- ลุยฝึกจริง ลงมือทำจริง ตลอด 2 เดือน เตรียมพร้อมทำงานจริงในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนธุรกิจ (Technology Disruption)
- ถ่ายทอดแนวคิด ‘Design Thinking’ ปลูกฝังกระบวนการคิดเชิงลึกที่เป็นระบบ
เมื่อเร็วๆ นี้ เอพี อะคาเดมี่ (AP Academy) โดย บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย นำโดย นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานต้อนรับนิสิตนักศึกษาพร้อมตัวแทนอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาชั้นนำในประเทศไทย เข้าสู่กิจกรรมปฐมนิเทศ “โครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2018 (รุ่นที่ 3) โปรแกรมพัฒนาให้นักศึกษาผู้ร่วมโครงการมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีกระบวนการคิดเชิงลึกอย่างเป็นระบบ โดยการนำกระบวนการ Design Thinking ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) เข้ามาปรับสอน เตรียมนักศึกษากลุ่มนี้ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของวงการอสังหาฯ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้าน เตรียมความพร้อมก่อนเข้าทำงานจริง เน้นให้ลงมือปฏิบัติจากการจำลองชีวิตในการทำงาน โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
หลักสูตรฝึกงานของเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2018 ในปีนี้เอพีได้ปรับให้มีความเข้มข้นขึ้นจากทิศทางการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เอพีเน้นพัฒนานักศึกษาให้มีกระบวนการคิดเชิงลึกอย่างเป็นระบบ โดยการนำกระบวนการ Design Thinking ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) เข้ามาปรับสอน โดยแบ่งเป็นสองโปรแกรมฝึกงานสำคัญ ได้แก่ โปรแกรมวิศวกรรมโยธา จำนวน 30 คน ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโปรแกรมด้านการตลาดและการขาย จำนวน 20 คน ซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้กระบวนการทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างครบวงจรมากขึ้น เมื่อสิ้นสุดโครงการนิสิตนักศึกษา จะได้รับใบประกาศนียบัตรจากเอพี อะคาเดมี่ สำหรับนิสิตนักศึกษาจำนวน 4 คนที่มีผลการฝึกงานที่โดดเด่นยังจะได้รับโอกาสจาก บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG)) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศญี่ปุ่น พันธมิตรทางธุรกิจของเอพี เพื่อเรียนรู้การทำงานที่นอกเหนือจากที่ได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ผู้นำองค์กรของเอพี กล่าวว่า “สถานการณ์การเข้ามาของยุคดิจิตอลทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว (Digital Disruption) ผมพยายามตั้งคำถามว่า ‘เราต้องการจะทำอะไร แล้วเราจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร’ และใช้ความเชี่ยวชาญในด้านดิจิตอลของเด็กรุ่นใหม่ในองค์กรเข้ามาสร้างความสะดวกสบาย รวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น เอพีต้องปรับตัวเช่นเดียวกันกับธุรกิจอื่นๆ จึงทำให้ทางบริษัทฯ ตัดสินใจร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของโลกด้านการคิดค้นนวัตกรรม เอพีจึงมั่นใจเลือกใช้กระบวนการ Design Thinking หลักสูตรของสแตนฟอร์ดนี้มาถ่ายทอดให้กับน้องๆ ที่ เข้ามาฝึกงานกับเรา โดยหวังว่ากระบวนการคิดที่เราได้ถ่ายทอดน้องๆ ไปจะเป็นเครื่องมือให้น้องๆ สามารถนำไปใช้จริงได้ในระยะยาว”
Design Thinking คือกระบวนการคิดเชิงการออกแบบ ที่ใช้ทำความเข้าใจในปัญหาต่างๆ อย่างลึกซึ้ง โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยแบ่งกระบวนการความคิดนี้เป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ Empathize Define Ideate Prototype และ Test เพื่อให้ได้นวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ โดยผู้ที่คิดค้นกระบวนการนี้มีความเชื่อว่าองค์กรทุกองค์กรต้องการคนที่มีความคิดเชิงสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อน จึงพัฒนากระบวนการคิดจนกลายมาเป็นกระบวนการ Design Thinking ที่มีขั้นตอนการผลิตความคิดสร้างสรรค์ให้ออกมาอย่างเป็นระเบียบ จนทำให้ทุกคนสามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
