บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย อุปกรณ์ประเภท คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้แบรนด์ “แอนิเทค” (anitech) จัดงานเสวนา “IOT กับมาตรฐาน มอก. และอนาคตปลั๊กไฟ โดย anitech” เพื่อเชื่อมโยงและเป็นสื่อกลางด้านคุณภาพและความปลอดภัยระหว่างภาครัฐกับผู้บริโภค หลัง สมอ. กำหนดมาตรฐาน มอก. ใหม่ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมปลั๊ก IOT ที่ได้การรับรองมาตรฐานเจ้าแรกก่อนใคร ตั้งเป้ายอดขาย ปี 2561 อยู่ที่ 450 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมอันดับ 1 ของไทยด้วยมาร์เก็ตแชร์กว่า 50% ภายในปี 2563
โธมัส – พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ ประเภทคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้แบรนด์ “แอนิเทค” (anitech) เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบเหมือนกันสำหรับมาตรฐาน มอก. ที่ออกมา เพราะอยู่ตรงกลางระหว่างภาครัฐ และผู้บริโภค แน่นอนในสถานะของผู้ผลิตด้วย มองว่าต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นสินค้าต้องปรับราคาขึ้นให้ได้ตามมาตราฐานของ มอก. แต่ต้องเข้าใจผู้บริโภคถ้าจะซื้อปลั๊กไฟในราคาแพงมากจะเป็นภาระกับผู้บริโภค จึงปรับราคาขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทำให้กำไรไม่สู
แต่อย่างไร สุดท้ายแล้วเลือกที่จะมองภาพรวมไปถึงอนาคต ตามประกาศมาตรฐาน มอก. ผู้บริโภคต้องได้รับผลประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด จึงเลือกพัฒนาคุณภาพของสินค้าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าทำให้ปลั๊กไฟเป็นได้มากกว่าเพียงปลั๊กธรรมดาทั่วไป เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุเพลิงไหม้หรือมีผู้เสียชีวิตจากการใช้ปลั๊กที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. อีกต่อไป
ล่าสุด แอนิเทค (anitech) มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับมาตราฐานปลั๊ก IOT รุ่นที่ Connect ผ่าน Application และ Cloud Server ด้วย eSIM ซึ่งมีความเสถียรของซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์เป็นปลั๊ก IOT ตัวแรกในประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐาน มอก. ในช่วงเดือนกันยายนนี้จะเปิดตัวและวางจำหน่าย โดยประโยชน์ของปลั๊ก IOT ที่จะช่วยสร้างความสะดวกสบายและที่สำคัญคือความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน ปลั๊กสามารถรับคำสั่งให้เปิด – ปิดอุปกรณ์ได้โดยผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งมุ่งเน้นออกแบบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์กับเทรนด์ IOT
โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรับคำสั่งจากสมาร์ทโฟนทำหน้าที่คอยควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทปลั๊กได้ทุกๆ ที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้บริโภคสามารถจัดการตารางเวลาสำหรับการเปิด – ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้โดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น การตั้งเวลาเปิด – ปิดอุปกรณ์ แบบอัตโนมัติ คอยเตือนความจำว่าเราเปิด – ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนเข้าหรือออกจากบ้านได้ทุกที่ทุกเวลา
โธมัส – พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เผยต่อว่า ทุกๆ ผลิตภัณฑ์ของ “แอนิเทค” (anitech) สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นจุดแข็งที่ไม่ซ้ำใคร คือโมเดลธุรกิจแบบบูรณาการในแนวดิ่งที่ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเทคโนโลยีหลัก การพัฒนา อย่างต่อเนื่องจนถึงการผลิตสินค้าด้วยตัวเอง แนวทางดังกล่าวช่วยให้บริษัทฯ ได้รับรู้ถึงความคิดเห็นของลูกค้า ซึ่งยิ่งทำให้เรามองเห็นถึงรายละเอียดมากยิ่งขึ้นสำหรับการพัฒนาสินค้า การวางแผนและให้บริการลูกค้าต่อไป
“ที่ผ่านมายอดขายคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ในปี 2560 อยู่ที่ 300 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนชิ้นอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านชิ้น เติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 25% งบประมาณการตลาดปีนี้ (2561) อยู่ที่ 45 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้ประมาณการณ์ในปีนี้ โดยงบประมาณในส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นใน เรื่องของการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าในครึ่งปีหลัง บุกตลาดปลั๊ก IOT หรือ Smart plug เป็น Product Highline และตั้งเป้ายอดขายปลายปี 2561 ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลักดันยอดขายขึ้นมากกว่าปี 2560 ถึง 150 ล้านบาท กินพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดปลั๊กในประเทศไทยอยู่ที่ 30% นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอันดับ 1 ของไทย และช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ภายในปี 2563 อีกด้วย” โธมัส – พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี กล่าวสรุป