หัวเว่ยก้าวสู่ระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ ขึ้นสู่อันดับที่ 79 ของ Forbes และอันดับที่ 48 ของ BrandZ™

หัวเว่ยไต่ขึ้นสู่อันดับที่ 79 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกปี 2018 โดย Forbes และเป็นบริษัทจากประเทศจีนเพียงหนึ่งเดียวที่มีชื่อในการจัดอันดับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยหัวเว่ยมีมูลค่าแบรนด์ตามการจัดอันดับอยู่ที่ 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังไต่ขึ้นสู่อันดับที่ 48 ใน 100 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกตามรายงาน BrandZ ™ โดยมีมูลค่าแบรนด์เพิ่มสูงขึ้น 22% ในปีที่ผ่านมา

หัวเว่ยมีชื่ออยู่ในการจัดอันดับของ Forbes เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา โดยอยู่ในอันดับที่ 88และมีมูลค่าแบรนด์ตามการจัดอันดับอยู่ที่ 7.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการจัดอันดับครั้งล่าสุดหลังจากขวบปีอันก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของหัวเว่ยซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อปีของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น 15% ส่งผลให้มูลค่าของแบรนด์เพิ่มเป็น 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอันดับตามการจัดอันดับของ Forbes เปลี่ยนจากอันดับที่ 88 ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 79 ในปีนี้ ทั้งนี้ หัวเว่ยยังคงเป็นบริษัทจากประเทศจีนเพียงบริษัทเดียวตามการจัดอันดับครั้งนี้อีกด้วย

สำหรับการจัดอันดับ 100 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกตามรายงาน BrandZ ™ ซึ่งเป็นการศึกษาแบรนด์ประจำปีที่รวบรวมโดย WPP และ Kantar Millward Brown รายงานว่า หัวเว่ยไต่ขึ้นสู่อันดับที่ 48 โดยมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 22% ในปีที่ผ่านมา และยังเป็นการติดอันดับติดต่อกันเป็นปีที่ 4 นอกจากนี้ในรายการยังระบุว่าแบรนด์จีนเป็นกลุ่มที่สะดุดตาที่สุดในรายงานฉบับปีนี้ เนื่องจากกลุ่มแบรนด์จีนมีอัตราการเติบโตสูงกว่าคู่แข่งอย่างสหรัฐฯเป็นครั้งแรกในการศึกษา

ในปี 2017 ที่ผ่านมา หัวเว่ยเติบโตในระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว จากการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นอย่างครอบคลุม ทั้งสมาร์ทโฟนในตระกูล Mate, P และ Nova โดยสมาร์ทโฟนระดับเรือธงทั้งP10 Series และ Mate 10 Series ส่งผลให้แบรนด์หัวเว่ยยกระดับขึ้นเป็นแบรนด์พรีเมี่ยมและมีอิทธิพลในตลาดกลุ่มไฮเอนด์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่น Nova Series ที่ตอบโจทย์ตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ล่าสุดนั้นถือเป็นเป็น
สมาร์ทโฟนซึ่งผู้บริโภครุ่นใหม่ชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง

ในปีนี้หัวเว่ยนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด P20 Series ที่กรุงปารีสเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่มีนวัตกรรมอันล้ำหน้ามากมาย ทั้งกล้องหลัง 3 ตัวที่พัฒนาร่วมกับ Leica การออกแบบที่โดดเด่นด้วยสีทไวไลท์ และเทคโนโลยี AI ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลให้ HUAWEI P20 Series เป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงในระดับโลก ข้อมูลของบริษัท IDC เผยว่าส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกของหัวเว่ยสูงสุดเป็นอันดับ 3 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 11.7% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2018 โดยเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว 13.8%

แบรนด์หัวเว่ยมี Brand Awareness ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเป็น 85% ในปี 2017 ที่ผ่านมา สอดคล้องกับอัตราการเติบโตต่อปีของ Brand Consideration ของผู้บริโภคในตลาดนอกประเทศจีนทั้งหมดซึ่งสูงขึ้นถึง100% นอกจากนี้ ข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด IPSOS บ่งชี้ว่า หัวเว่ยมี Brand Awareness, Brand Consideration และดัชนีชี้วัดความภักดีของลูกค้า (NPS) สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในท้องตลาดประเทศจีน

นอกเหนือจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes แล้ว หัวเว่ยยังมีผลงานยอดเยี่ยมตามการจัดอันดับแบรนด์ของสื่อมวลชนหรือองค์กรจัดอันดับต่างๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น อันดับที่ 70 ของการจัดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 100 แบรนด์ของ Interbrand เมื่อเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 หัวเว่ยยังอยู่ในลำดับที่ 25 ของการสำรวจแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก 500 แบรนด์โดยBrand Finance

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ยในตลาดโลกและอิทธิพลของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว รวมไปถึงการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ย โดยรายงานผลการดำเนินงานประจำปีของหัวเว่ยระบุว่างบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ยในปี 2017 นั้นอยู่ที่89.7 พันล้านหยวน หรือประมาณ 14.9% ของรายได้ โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยใช้งบปนระมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนาไปแล้วกว่า 3.94 แสนล้านหยวน

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2017 หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทั้งสิ้น 74,307 ฉบับ โดยจดสิทธิบัตรในประเทศจีนแล้ว 64,091 ฉบับ และในต่างประเทศ 48,758 ฉบับ โดยสิทธิบัตรเหล่านี้เป็นสิทธิบัตรการประดิษฐ์มากกว่า 90%

ในอนาคต หัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นคิดค้นผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยคำมั่นสัญญาในการทำให้แบรนด์หัวเว่ยเป็นแบรนด์ในใจที่ผู้บริโภครักอย่างต่อเนื่อง