- ฟอร์ด มียอดขายในไตรมาสที่สองเติบโตสูงขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 15,442 คัน จากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และรถเอสยูวีขนาดกลาง ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์
- ยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนของฟอร์ดเพิ่มสูงขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขาย 32,677คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 6.7 เปอร์เซ็นต์
- ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังคงเติบโตสูงกว่าการเติบโตของตลาดรถกระบะโดยรวม โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.5 จุด จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 13.2 เปอร์เซ็นต์
ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2561 ด้วยตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ โดยมียอดขายรถยนต์รวมทั้งสิ้น 15,442 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะเกิดมาแกร่ง และฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ รถยนต์เอสยูวีขนาดกลางที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ในส่วนของครึ่งปีแรก ฟอร์ดทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดขายรวม 32,677 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมของฟอร์ดเพิ่มขึ้น 0.5 จุด เป็น 6.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ฟอร์ด เรนเจอร์ ตอกย้ำตำแหน่งรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดของฟอร์ดในประเทศไทย ด้วยยอดขายในไตรมาสที่สองเติบโตสูงขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 13,256 คัน โดย ฟอร์ด เรนเจอร์ มียอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดขายรวม 27,455 คัน
ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังคงเติบโตสูงกว่าการเติบโตของตลาดรถกระบะโดยรวมในปีนี้ โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.5 จุด เป็น 13.2เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของผลประกอบการอันแข็งแกร่งในไตรมาสที่สองของฟอร์ด ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,925 คัน
ยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนของฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ เพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 4,455 คัน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ครองส่วนแบ่งตลาดได้ 14.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.0 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
“ยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดรถกระบะที่มีต่อเนื่อง และความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์อเนกประสงค์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ สอดคล้องกับจุดแข็งของฟอร์ดทั่วโลก” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน กล่าว
“เราคาดการณ์ว่า ความต้องการฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นช่วงที่ฟอร์ดจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของเราทั้ง 2 รุ่นนี้ และยังเป็นช่วงที่เราจะเริ่มส่งมอบเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ให้แก่ลูกค้าฟอร์ดอีกด้วย” นาวสาวยุคนธร กล่าวเสริม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟอร์ดได้เปิดสายการผลิตเรนเจอร์ แร็พเตอร์ อย่างเป็นทางการ และจะเริ่มส่งมอบให้แก่ลูกค้าได้ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
เกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจของบริษัท ได้แก่ การออกแบบ ผลิต ทำการตลาด และบริการหลังการขาย สำหรับรถยนต์ รถกระบะ รถเอสยูวี รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในแบรนด์ฟอร์ด และแบรนด์ลินคอล์น ซึ่งเป็นแบรนด์ในตลาดรถหรู รวมถึงให้บริการด้านการเงินผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต และบริษัทกำลังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และแผนการสัญจรอัจฉริยะ ฟอร์ดมีพนักงานรวมประมาณ 202,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟอร์ด ผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด และฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ www.corporate.ford.com