อาจารย์อุทัยฤทธิ์ โรจนวิภาต อาจารย์หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ กล่าวว่า “รู้สึกประทับใจโครงการโอเพ่น เฮ้าส์ของเอพีมาก ถือว่าเป็นโปรแกรมการฝึกงานเฉพาะด้าน และตรงสายอาชีพ ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ฝึกงานจริงๆ และได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมนี้มีความโดดเด่นมากในเรื่องของการได้ลงสนามทำงานจริง ซึ่งเป็นโอกาศที่หาได้ยากในห้องเรียน ซึ่งผมในฐานะอาจารย์ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญ เพราะนอกจากนักศึกษาจากทั้ง 2 โปรแกรมจะได้ลองทำงานในสายอาชีพที่ตนเองเรียนมาแล้ว ยังทำให้ได้รู้เป้าหมายที่แท้จริงของตนเองอีกด้วยว่าชอบสายอาชีพนี้จริงหรือไม่”
ว่าที่ ร.ต.อ. ดร. วิกรม พนิชการ อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวว่า “รู้สึกประทับใจมากที่เห็นเด็กๆ ของเรา ได้ร่วมโครงการดีๆ แบบนี้ จากปีที่แล้วที่มีเด็กจากคณะฯ ได้เข้าร่วมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาอย่างชัดเจน เขากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน กล้าบอกในสิ่งที่ตนเองเห็นต่าง ทำให้บรรยากาศการเรียนการสอนเปลี่ยนไป ทุกคนคอยให้ความร่วมมือ และ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอน โครงการนี้ช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของเด็กๆ แม้หลังจากจบการฝึกงานแล้ว เขาก็ยังนำวิธีการเรียนรู้ต่างๆ ที่ถูกฝึกมาใช้ในชีวิตจริง ทำให้เพื่อนร่วมห้องเรียนของเขาได้รับความรู้ไปด้วย”
รศ. ชื่นจิตต์ แจ้งเจนกิจ อาจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาตนเองของเด็กๆ กับผู้นำทางธุรกิจอสังหาฯ อย่างเอพี ทำให้สามารถเข้ามาศึกษาการทำงานของธุรกิจได้อย่างครบวงจร เพราะเอพีเป็นบริษัทที่มีการทำงานครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาที่ดินจนถึงขั้นตอนการบริหารจัดการโครงการหลังส่งมอบ การนำเด็กจากสาขาเรียนที่ต่างกันเข้ามาทำงานร่วมกัน ถือเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ เนื่องจากเด็กๆ ทุกสาขาต้องเข้าใจว่าในการพัฒนาธุรกิจไม่ใช่เพียงแค่เราเท่านั้นที่จะดำเนินธุรกิจได้ เราต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญจากหลายๆ สาขาอาชีพ การจัดฝึกงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจ และเรียนรู้การทำงานร่วมกันถือว่าเป็นสิ่งที่แตกต่าง และเอพีทำได้ดีมาก”
นายภูริพัฒน์ ลิมวัฒนานนท์ ตัวแทนนักศึกษาโปรแกรมวิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ชอบโครงการนี้ตั้งแต่ตอนได้เห็นหลักสูตร เพราะเอพีวางหลักสูตรไว้ชัดเจนว่าวันหนึ่งๆ ในการฝึกงานเราต้องทำอะไรบ้าง มันเป็นตัวการันตีว่าจะได้ฝึกงานตรงกับสิ่งที่เรียนมาจริงๆ ไม่ต้องลุ้นว่าจะได้ทำอะไรบ้างตลอด 2 เดือน ซึ่งแตกต่างกับการฝึกงานที่บริษัทอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้รับประสบการณ์ครบถ้วนทุกอย่างเหมือนโครงการนี้ และรู้สึกประทับใจมากที่เอพีให้ความสำคัญกับเด็กรุ่นใหม่อย่างพวกเรา”
นางสาววิลาวัณย์ ละอองดี ตัวแทนนักศึกษาโปรแกรมการตลาดและการขาย จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “รู้สึกไม่ลังเลเลยตอนที่เอพีเข้ามาให้ข้อมูลที่มหาวิทยาลัย ตัดสินใจสมัครทันที เนื่องจากเคยคุยกับรุ่นพี่ที่เข้าร่วมโครงการฯ เขาแนะนำว่าให้มา เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ร่วมงานกับเอพี ได้ลงมือทำงานในสนามจริง ประกอบกับที่บ้านทำกิจการเกี่ยวกับตกแต่งภายในอยู่แล้ว พอได้มีโอกาสได้เข้ามาเรียนรู้งานในองค์กรใหญ่ๆ ก็อยากรู้ว่ามีระบบการทำงานอย่างไร และต้องการพัฒนาตนเองในสาขาวิชาที่เรียนมาด้วย และวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศวันแรกก็รู้สึกถึงความเป็นกันเอง ได้รับการดูแลและคำแนะนำอย่างดีจากพี่ๆ ที่เอพี รู้สึกขอบคุณเอพีที่มอบโอกาสดีๆ ให้ค่ะ”
เอพี โอเพ่นเฮ้าส์ คือ การเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้มาฝึกอบรม เรียนรู้กระบวนการการทำงานจริง โดยมุ่งหวังให้สามารถนำความรู้และทฤษฎีมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในพื้นที่จริง และเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ที่สำคัญคือมิตรภาพความเป็นพี่น้องของทีมงานเอพี และมิตรภาพระหว่างเพื่อนๆ ว่าที่วิศวกร นักการตลาดและนักการขายของประเทศไทย