การพัฒนาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ จำเป็นต้องอาศัยพลังการขับเคลื่อนทั้งจากภาครัฐและภาคธุรกิจ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย จึงได้ร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ภายใต้การนำของกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย แถลงข่าวเปิดตัวความร่วมมือโครงการ “ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน ระยะที่ 4” พร้อมจัดเสวนาภายใต้หัวข้อ “Circular Economy Through Disruptive Innovation – นวัตกรรมสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน” เพื่อผลักดันให้ทุกภาคส่วนนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน สนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0
ภายใต้โครงการ ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน ระยะที่ 4 กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ผสานความร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรอิสระ เชื่อมโยงกับโครงการ “Big Brothers พี่ช่วยน้อง” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อร่วมส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานอุตสาหกรรม โดย ดาว ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านวัสดุศาสตร์ที่ดำเนินธุรกิจด้วยหลักการความยั่งยืนได้พัฒนาเครื่องมือลีนเพื่อสิ่งแวดล้อม (Lean Management for Environment) มาช่วยยกระดับมาตรฐานของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในโรงงาน ซึ่งสอดคลองกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เกี่ยวกับการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษ และผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศ
ดร.สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “ประเทศไทยกำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมถือเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ การยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบการสู่โรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory จะทำให้เกิดระบบการผลิตที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจะเป็นกรอบกำหนดให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน”
ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ของการดำเนินงาน โครงการ “ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน” ได้สร้างบุคลากรอุตสาหกรรมที่เข้าใจและตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมถึง 5,844 ราย ผลิตที่ปรึกษาด้านลีนเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งช่วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเพิ่มศักยภาพการผลิตและพัฒนามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยจนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้แล้วรวม 40 องค์กร ส่งผลเชิงบวกให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาทิ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ปริมาณ 1.5 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 150,000 ต้น ช่วยลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนด้านพลังงานได้ถึง 144 ล้านบาทต่อปี และช่วยให้ชุมชนโดยรอบมีความเป็นอยู่ที่ดีจากการมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอีกกว่า 922,000 คน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า “โครงการ ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน เป็นตัวอย่างของความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรอิสระ ที่ช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาขีดความสามารถของเอสเอ็มอีและอุตสาหกรรมไทยได้อย่างรอบด้าน ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “Big Brothers พี่ช่วยน้อง” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่มีความพร้อมมาร่วมช่วยเหลือผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อยในด้านต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและยกระดับมาตรฐานของเอสเอ็มอีไทยให้สามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลก อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืนต่อไป”
โครงการฯ ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและสากล โดยใน พ.ศ. 2557 ได้รับรางวัลชนะเลิศด้านความรับผิดชอบต่อสังคมแห่งภูมิภาคเอเชีย สาขาสิ่งแวดล้อม ( Asian CSR Awards)จาก The Asian Institute of Management – Ramon V. del Rosario, Sr. Center for Corporate Social Responsibility ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสังคมที่ดำเนินการโดยสถาบันการบริหารแห่งเอเชีย และใน พ.ศ. 2560 ได้รับรางวัลชนะเลิศองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่น สาขาการส่งเสริมไทยแลนด์ 4.0 จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย อันแสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างมีนัยสำคัญ
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “ดาว ยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรกในการปฏิบัติงานของ ดาว ทั่วโลก เรามีผู้เชี่ยวชาญ องค์ความรู้ และยินดีที่จะแบ่งปันช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ไทย ยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย เพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ไปด้วยกัน”
นอกจากนี้ ในวันเปิดตัวโครงการยังได้มีการจัดงานเสวนา หัวข้อ “Circular Economy Through Disruptive Innovation – นวัตกรรมสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน” โดยมีวิทยากรร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน นวัตกรรม และแหล่งทรัพยากร เพื่อช่วยส่งเสริม SMEs และภาคอุตสาหกรรมไทย ได้แก่ ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กองส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิตและพื้นที่อุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
เกี่ยวกับ โครงการ “ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน”
เกิดขึ้นจากความร่วมมืออย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 โดยมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย มีแนวคิดและความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมให้สามารถบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยอาศัยหลักการลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมในประเทศไทยทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มตั้งแต่จัดทำหลักสูตร คู่มือ ให้การฝึกอบรมหลักการลีนเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเป็นพี่เลี้ยงโดยมีทีมที่ปรึกษาเข้าไปร่วมวางแผนและให้คำปรึกษากับหน่วยงานหรือองค์กรที่เข้าร่วมโครงการในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของตนเองด้วยการบริหารสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสียด้วยการทบทวนการผลิตทั้งระบบตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบถึงการส่งสินค้าถึงลูกค้า การลดการใช้พลังงาน รวมไปถึงการเพิ่มความปลอดภัยพนักงานและกระบวนการทำงานต่าง ๆ หากองค์กรสามารถบริหารจัดการได้อย่างครบวงจร ทั้งด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว นอกจากจะช่วยลดความสูญเสียจากกระบวนการผลิต และลดต้นทุนการผลิตแล้ว ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อชุมชน ลูกค้า นักลงทุน และผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจได้อีกด้วย ซึ่งท้ายสุดจะช่วยสนับสนุนให้องค์กรเหล่านั้นสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมายด้านผลกำไรขององค์กรได้อย่างยั่งยืน
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยเป็นบริษัทชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ประกอบไปด้วย กลุ่มบริษัทดาว เคมิคอล ประเทศไทย รวมถึงกลุ่มบริษัทร่วมทุน เอสซีจี-ดาว ทั้งนี้ ดาว ประเทศไทย นับเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของดาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นผู้นำในด้านการนำเข้าเคมีภัณฑ์สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่ใช้สำหรับภาคการเกษตรและครัวเรือน ซึ่งกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือและเครือข่ายเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งต่อธุรกิจและสังคม