เพราะเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก การเปิดโอกาส สร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้รู้จักตัวเอง ได้รู้จักในสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้พัฒนาทั้งความคิดและร่างกาย เขาก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ D-Dance Thailand โดยครูอู๋ เปรมจิตต์ อำนรรฆมณี จึงได้คิดโปรเจกต์ “เด็ก Dance” ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้เด็กๆ ได้สร้างแรงบันดาลใจ ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้คอนเซปต์ Me, Hero ยอดมนุษย์สุดพลัง พร้อมจัดกิจกรรม SHOWCASE สุดซ่าแห่งปี กับการรวมตัวของน้องๆ วัย 4-11ปีในโปรเจกต์ จำนวน 100 คน ให้มาปล่อยพลังความสนุก ความซ่า ความน่ารักที่ซ่อนอยู่ในตัวทุกคนผ่านการเต้น! เมื่อวันก่อน ณ ควอเทียร์ อเวนิว ศูนย์การค้า เอ็มควอเทียร์
ครูอู๋ เปรมจิตต์ อำนรรฆมณี ผู้ก่อตั้งโครงการเด็ก dance และครีเอทีฟ เปิดเผยว่า “D Dance มองเห็นศักยภาพของเด็กไทย มองหาตัวแทน เด็กตาดีมองเห็นสิ่งที่ดี เด็กหูดีเลือกฟังสิ่งที่ดี เด็กหัวดีคิดแต่สิ่งดี เด็กใจดีทำแต่ความดี ซึ่งเชื่อว่าเด็กไทยมีศักยภาพ เพียงขาดพื้นที่และโอกาสในการแสดงออก พร้อมการพัฒนาทักษะของเด็ก โดยคุณครูที่มีความเข้าใจของเด็กในทุกๆ ด้าน ให้สังคมได้เห็นถึง เด็ก Dance เป็นโปรเจกต์เด็กแห่งปี ซึ่งเป็นการรวมตัวของเด็กๆ ที่ต้องการพื้นที่แสดงตัวตนผ่านการเต้น ร่วมแบ่งปันโอกาส ความฝัน แรงบันดาลใจ เพราะเราเชื่อว่า เด็กไทยคืออนาคตของชาติแต่เพียง…ขาดโอกาส โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้คอนเซปต์ Me, Hero ยอดมนุษย์สุดพลัง เพราะเรามองว่ายอดมนุษย์ คือ มนุษย์มหัศจรรย์ ยอดมนุษย์ คือคนธรรมดา และยอดมนุษย์ คือ ตัวของเด็กๆ เอง เราสร้างเด็กที่ไม่ได้แค่พัฒนาทางร่างกายความสามารถ แต่เรายังพัฒนาด้านจิตใจและความอดทน เพราะเราเชื่อว่า เด็กทุกคนควรถูกปลูกฝังให้มีความศรัทธาในตัวเองและเคารพต่อผู้อื่น เราสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนเป็นที่ถูกยอมรับและพึ่งพอใจต่อตนเองและเคารพผู้อื่น และเราให้เด็กได้เรียนรู้จักการแบ่งปันและหยิบยื่นโอกาสให้แก่สังคม”
สำหรับ หมอเกรท เสกสรร รวยภิรมย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสติ บอกว่า “มูลนิธิสติเป็นมูลนิธิเกี่ยวกับสุขภาพ การศึกษาให้กับเด็กไทยที่ด้อยโอกาส และผมเองก็เข้าไปดูแลเรื่องสุขภาพให้กับศูนย์ Hub สายเด็กด้วย ทำให้ได้รู้จักกับครูอู๋ และร่วมโปรเจกต์กัน เราให้เด็กที่มูลนิธิมาร่วมจอยตั้งแต่ปีที่แล้ว เด็กๆ แฮปปี้มาก ได้มาเต้น ได้มาออกกำลังกาย