เจโนไซส์ส่งแอพ Happy Work ระบบบริหารจัดการพนักงานสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ เอาใจเจ้าของธุรกิจและพนักงานยุค NewGen

เจโนไซส์ สตาร์ทอัพ ภายใต้ JENOSIZE Digital Group เปิดตัวแอพพลิเคชัน HR Solution “Happy Work”ระบบบริหารจัดการพนักงานสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ ยืดหยุ่นเวลาทำงาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและพื้นที่สร้างสรรค์ในการครีเอทงาน บอกได้เลยว่างานนี้สบายใจทั้งเจ้านายและลูกน้อง เพราะวัดผลได้อย่างแม่นยำ ใช้งานง่ายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือ นำเทรนด์วิถีการทำงานแห่งอนาคต เอาใจ Office Worker

แนวคิด Happy Work เพื่อการทำงานที่แฮปปี้

ในยุคที่สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตจนกลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ จากสถิติของ Hootsuite และ Wearesocial เปิดเผยว่าในเดือนมกราคม 2561 ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสูงถึง 55.56 ล้านคน จากจำนวนประชากรไทยทั้งสิ้น 69.11 ล้านคน โดยกว่า 71% เป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ด้วยแนวคิดที่ว่าโลกดิจิทัลสามารถสร้างโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่า อีกทั้งเทคโนโลยีรอบตัวก็ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น แอพพลิเคชันต่างๆถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งเรื่องไลฟ์สไตล์ส่วนตัวและการทำงานของมนุษย์ยุคดิจิทัล

แก้จุด Pain-points เรื่อง HR

จุดเริ่มต้นของแอพพลิเคชัน Happy Work เกิดจากการมองเห็น Pain-points ในการวัดผลความสัมพันธ์ของพนักงานที่มีต่อองค์กรซึ่งทำได้ยาก โดยเฉพาะในส่วนงานการบริหารจัดการความสัมพันธ์พนักงาน ทั้งเรื่องการเช็คเวลาเข้า-ออกงาน, การแจ้งขาด ลา, การเบิกค่าใช้จ่าย, การรับเรื่องปัญหาที่พบในการทำงาน, การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า ด้วยรูปแบบของการทำงานสมัยใหม่ที่มีความยืดหยุ่นของสถานที่ทำงานและเวลามากขึ้น ระบบวัดผลแบบเดิมที่มีขั้นตอนยุ่งยาก และกระบวนการวัดผลที่จำกัดอย่างการสแกนนิ้วที่ออฟฟิตเท่านั้น จึงไม่เอื้ออำนวยให้กับไลฟ์สไตล์การทำงานของคนในยุคนี้ หรือในบางอาชีพเช่น เซลล์ หรือ AE ที่ต้องออกไปพบลูกค้าเป็นประจำ การสแกนนิ้วที่ออฟฟิตก็ไม่สามารถวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Best Performance on Flexible Life

ฟีเจอร์ของ Happy Work คิดค้นมาเพื่อสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพบนวิถีชีวิตที่ยืดหยุ่นได้ ประกอบด้วย 7 ฟีเจอร์พิเศษคือ

