นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมตลาดในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB) เปิดเผยว่า ทีเส็บเป็นองค์กรหลักในการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจไมซ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มทิศการเติบโตไปในทางที่ดี โดยในปี 2560 มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เดินทางมายังประเทศไทยกว่า 1,276,411 คน เติบโต 0.23% สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า104,641 ล้านบาท เติบโต 1.66% โดยในกลุ่ม Exhibition มีจำนวนทั้งสิ้น 215,992 คน คิดเป็น 17 % ของนักเดินทางทั้งหมด สร้างรายได้กว่า 18,869 ล้านบาท
ขณะที่การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญที่ไทยจะสามารถนำเสนอการจัดแสดงสินค้า บริการ รวมถึงนิทรรศการทางด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อเป็นศูนย์กลางการแสดงสินค้า บริการในกลุ่มดังกล่าว โดยการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2560 มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 2,812,592.03 ล้านบาท โดยเป็นประเภท B2B (การค้าขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ) มูลค่ากว่า 1,675,182.23 ล้านบาท และประเภท B2C มีมูลค่ากว่า 812,612.68 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่า B2C (การค้าขายระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภคโดยตรง) สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอีคอมเมิร์ซเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย Digital 4.0 สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจในการสร้างงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศ รวมถึงทำให้การเข้ามาร่วมออกแสดงงานและร่วมงานแสดงสินค้ามีความสะดวกและง่ายต่อการทำธุรกิจเพื่อสามารถยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมในองค์รวม
สำหรับการสนับสนุนการจัดงาน e-Biz Expo Asia งานแสดงสินค้าและบริการในด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ต้องการจะเริ่มต้นธุรกิจและต่อยอดธุรกิจให้ทันโลกในปัจจุบัน และเป็นการเปิดโอกาสให้แจ้งเกิดนักธุรกิจใหม่ๆ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติแล้วนั้น ยังคาดหวังในการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยได้แสดงศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ผ่านการจัดงานแสดงสินค้า และนิทรรศการ ซึ่งการจัดงานที่ผ่านมาพบว่ามีความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มอาเซียนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามทีเล็บเล็งเห็นว่าตลาดอีคอมเมิร์ซ ยังมีศักยภาพ และโอกาสเติบโตในระดับสูง การจัดงานที่ส่งเสริมการค้าการทุนในกลุ่มดังกล่าวจึงถือเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศให้เป็น 4.0 อีกด้วย