BUILK ประกาศรับการลงทุนจาก AddVentures โดยเอสซีจี ร่วมเป็นพันธมิตรผลักดันซัพพลายเชนอุตฯก่อสร้างไทย-อาเซียน ด้วยแพลทฟอร์ม B2B เต็มรูปแบบ เล็งต่อยอดแนวคิด UNITED WE BUILK นำ AI-Blockchain พัฒนาบริการ พร้อมขยายจาก 5 ประเทศสู่ 10 ประเทศอาเซียน ด้าน AddVentures มั่นใจการลงทุนเอื้อประโยชน์ทั้ง BUILK-เอสซีจี-ผู้รับเหมารายเล็ก-รายกลางอีกกว่า 8 หมื่นราย
นายไผท ผดุงถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด หรือ BUILK ผู้พัฒนาแพลทฟอร์มการบริหารธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า ในขณะที่มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรรมก่อสร้างได้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี แต่รูปแบบการทำงานในวงการก่อสร้างไทยนั้นกลับพัฒนาไปได้ไม่มากนัก BUILK มองเห็นปัญหาที่วงการก่อสร้างไทยนั้นประสบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธีทำงานแบบเดิมๆ ยังปรับตัวไม่ทันกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่มาเร็วมาก ทำให้ทุกคนที่อยู่ในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Construction Supply Chain) ซึ่งประกอบด้วย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์/เจ้าของโครงการ (Developer/Owner) ผู้รับเหมาหลัก (Contractor) ผู้รับเหมาช่วงหรือผู้รับเหมา SMEs (Subcontractor) ผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง (Supplier) และโรงงานผู้ผลิตหรือแบรนด์วัสดุก่อสร้าง (Manufacturer) อยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยง ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอรองรับการตัดสินใจที่รวดเร็วในสถานการณ์ปัจจุบัน และอาจถูก Disrupt ในที่สุด เพราะ Pain Point เหล่านี้ BUILK จึงอยากนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ทุกชีวิตที่อยู่ในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นดีขึ้นและเติบโตไปพร้อมกัน
เพื่อขยายขีดความสามารถไปอีกขั้น BUILK จึงร่วมจับมือ AddVentures โดยเอสซีจี กับบทบาท Strategic Partner ภายใต้แนวคิด “UNITED WE BUILK” พร้อมความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้วงการก่อสร้างไทยก้าวทันกระแสโลกด้วยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ พัฒนากระบวนการซื้อ-ขายแบบ B2B และทำหน้าที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศให้แข็งแกร่ง พร้อมที่จะขยายแพลทฟอร์มไปทั่ว 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน
บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด เป็นสตาร์ทอัพไทยที่ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2552 เริ่มเปิดให้บริการ BUILK.COM ซอฟต์แวร์สำหรับบริหารธุรกิจก่อสร้าง “ฟรี” รายแรกในเอเชีย ภายใต้แนวคิดที่ต้องการพลิกโฉมวงการก่อสร้างให้ก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ปัจจุบัน มีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเอสเอ็มอีที่บริหารงานอยู่บนระบบของ BUILK.COM กว่า 25,000 บริษัท ใน 5 ประเทศ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา และกัมพูชา
จุดเด่นของ BUILK.COM คือ BUILK Cost Control ที่ช่วยควบคุมต้นทุนให้ผู้รับเหมาเอสเอ็มอี โดยเริ่มจากการตั้งงบประมาณ บันทึกต้นทุน ค่าใช้จ่าย และรายรับ สามารถทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้ ทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเอสเอ็มอีรับรู้ผลประกอบการแบบเรียลไทม์และบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีโมเดลธุรกิจหลากหลาย ได้แก่
1.Pojjaman 2 ระบบ ERP บนคลาวด์เต็มรูปแบบ สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ 2.BUILK.COM ระบบควบคุมต้นทุนออนไลน์ ใช้งานฟรี สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้าง SMEs 3.YELLO Smart Purchase บริการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างออนไลน์สำหรับผู้รับเหมา 4.JUBILI by BUILK ระบบบริหารงานขายและจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า สำหรับร้านวัสดุก่อสร้าง 5.PLOY by BUILK ระบบบริหารงานขาย-สร้าง-โอน สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และ 6.KwanJai by BUILK ระบบบริหารงานแจ้งซ่อม และบริการหลังการขายสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ บริการต่างๆ ของบริษัท เน้นการนำซอฟต์แวร์ไปปรับปรุงกระบวนการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับการให้บริการ เป็นลูกค้ากลุ่ม B2B ทั้งสิ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสนับสนุนของ AddVentures by SCG
ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures โดยเอสซีจี กล่าวว่า ปัจจุบัน ธุรกิจรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในไทยและอาเซียน โดยในปี 2560 นั้น ประเมินว่ามูลค่าตลาดวัสดุก่อสร้างในตลาดผู้รับเหมาในไทยมีมูลค่ามากกว่า 68,000 ล้านบาท และกว่า 75% ของมูลค่าดังกล่าว มาจากผู้รับเหมารายเล็กและกลาง เป็นกลุ่มที่ยังขาดการบริหารจัดการต้นทุนและการซื้อวัสดุก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีของ BUILK จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการแก้ Pain point ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนและซื้อวัสดุก่อสร้างของผู้รับเหมากลุ่มนี้ ซึ่งนับเฉพาะในไทยก็มีกว่า 8 หมื่นรายได้
“เรามั่นใจว่าด้วยศักยภาพของ BUILK ที่เป็นผู้นำในธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน และมีเทคโนโลยีหลากหลายทั้งซอฟต์แวร์บริหารจัดการต้นทุน แพลทฟอร์มบริหารจัดการการขายวัสดุก่อสร้าง แพลทฟอร์มซื้อขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ จะเป็นส่วนสำคัญให้ทั้ง BUILK AddVentures และเอสซีจี สามารถช่วยยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของภูมิภาค และช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถลดต้นทุนและบริหารจัดการธุรกิจได้แบบ Real-time” ดร.จาชชัว กล่าว
หลังจากนี้ เอสซีจีจะสามารถส่งเสริม BUILK ในการเติบโต (Scale up) ทางด้านการตลาด ด้านการกระจายสินค้า ทั้งในแง่ความหลากหลายของระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน การร่วมมือกับเครือข่ายดีลเลอร์ ตลอดจนการขยายเข้าสู่ตลาดต่างประเทศที่ทางเอสซีจีมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
ที่ผ่านมา AddVentures ได้สร้างความร่วมมือเชิงพาณิชย์ (Commercial Deal) กับ BUILK มาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อร่วมกันหาแนวทางที่จะสร้างคุณค่าสูงสุดแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ก่อนตัดสินใจเข้าลงทุนเพื่อสร้างความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในครั้งนี้
สำหรับ AddVentures โดยเอสซีจี เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกลางปี 2560 ก่อตั้งขึ้นเพื่อ ส่งเสริมศักยภาพและลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อให้เอสซีจีสามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งยังทำให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าและบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. Industrial 2. B2B และ 3. Enterprise