  1. ระบบ Check in เข้า-ออกงาน : ลืมการต่อแถวตอกบัตรหรือสแกนนิ้วแบบเดิมทิ้งไป เพราะ Happy Work ให้ผู้ใช้เช็คอินเข้าทำงานได้ง่ายเพียง 1 คลิกผ่านแอพพลิเคชัน โดยเชื่อมต่อบลูทูธกับ Beacon อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณขนาดจิ๋วที่ทำหน้าที่แทนเครื่องสแกนนิ้ว โดยส่งสัญญาณจากบริเวณที่ติดตั้งในรัศมี 3 เมตร พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับบริษัทที่มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาการทำงาน สามารถจัดการปรับระบบเวลาเข้า-ออกงานให้เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคนได้อีกด้วย
  2. GPS เข้า-ออกงานนอกสถานที่ : แม้ไม่ได้เข้าออฟฟิตเเต่ยังยืนยันสิทธิ์การเข้า-ออกงานได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการปักหมุดสถานที่ทำงานบนระบบ GPS ที่มีความแม่นยำสูง
  3. Daily Report : บันทึกการทำงานในแต่ละวันด้วยพื้นที่ไดอารี่ขนาดสั้น ทั้งยังสามารถเรียกดูย้อนหลังได้
  4. ลาหยุด : แจ้งลาทุกประเภทส่งตรงถึงหัวหน้าแบบไม่ต้องพึ่งเอกสารให้ยุ่งยาก ทั้งลาป่วย ลากิจ รวมทั้งเช็คสถานะวันลาคงเหลือสำหรับวางแผนพักร้อนยาวๆ
  5. แจ้งเบิกค่าใช้จ่าย : จะเบิกน้อยหรือมากก็แจ้งเบิกได้แบบไม่ต้องกลัวเอกสารตกหล่น ผ่านการอัพโหลดภาพใบเสร็จด้วยฟีเจอร์เบิกค่าใช้จ่ายที่แบ่งประเภทชัดเจนทั้งค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าซื้ออุปกรณ์ออฟฟิต ฯลฯ
  6. Employee Engagement & Privilege Program : ตอบแทนความมีน้ำใจของเพื่อนร่วมงานมากกว่าคำขอบคุณ ด้วยการกดให้คะแนนที่สามารถสะสมเพื่อแลกรางวัลสุดพิเศษได้ ทุกครั้งที่เจอเรื่องประทับใจจากเพื่อนร่วมงานก็เลือกกดได้เลยทั้งไอคอน Love, Great, Thank You, The Ultimate, Enjoy และ Congratulations ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้หัวหน้างานวัดการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานได้อีกด้วย
  7. Expressing Opinions : เพราะคนคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า อย่ารอที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงาน หรืออยากเสนอแนะให้ปรับปรุงในเรื่องใดก็บอกให้รับรู้ได้ เพียงแค่ผ่านพิมพ์ข้อความแล้วส่งตรงถึงผู้บริหาร เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน

ในองค์กรที่มีพนักงานหลายช่วงอายุ Happy Work จะทำงานอย่างไร

แนวคิดการทำแอพพลิเคชัน Happy Work เกิดจากความต้องการที่จะแก้ไขขั้นตอนความยุ่งยากในระบบ HR แบบเดิมๆให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพราะช่วยลดระบบงานเอกสารลง รวมถึงมีระบบการจัดเก็บข้อมูลวันทำงานของพนักงาน เพื่อใช้ในการประเมิน KPI ฉะนั้น Happy Work จึงสามารถเข้าถึงคนได้ทุกวัย เพราะใช้งานง่าย และเป็นตัวเลือกที่ดีในส่วนงาน HR สำหรับองค์กรทุกประเภท

Happy Work, Happy More

แม้จะไม่ใช่แอพพลิเคชันเกี่ยวกับ HR แอพแรกที่ถูกผลิตขึ้น แต่จุดเด่นของ Happy Work ที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆคือ การบาลานซ์ระหว่างการทำงานที่มีประสิทธิภาพและการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กร ไม่ว่าจะยุคสมัยใดทุกองค์กรต่างต้องการคนเก่งเข้าร่วมงาน แต่ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือการรักษาพนักงานเก่งๆให้ทำงานในองค์กรได้นานนั้นยากกว่าการเจอคนเก่งเสียอีก องค์กรที่มีทางเลือกในระบบการทำงานที่มากกว่าย่อมเป็นพลังดึงดูดใจให้พนักงานเก่งๆทำงานกับองค์กรได้นาน เห็นได้ว่าบริษัทระดับโลกทั้ง Google, Facebook, Amazon, Apple ต่างสร้างระบบการทำงานภายในที่เน้นบรรยากาศการทำงานที่ดีเพื่อเป็นการรักษาพนักงานเก่งๆเอาไว้

ตามหา Happy Work ได้ที่ไหน

ตอนนี้ Happy Work สามารถรองรับทั้งระบบ iOS และ Android ได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีหลายบริษัทในไทยให้ความสนใจทดลองใช้ Happy Work หนึ่งในนั้นคือบริษัทรถยนต์แถวหน้าจากประเทศญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า งานนี้ดูจะเป็นข่าวดีสำหรับชาว Office Worker ยุคใหม่ที่อยากปรับเปลี่ยนระบบไลฟ์สไตล์การทำงานให้มีลูกเล่นมากขึ้น ลองไปกระซิบบอกเจ้านายสักนิดว่าให้เข้าไปที่ happywork.jenosize.com งานนี้รับรองว่าแฮปปี้ทั้งเจ้านายและลูกน้องแน่นอน