ต่อยอดออนไลน์ จับมืออาลีบาบาพร้อมรุก O2O พาเอสเอ็มอีไทยโกอินเตอร์

แม้วันนี้อีคอมเมิร์ซจะมา Disrupt ธุรกิจการค้าในโลกออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง แต่ในวิกฤติยังมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ ด้วยการเปลี่ยนเป็นช่องทางที่ช่วย “ต่อยอด” สู่ความสำเร็จได้เช่นกัน

คุณโสมพัฒน์-คุณวัลลภา ไตรโสรัส

เช่นเดียวกับที่โครงการ “ตลาดต่อยอด เออีซี เทรดเซ็นเตอร์” จากบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเซ็ทเวิลด์ จำกัด ธุรกิจในเครือของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ภายใต้การดูแลของลูกสาวและลูกเขยคือ วัลภาและโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ได้วางรากฐานให้เป็นช่องทางการค้าแบบ O2O (Offline to Online)

ด้วยการเชื่อมโยงระหว่างการค้าแบบออฟไลน์จากโครงการตลาดต่อยอด เข้าด้วยกันกับการขายผ่านออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “ต่อยอดออนไลน์” ที่ได้อาลีบาบา พันธมิตรรายใหญ่จากจีนมาช่วยวางระบบแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้เชื่อมต่อกับอาลีบาบาดอทคอม โดยมีวัตถุประสงค์ให้แพลตฟอร์มนี้สามารถเป็นศูนย์กลางการค้าส่งสินค้าไทยระหว่างประเทศได้ในอนาคต

เบื้องต้นได้เซ็น MOU ร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่รายละเอียดเรื่องรูปแบบการเชื่อมต่อว่าสินค้าจากเอสเอ็มอีไทยจะแสดงผลอย่างไรบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบานั้น แจ็ค จาง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายซัพพลายเออร์ระดับโลก อาลีบาบาดอทคอม ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลในตอนนี้ โดยให้เหตุผลว่าต้องรอให้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าถึงจะสามารถให้ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้

เราเป็นแพลตฟอร์มไทยที่เชื่อมการขายกับอาลีบาบาให้เอสเอ็มอีไทยสามารถเปิดการขายกับจีนและสามารถหาลูกค้ากับอาลีบาบาทั่วโลกได้ด้วย

โสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเซ็ทเวิลด์ จำกัดกล่าว

โดยไม่จำกัดว่าผู้ประกอบการที่สามารถขายสินค้าบนแพลตฟอร์มต่อยอดออนไลน์จะต้องมีหน้าร้านในโครงการตลาดต่อยอดเท่านั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการขายเฉพาะออนไลน์อย่างเดียวก็สามารถลงทะเบียนใช้แพลตฟอร์มได้เช่นกัน แต่ลูกค้าที่อยู่ในโครงการตลาดต่อยอดจะได้รับสิทธิพิเศษแบบ One Stop Services เช่น บริการทางการเงินครบวงจร บริการโลจิสติกส์ บริการที่ปรึกษาต่างๆ ด้านเอสเอ็มอี รวมถึงการจับคู่ธุรกิจที่มีการคัดเลือกให้เหมาะสมกับลูกค้า โฟกัสที่การขายแบบ B2B เป็นหลักจึงเป็นจุดที่ทำให้ต่อยอดออนไลน์แตกต่างจากผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ ที่มีในตลาด

นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรด้านโลจิสติกส์และสถาบันการเงิน เช่น ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express, Nim Express, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายมั่นใจในความปลอดภัยของการชำระเงินและการติดตามของระบบขนส่ง

“สำหรับรายได้จากโครงการตลาดต่อยอดเกิน 50% จะมาจากค่าเช่าพื้นที่ในตลาด ที่เหลือคือค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าที่ปรึกษาทางการตลาด ค่า Transaction Fee จากออนไลน์ ภายในปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายเฉพาะบนต่อยอดออนไลน์ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3”

และไม่เพียงแค่เป็นพันธมิตรกับอาลีบาบาเพื่อเป็นช่องทางทำการค้ากับจีนเท่านั้น แต่ยังมีแผนร่วมมือเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์ม B2B ระดับโลกอีกกว่า 10 ประเทศ โดยภายใน 1-2 ปีนี้จะเข้าถึงประเทศใกล้เคียงในแถบเอเชียและเออีซี รวมถึงประเทศขนาดใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมาก เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย บราซิล จีน รัสเซีย แอฟริกา จากนั้นจะขยายให้ครอบคลุมไปทั่วโลก

สำหรับ “โครงการตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซนเตอร์” สาขาแรกตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดอยุธยา มีพื้นที่ทั้งหมด 300,000 ตารางเมตร จำนวน 6 อาคาร ใช้งบลงทุน 6,000 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ส่งออก เจ้าของธุรกิจ พ่อค้าส่ง ค้าปลีก ผู้ขายสินค้าออนไลน์ ลูกค้าองค์กร มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2561

เป้าหมายคือเพื่อเป็นตลาดกลางการค้าสินค้าอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศ ที่ครอบคลุมกลุ่มสินค้าและบริการที่มากที่สุด ให้เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างโอกาส ความเติบโตแก่เอสเอ็มอีไทยในกลุ่มสินค้าแฟชั่น กลุ่มอาหาร กลุ่มประดับยนต์ อุปกรณ์/ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง ไม่เฉพาะตลาดในประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV และทั่วโลก ด้วยปัจจัยที่เอื้อให้กลุ่มผู้ประกอบการในการต่อยอดธุรกิจของตนเอง 5 ข้อดังนี้

ทำเล ในพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่กำลังเติบโตด้วยจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกในระดับประเทศ และภูมิภาคอาเซียน

รวม หมวดสินค้าและบริการที่มากที่สุด กลุ่มผู้ประกอบการตลอดสายการผลิตทั้ง ผู้ผลิตวัตถุดิบ, สินค้ากึ่งสำเร็จรูป, สินค้าสำเร็จรูป, บรรจุภัณฑ์, อุปกรณ์ช่วยขาย และบริการต่อเนื่องที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและลูกค้า

ครบ ด้วยสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก บนพื้นที่ 300,000 ตรม. โกดังสินค้าให้เช่า ลานจอดรถกว่า 4,000 คัน ศูนย์ขนส่งอาเซียน

โอกาส สำหรับผู้ผลิตและผู้ค้าของธุรกิจทุกระดับ ในการเข้าสู่สนามการค้าระดับประเทศและนานาชาติ ด้วยความเป็นมืออาชีพของเครือ TCC ร่วมกันผลักดันการต่อยอดธุรกิจเอสเอ็มอีสู่ความมั่งคั่ง ยั่งยืน ถาวร

รวย พร้อมด้วยบริการสนับสนุนในทุกมิติจากภาครัฐและเอกชน ด้านการเงิน การส่งออก มาตรฐานสินค้า/บรรจุภัณฑ์ บริการออกแบบ และอื่นๆ อย่างครบวงจร

ซึ่งนอกจากสาขาที่บางปะอินแล้ว ยังมีแผนขยายสาขาโครงการตลาดต่อยอดไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี ตาก เพชรบุรี ชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่ใกล้ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ตลาดต่อยอดเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจการค้าระหว่างภูมิภาคและระหว่างอาเซียน โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีโครงการครอบคลุมครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ.