กิจกรรม Sportscar Together Day (SCTD) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร นับเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 70 ปีของปอร์เช่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการรวมตัวของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ศิลปินดาราผู้มีชื่อเสียง กิจกรรมประลองความเร็วและการแข่งขันรถยนต์ พร้อมความบันเทิงสำหรับผู้หลงใหลในยนตรกรรมสัญชาติเยอรมัน รวมไปถึงเพื่อนพ้องและทุกคนในครอบครัว
เหล่าบรรดาผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่นับพันและรถยนต์ปอร์เช่กว่า 300 คันได้เดินทางเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครั้งนี้ ณ Oasis Arena Show DC และในขณะเดียวกันยังมีการแข่งขัน Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) ในรุ่น 911
จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) ซึ่งจัดขึ้น ณ Bangsean Street Circuit จังหวัดชลบุรี ในบรรยากาศริมชายทะเลอีกด้วย
เป็นเวลา 70 ปี ที่รถสปอร์ตคันแรกภายใต้แบรนด์ปอร์เช่ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1948 ด้วยรถปอร์เช่ 356 “No. 1” ปอร์เช่ได้เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานไปพร้อมๆ กับการก้าวไปสู่อนาคตด้วยการเผยโฉมรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรก ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan)
วันแห่งความทรงจำ
ตลอดทั้งวันแขกผู้มีเกียรติทุกท่านได้รับทั้งสาระความรู้ของรถสปอร์ตสมรรถนะชั้นเลิศของปอร์เช่และความบันเทิงมากมายจากเหล่าศิลปินอาทิ นักร้องนักแต่งเพลงหนุุ่มอารมณ์ดี สิงโต นำโชค เจ้าหญิง R&B และคุณแม่ใจดี ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีเจมากฝีมืออย่าง DJ Yukio และ ดารานักแสดงสาวมากความสามารถ ไดอาน่า จงจินตนาการ ซึ่งรับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ไฮไลท์ของงานคือการเชื้อเชิญเหล่าครอบครัวคนรักปอร์เช่ร่วมร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดบนเวทีร่วมกับ สิงโต นำโชค พร้อมด้วยเค้กที่ประกอบขึ้นจากคัพเค้กกว่า 400 ชิ้น เรียงตัวเป็นรูปตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ และร่วมบันทึกภาพแห่งความทรงจำสุดประทับใจร่วมกัน
ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS Auto Service) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้จัดเตรียม “AAS Hospitality” สถานที่สำหรับรับรองลูกค้าและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมชมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ Thailand Super Series และ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) ซึ่งจัดขึ้น ณ Bangsean Street Circuit ท่ามกลางบรรยากาศริมชายทะเล
นอกจากนี้ตื่นเต้นประทับใจไปกับการรวมตัวของพลพรรค Porsche Club และ Das Treffen สัมผัสสุดยอดรถสปอร์ตที่หาชมได้ยากยิ่ง เพื่อการนี้ ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก รับหน้าที่บันดาลความฝันให้เป็นความจริง ส่งตรงสุดยอดยนตรกรรมจากเมือง Zuffenhausen ประเทศเยอรมนี ซึ่งสนับสนุนโดย พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Porsche Museum) ไม่ว่าจะเป็น
ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) รถสปอร์ตปลั๊ก–อิน ไฮบริด พลังแรงติดตั้งเครื่องยนต์วางกลาง ซึ่งรถคันดังกล่าวเคยทำลายสถิติเวลาต่อรอบต่ำกว่า 7 นาที บนสนาม Nürburging โดยเป็นคันเดียวกันกับที่ Jacky Ickx ขึ้นขับโชว์สาธารณชนก่อนเริ่มการแข่งขัน PCCA ณ ริมชายหาดบางแสน
โดย Porsche Museum ยังได้ส่งรถแข่งแรลลี่ Paris-Dakar ระดับตำนาน ปอร์เช่ 959 ตัวแทนของรถสนามที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่อัดแน่นอยู่ในรถแข่ง ผู้สามารถคว้าชัยชนะในรายการแข่งขันแรลลี่ที่ได้ชื่อว่าทรหดที่สุดในโลก บุกตะลุยผ่านเส้นทางทะเลทรายทุรกันดารทุกรูปแบบเป็นระยะทางกว่า 13,800 กิโลเมตร จนกระทั่งจบการแข่งขันด้วยตำแหน่งแชมป์อันดับหนึ่งและอันดับสองในปี 1986 มาจัดแสดงภายในงานนี้
ร่วมด้วยทริปการเดินทางทั่วโลกเพื่ออำลาการแข่งขันของรถปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในกรุงเทพมหานครนี้ อีกทั้งเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งของสุดยอดรถและสุดยอดนักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่ Earl Bamber เจ้าของตำแหน่งชนะเลิศในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ World Endurance Championship (WEC) จากการคว้าแชมป์ 4 สนามและอีก 5 โพเดียม ในฤดูกาล 2017 ซึ่งรถคันนี้ได้ปรากฎโฉมเพื่อสร้างสีสันให้แก่เหล่าคนรักรถ ณ ริมชายหาดบางแสนเช่นเดียวกัน
งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองสำหรับบรรดาผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติเยอรมันเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำให้กับ Sanjay Rekhi หนึ่งในสมาชิก Porsche Club Singapore ที่ได้ทำเซอร์ไพรส์พิเศษให้กับแฟนสาวของเขาด้วยการขอเธอแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศของกองทัพยนตรกรรมปอร์เช่ พร้อมการแสดงความยินดีจากเหล่าสักขีพยานผู้มาร่วมงาน
พร้อมกับกิจกรรมดังกล่าวในกรุงเทพมหานครฯ การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Porsche Carrera Cup Asia ก็ได้รับการจัดขึ้นบริเวณชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี เช่นเดียวกัน บรรดาแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตหลายพันคนได้ร่วมชื่นชมและให้กำลังใจนักแข่งที่ขับเคี่ยวกันบนรถแข่งปอร์เช่ ท่ามกลางบรรยากาศของทะเลและหาดทรายเป็นฉากหลังแสนสวยงาม
Arthur Willmann กรรมการผู้จัดการ ของปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “กิจกรรม Sportscar Together Day ทำให้เกิดการรวมตัวกัน ของบรรดาผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตจากปอร์เช่ รวมไปถึงมิตรสหายและบุคคลในครอบครัวของพวกเขา ปี 2018 จะเป็นปีที่ถูกจารึกว่า ปอร์เช่ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับชั้นนำของโลก ได้ก้าวเข้าสู่วาระครบรอบ 70 ปี เราทุกคนต้องการเฉลิมฉลองและกล่าวขานถึงเกียรติศักดิ์ที่สั่งสมมายาวนานของพวกเราให้ตราตรึงในความทรงจำ ไม่ลืมเลือนถึงที่มาอันเป็นจุดกำเนิด ผลงานความสำเร็จนานับประการที่เราได้รับ และอนาคตข้างหน้าที่กำลังรอคอยเราอยู่ Das Traffen เป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความชื่นชมที่คนไทยมีให้กับรถยนต์ปอร์เช่ แน่นอนว่าเราจะต้องตอบสนองต่อจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักของพวกเขาด้วยการจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ณ ที่แห่งนี้ กรุงเทพมหานคร”
เขากล่าวเสริมต่อไปอีกว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งและมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ เห็นได้ชัดจากการเปิดโชว์รูม Porsche ถึง 3 แห่งโดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS Auto Service) และผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แถลงข่าวการเปิดตัวของโชว์รูมแห่งที่ 4 ของประเทศไทยซึ่งจะเป็น Porsche Studio ณ ศูนย์การค้า Icon Siam ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทุกท่านจะได้สัมผัสกับยนตรกรรมปอร์เช่อย่างใกล้ชิดในช่วงปลายปีนี้”
จุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยความหมาย การรวมตัวจากทั่วทุกสารทิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังจากการเดินทางหลายพันกิโลเมตรจากหลากหลายประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บรรดาสมาชิกชมรม Porsche Club พร้อมทั้งสื่อมวลชนสายยานยนต์ ก็ได้มาถึงภายในงาน SCTD ขบวนรถสปอร์ตปอร์เช่จำนวนมากมายเคลื่อนที่เข้าสู่อาณาบริเวณและจอดเรียงกันบนพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ นี่คือการรวมตัวของยนตรกรรมปอร์เช่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รถยนต์ปอร์เช่หลายคันเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย และส่วนหนึ่งเดินทางมากจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย ในจำนวนทั้งหมดนี้ประกอบไปด้วยยนตรกรรมปอร์เช่มากมายหลากหลายรุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยปอร์เช่ 911 (Porsche 911), 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster), 718 เคย์แมน (718 Cayman),
พานาเมร่า (Panamera), คาเยนน์ (Cayenne) และ มาคันน์ (Macan) นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยรถปอร์เช่คลาสสิคถึง 6 คัน ซึ่งเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่เหล่านี้ได้ขับขี่มาจากสิงค์โปรจนถึงกรุงเทพมหานครด้วยความรักและความอดทนเพราะรถ 6 คันดังกล่าวนั้นปราศจากซึ่งเครื่องปรับอากาศใดๆ และสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวให้ประจักษ์ถึงเกียรติประวัติของยนตรกรรมสปอร์ตและยังแสดงออกถึงความรักในรถยนตรกรรมปอร์เช่อย่างแท้จริง
ตอบแทนสังคมด้วยการสร้างความฝันให้เป็นจริง
เนื่องในโอกาสพิเศษครบรอบ 70 ของการก่อตั้งองค์กร ปอร์เช่ในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นแนวหน้าของโลก มุ่งมั่นแบ่งปันและตอบแทนประโยชน์กลับคืนสู่สังคม ด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิ Make-A-Wish Foundation องค์กรการกุศลระดับโลก ที่มีวัตถุุประสงค์หลักในการช่วยเหลือเยาวชนผู้เจ็บป่วยร้ายแรงและด้อยโอกาส ปอร์เช่ร่วมสนับสนุนด้วยการมอบเงินบริจาคจำนวน 356,000 บาท ให้แก่ตัวแทนของมูลนิธิบนเวที กิจกรรมดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายในการเน้นย้ำถึงการสร้างความฝันให้กลายเป็นความจริง อันเป็นจุดกำเนิดของรถสปอร์ตคันแรก Porsche 356 No.1 Roadster ที่ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 70 ปีที่แล้ว
Fact and Figures
– สมาชิก Porsche Club Singapore ขับรถยนต์ปอร์เช่มาร่วมงาน SCTD เป็นระยะทางกว่า 2000 กิโลเมตร
– จำนวนกองทัพยนตรกรรมปอร์เช่ที่นำมาจัดแสดงภายในงานมีมากกว่า 300 คัน
– จำนวนรถยนต์ปอร์เช่ที่เดินทางจากสิงคโปร์และมาเลเซีย มาเข้าร่วมงานมีจำนวนทั้งหมด 42 คัน
– รถยนต์ปอร์เช่ คลาสสิกที่เข้าร่วมงานจำนวน 6 คัน ได้แก่ 1978 911SC, 1972 911 2.4 E, 1973 911 2.4 E, 1989 930 Flachbau, 1982 930, 1970 911T
– ในขณะที่เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร ตรงกับการครบรอบ 46 ปี ของรถปอร์เช่ 1972 911 2.4 E เช่นเดียวกัน
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี