เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายลุยแบกเป้ ซึ่งกลุ่มนี้เน้นที่พักราคาเบาๆ สะดวกและปลอดภัยเป็นใช้ได้
การปรับตัวครั้งนี้ ถือว่าน่าจับตาอย่างมาก เพราะการหันมาลุยธุรกิจเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว เป็นโอกาสที่ดี เพราะประเทศไทยป็นจุดหมายปลายทาง (Destinatoin) ของนักเดินทางทั่วโลกมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี ยิ่งถ้าทำดี บรรดานักท่องเที่ยวมักจะแชร์เล่าเรื่องราวที่พักต่อ ช่วยให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในการเปิดตัว Tuk Tuk Hostel วันแรก ทางผู้บริหารโครงการได้ทำบุญ พร้อมกับทวิตเตอร์ข้อความน่ารักๆ ว่า “เฮง เฮง รวย รวย” ส่วนจะเฮงหรือรวยไหม คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
สำหรับบริษัท ห้างสรรพสินค้าปิ่นเกล้า จำกัด มีรายได้ในปี 2559 ประมาณ 161 ล้านบาท ลดลง 6.47% จากปี 2558 และมีกำไรกว่า 600,000 บาท เท่านั้น ลดลง 25.09%
ขอบคุณภาพจาก Twitter : patadepartmentstore