ได้พัฒนาตัวเอง มาถึงปีนี้ก็มีเด็กจากปีที่แล้วเหมือนกัน มีใหม่บางส่วน การเข้าร่วมในครั้งนี้เหมือนเขาได้เข้ามาอีกโลกหนึ่ง ได้มาสัมผัส ได้เรียนรู้ ได้เพื่อนใหม่ นี่คือสิ่งสำคัญที่เด็กทุกคนควรจะได้โอกาส ได้สนุก ได้เต้น ได้มีเพื่อน ซึ่งสังคมเราไม่ได้ให้โอกาสกับเด็กทุกคน ซึ่งสิ่งที่ครูอู๋ทำมันดีมากที่ให้โอกาสเด็กๆ ได้มีความสุข ตลอดเวลาที่ซ้อม เด็กๆ ตั้งใจกันมาก ผมคิดว่าสิ่งที่เขาได้จากการเข้าร่วมโปรเจกต์ในครั้งนี้ คือ เขาได้ทำอะไรที่เขาชอบ เขาเห็นว่าตัวเองพัฒนา เหมือนทำได้ เด็กๆ จะถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีอีก เขาอยากจะมา ครูก็ดี ทุกคนดี ทุกคนมาสร้างบรรยากาศบวกๆ ซึ่งทุกอย่างในโลกนี้มันก็ไม่ได้มีความบวกอยู่ตลอด ผมรู้สึกดีมากๆครับ”
ด้านบล็อกเกอร์เด็กชื่อดัง แพร พาเพลิน หรือ ณัฏฐนันท์ สนุ่นรัตน์ ไอดอลเด็กที่ทำตามความฝันตัวเองได้สำเร็จ บอกว่า “ดีใจมากค่ะ และตื่นเต้นมากๆ ที่ครูอู๋ชวนมาร่วมโปรเจกต์ ไม่เคยเต้นมาก่อนเลยค่ะ จับแปรงแต่งหน้าอย่างเดียว ตื่นเต้นมากๆ มาซ้อมทุกเสาร์อาทิตย์เลยค่ะ เรื่องท่าเต้นไม่ยาก แต่จะมีเรื่องไดอาล็อกที่ต้องพูดยาวๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีความฝัน พัฒนาตัวเอง ฝึกฝนในด้านนั้นๆ ให้ดีที่สุด แล้วทำความฝันให้สำเร็จ สู้ๆ นะคะ”
คุณแม่ธัญยธรณ์ พงศ์นราพัชญ์ และน้องข้าวหวาน-พชรอาภา หอเพชรรุ่งเรือน บอกว่า “โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากค่ะ น้องเข้าโครงการมา 2 ปีแล้ว จากการชักชวนของครูอู๋และทีมงาน เพราะก่อนหน้านี้น้องเรียนแจ๊สกับครูอู๋ ซึ่งการได้มาเข้าโครงการนี้ น้องบอกกับคุณแม่ว่าชอบมาก สนุกมาก ได้เพื่อนใหม่เยอะมาก คุณแม่อยากขอบคุณครูอู๋มากค่ะ เพราะสิ่งสำคัญที่น้องได้รับคือ การค้นพบตัวเอง น้องได้ไปอยู่ในกลุ่มสปีด และสแว๊ก จึงรู้ว่าตัวเองชอบฮิปฮอปมาก และเป็นการใช้เวลาว่างที่เป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ”
โปรเจกต์ เด็ก Dance 2018 ตอน Me, Hero ยอดมนุษย์สุดพลัง วางกลุ่มเป้าหมายไว้ที่เด็ก 3 กลุ่ม ที่มีอายุระหว่าง 4-11 ปี คือ 1.เด็กที่หลงใหลในงาน Performing Art อยู่ในครอบครัวที่เชื่อมั่นในพลังของเด็ก 2.เด็กจากกลุ่มมูลนิธิสติ และ 3.เด็กไอดอลที่มีความฝันและประสบความสำเร็จ เช่น น้องแพร-ณัฏฐนันท์ สนุ่นรัตน์ บล็อกเกอร์เด็กชื่อดัง, น้องภู บัวขาวน้อย จากรายการ Super10, น้องยูกิ จากรายการ We kid Thailand รวมกันทั้งหมดจำนวน 100 คน เข้าคลาสเพื่อฝึกฝน พัฒนาเด็กๆ ให้กล้าคิด กล้าแสดงออก และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ก้าวไปสู่ความฝันที่ตัวเองต้องการ